อนุโมทนา ๒๒ เมษายน

วันอัศจรรย์ สร้างภูมิคุ้มกันให้โลก

             เช่นกับทุกปีที่ผ่านมา ในวันคุ้มครองโลก ๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๖ ปีนี้ พุทธศาสนิกชนหลายหมื่นคนจากทั่วทุกภาคของประเทศ ตลอดจนทั้งที่เดินทางมาจากต่างแดน ข้ามน้ำข้ามทะเลมา เพื่อร่วมงานบุญสำคัญในการถวายไทยธรรมแด่พระเถรานุเถระ พระสังฆาธิการจากวัดต่างๆ ทั่วประเทศ จำนวนกว่า ๓,๐๐๐ วัดและพิธีตอกเสาเข็มต้นสุดท้าย สร้างหอฉันภัตตาหารของพระภิกษุ สามเณร

             ด้วยความเมตตาของพระเถรานุเถระจากวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เดินทางมาเป็นเนื้อนาบุญอันประเสริฐ แก่สาธุชนผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความศรัทธา ต่อพระรัตนตรัย ภาพแห่งความปลื้มปีติยินดีที่ปรากฏขึ้น ณ สภาธรรมกายสากลในวันนี้ จึงงดงามน่าประทับใจ สีเหลืองอร่ามด้วยผ้ากาสาวพัสตร์ฟากหนึ่ง สีขาวบริสุทธิ์ของชุดนักสร้างบารมีทั้งอุบาสก อุบาสิกา สาธุชนอีกฟากหนึ่ง พุทธบริษัททั้ง ๔ มาประชุมพร้อมกันด้วยความเบิกบานในการสร้างบุญ ภาพอันน่าจดจำอย่างนี้สมกับคำบรรยายใต้ภาพที่ว่า นี่คือ ความมั่นคงเป็นปึกแผ่นของพระพุทธศาสนาในผืนแผ่นดินไทย

        สร้างภูมิคุ้มกันโลกด้วยการ “หยุด” ใจ

                พิธีในภาคเช้าเริ่มต้นขึ้นเมื่อพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) เดินทางมาถึงศูนย์กลางพิธี นำสาธุชนปฏิบัติธรรม น้อมนำใจลงสู่แหล่งกำเนิดแห่งความสุข ความสันติอันเป็นฐานที่ตั้งเดิมของใจ คือ ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ บรรยากาศโดยรอบ แปรเปลี่ยนจากความร้อนในเดือนเมษายน เป็นความสงบนิ่ง เย็นกาย เย็นใจ แผ่ไปตลอดทั่วทั้งบริเวณ สันติภาพที่แท้จริง ที่ทุกคนสัมผัสได้ด้วยใจ เป็นเช่นนี้เอง

                สันติภาพของโลก ไม่อาจได้มาด้วยสงครามภายนอก ความรุนแรงต่างๆ ไม่สามารถนำไปสู่สันติภาพได้เลย แต่สงครามภายใน คือการเอาชนะกิเลสอาสวะต่างๆ ที่อยู่ภายในใจ นั่นคือ การสร้างสันติภาพที่แท้จริง ไม่มีความสูญเสีย ไม่มีค่าใช้จ่ายมีแต่ความสุข ความเบิกบานใจ เมื่อชาวโลกเอาชนะสงครามภายใน ขจัดความโลภ ความโกรธ ความหลง ให้ลดน้อยเบาบางลงไป จากคนหนึ่งคน เป็นสิบ เป็นร้อย พัน หมื่น แสนล้าน ไปจนถึงทุกคนในโลก เพียงหยุดใจไว้ในกลางตัว คุ้มครองสิ่งแวดล้อมภายในให้สะอาดบริสุทธิ์เช่นนี้ โลกก็จะได้รับการคุ้มครองด้วยธรรม และโลกก็จะมีอีกชื่อหนึ่งว่า“สันติสุข”

                หลังเสร็จพิธีในภาคเช้า มีการถวายภัตตาหารแด่พระเถรานุเถระและพระภิกษุสามเณรที่ติดตามจำนวนนับหมื่นรูป ด้วยภัตตาหารที่ได้รับการจัดเตรียมอย่างประณีต เจ้าภาพน้อมถวายด้วยความศรัทธา เล็งเห็นบุญใหญ่ที่จะบังเกิดขึ้นเป็นอริยทรัพย์ติดตามตนไปทุกภพทุกชาติ เป็นเสบียงในการสร้างบารมีต่อไป

                พิธีถวายภัตตาหารแด่คณะสงฆ์นับหมื่นรูป

              เจริญพระพุทธมนต์และแสดงปาฐกถาธรรม 

                พิธีในภาคบ่ายเริ่มขึ้นเมื่อพระเถรานุเถระและคณะพระสังฆาธิการจากวัดต่างๆ กว่า ๓,๐๐๐ วัดแปรแถวเข้าสู่ศูนย์กลางพิธี โดยพระราชภาวนาวิสุทธิ์(หลวงพ่อธัมมชโย) ให้การต้อนรับปฏิสันถาร จากนั้นพระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวรารามเจ้าคณะภาค ๔ กรรมการมหาเถรสมาคม เมตตาน่าพระภิกษุ สามเณรเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันคุ้มครองโลก

                   ต่อด้วยการแสดงปาฐกถาธรรมเรื่องวันคุ้มครองโลก ด้วยความเมตตาของพระธรรมกิตติวงศ์เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม

              “ถ้าเรายอมรับความจริงเบื้องต้นว่า มนุษย์ผู้มีกิเลสเป็นผู้ทำลายล้างโลก เบียดเบียนโลก การคุ้มครองโลกให้สําเร็จก็ไม่ไกลเกินเอื้อม เพราะพระพุทธศาสนาเราสอนไว้ว่า ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ เมื่อเหตุดับทุกสิ่งก็ดับ หมายความว่า ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นมีต้นตอ มีสาเหตุทั้งสิ้น อยากจะพูดถึงเรื่องการคุ้มครองโลกตามแนวของพระพุทธศาสนา สอนว่าวิธีคุ้มครองโลกที่ดีที่สุดก็คือ การสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่โลก ภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดก็คือใจมนุษย์ ใจมนุษย์ที่เป็นภูมิคุ้มกันดีที่สุด ก็คือใจที่มีธรรมะ และธรรมะที่ดีที่สุด ก็คือ หิริ และโอตตัปปะ นี่เป็นที่ยอมรับกัน ใจที่มีหิริ โอตตัปปะ จะเป็นใจที่มีภูมิคุ้มกัน เมื่อใจมีภูมิคุ้มกันที่ดีแล้วก็จะไม่ไปทำลายโลก นั่นก็คือเท่ากับว่า โลกมีภูมิคุ้มกันด้วย หิริ โอตตัปปะคืออะไร หิริคือความละอายใจ ความละอายแก่ใจตัวเองที่จะไปทําความชั่ว ไปทําความผิด ละอายต่อการประพฤติทุจริตต่างๆ ส่วนโอตตัปปะคือความเกรงกลัว กลัวผลของความชั่ว กลัวผลที่จะติดตามมา หิริ โอตตัปปะเป็นโลกบาลธรรม คือเป็นธรรมคุ้มครองโลก ใจที่มี หิริ โอตตัปปะ จะมีภูมิที่เข้มแข็งเข้มข้น และใจที่เข้มแข็งเข้มข้นนั่นแหละสามารถทำความดีได้ฉะนั้นเราต้องมาสร้าง มาปลูก หิริ โอตตัปปะ ให้เกิดขึ้นในใจคนเสียก่อน แล้วค่อยไปคุ้มครองโลกกัน”

มหาสังฆทาน ๓,๐๐๐ วัด

                พิธีสำคัญที่สาธุชนใจจดจ่อรอคอยนั่นคือ พิธีถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระเถรานุเถระ สาธุชนผู้ใจบุญ แปรแถวเข้าพื้นที่อย่างเป็นระเบียบ เพื่อเตรียมตัวถวายปัจจัยไทยธรรม จากนั้น คุณอนันต์อัศวโภคิน เป็นตัวแทนสาธุชนกล่าวคำอัญเชิญเทวดาและกล่าวคำถวายจตุปัจจัยไทยธรรม ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลแต่หนักแน่น กระแสเสียงนั้นน้อมนำใจให้ระลึกถึงบุญที่ได้กระทำในขณะนี้ ตระหนักถึงความสำคัญของการได้เกิดเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้สร้างมหาทานบารมีด้วยการถวายสังฆทานแด่พระเถระในคราวเดียวกันกว่า ๓,๐๐๐ วัด นับเป็นบุญลาภอย่างยิ่ง ที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้าสาธุชนยกเครื่องไทยธรรมขึ้นตั้งจิตอธิษฐาน แล้วน้อมถวายแด่พระเถระด้วยความเคารพ ดวงบุญสว่างไสวย่อมบังเกิดขึ้นที่ศูนย์กลางกายของทุกท่าน ติดตัวไปปกป้องคุ้มครอง ให้ประสบแต่ความสุขความเจริญในชีวิตยิ่งๆ ขึ้นไปไม่มีถอยหลัง

                ทานที่ให้ผลมาก ได้บุญมาก มีองค์ประกอบ ๓ ประการ คือ วัตถุบริสุทธิ์เจตนาบริสุทธิ์ และบุคคลบริสุทธิ์ การถวายสังฆทานแด่พระเถรานุเถระ ๓,๐๐๐ วัดครั้งนี้ ครบองค์ประกอบทั้ง ๓ ประการเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ ผลบุญมหาศาลกลั่นเป็นดวงบุญสว่างที่กลางใจของทุกท่าน เมื่อหวนรำลึกถึงคราใด ดวงบุญก็จะยิ่งสว่างใสขึ้นตามลำดับ เกิดเป็นมหาปีติ หล่อเลี้ยงใจไปตราบนานเท่านาน

       สานฝันคุณยาย ตอกเสาเข็มต้นสุดท้าย 

                นับเวลาจากเช้าจรดบ่ายของวันคุ้มครองโลกปีนี้ทุกนาทีล้วนเป็นนาทีแห่งการสร้างบุญ ทั้งการให้ทานรักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนา น้อมนำใจของทุกท่านมากลั่นให้บริสุทธิ์ ผ่องใส ส่งผลมาถึงกาย และวาจากพลอยบริสุทธิ์ ผ่องใสไปด้วย เพื่อเตรียมตัวร่วมพิธีสำคัญอีกพิธีหนึ่ง คือ การตอกเสาเข็มต้นสุดท้าย สร้างหอฉันภัตตาหารของพระภิกษุ สามเณร

                สาธุชนเดินทางจากสภาธรรมกายสากล มุ่งหน้าสู่บริเวณพิธี ณ ลานก่อสร้างหอฉัน แม้เวลานั้นจะล่วงไปกว่า๑๖.๐๐ น.แล้วก็ตาม แต่แสงแดดยามบ่ายเดือนเมษายน ดูจะขยันทํางานเป็นพิเศษ แผ่นดินผืนกว้างซีมซับไอแดดกล้าไว้เต็มที่ อุณหภูมิกลางแจ้งสูงกว่าอุณหภูมิในร่างกายคนเราหลายองศา แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ด้วยดวงใจที่ฉ่าเย็นด้วยบุญหล่อเลี้ยงสาธุชนทุกท่านแย้มยิ้มรับแสงแดดอุ่นเข้าสู่ลานพิธีด้วยดวงหน้ายิ้มละไม ในใจคิดถึงคุณยายหมายจะสานฝันการสร้างหอฉันให้สำเร็จดังปณิธานที่คุณยายตั้งใจไว้

                พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) เดินทางมาถึงศูนย์กลางพิธีนำสาธุชนนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมกลั่นกาย วาจา ใจ ให้บริสุทธิ์ผ่องใสอีกครั้ง จากนั้นพระเดชพระคุณหลวงพ่อกดปุ่มตอกเสาเข็มต้นสุดท้าย ปั้นจั่นเริ่มทํางานตอกเสาเข็มที่ได้รับการปิดทองเหลืองอร่ามชำแรกลงสู่พื้นดิน ขณะเดียวกันเจ้าภาพผู้มีบุญก็ตอกเสาจําลองด้วย “ฆ้อนสําเร็จ” พร้อมกัน เสียงปั้นจั่นใหญ่กับฆ้อนเล็กๆ กว่า ๔,๐๐๐ อันประสานเสียงกันราวกับดนตรีทิพย์บรรเลงเพลงสวรรค์

                ดวงใจของเหล่าสาธุชนอิ่มเอิบด้วยบุญใสๆ แลเห็นโครงงานการก่อสร้างหอฉัน ก้าวหน้าไปเป็นลำดับ อีกไม่นานหอฉัน ฝันของคุณยายก็จะสำเร็จเป็นอัศจรรย์ ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของลูกหลานยายทุกคน สถานที่แห่งนี้จะเป็นที่สร้างบุญบารมีของพวกเรา เราจะได้ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุ สามเณรคราวเดียวกันนับหมื่นรูป เพียงแค่คิด ก็ปีติแล้ว

                หลังพิธีตอกเสาเข็มแล้วมีการถ่ายรูปประวัติศาสตร์ร่วมกัน โดยมีพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) ยืนอยู่เบื้องหน้าเสาเข็มต้นสุดท้าย แวดล้อมด้วยพระภิกษุ สามเณร และเหล่าสาธุชน ภาพแห่งความประทับใจเกิดขึ้นอีกภาพหนึ่ง เป็นภาพประวัติศาสตร์การสร้างบารมีที่ไม่มีกระดาษบันทึกภาพใดจะคู่ควรเท่ากับการบันทึกลงในดวงใจของเหล่านักสร้างบารมีลูกหลานคุณยายทุกคน