การขยายเครือข่ายคนดี
ภารกิจอันยิ่งใหญ่ของยอดนักสร้างบารมี
คนดี แม้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งย่อมยังประโยชน์ให้เกิดขึ้นแก่โลกนี้อย่างมหาศาล เพราะคนดีมีสัมมาทิฐิย่อมนำพามหาชนทั้งหลาย ไปสู่เส้นทางแห่งการสร้างความดี ดุจดั่งหมู่คณะที่แรมทางในยามค่ำคืน แม้มีเพียงผู้เดียวที่ถือคบไฟ เขาย่อมสามารถนำทางให้แก่ผู้เดินตามอีกมากมาย ไปสู่จุดหมายปลายทางได้
ดังนั้น การสร้างคนดีให้เกิดขึ้นในสังคม ถือเป็นงานสําคัญที่ทุกฝ่ายจะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน และจะต้องกระทำอย่างเป็นระบบไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้เกิดเป็นเครือข่ายคนดี ที่แต่ละคนต่างก็มีความผูกพัน มีเป้าหมายอุดมการณ์เดียวกันและพร้อมที่จะออกมารวมตัวกันทำความดี มิใช่ต่างคนต่างแยกกันทำความดีเงียบๆ ตามลำพังเหมือนเช่นที่ผ่านมา
ปัจจุบันกระแสของสังคมหล่อหลอม ให้คนไทยส่วนใหญ่เหินห่างจากศีลธรรม และมีค่านิยมในการดำเนินชีวิตที่เบี่ยงเบนไปจากสมัยปู่ย่าตายาย ถ้ามีใครสักคนหนึ่งจะลุกขึ้นมาชวนผู้อื่นทำความดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งชวนให้ทําทาน รักษาศีล และเจริญ
ภาวนา กลับจะถูกมองว่าเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด เป็นเหตุให้คนดีไม่กล้าที่จะแสดงตัวไม่กล้าที่จะออกมาแสดงพลังของคนดี ซึ่งหากขืนปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ คนดีก็จะเกิดความท้อแท้ และหมดกำลังใจ พากันปล่อยตัวเองให้จมหายไปกับกระแสอันเชี่ยวกรากของสังคมในที่สุด
...ถึงเวลาแล้วที่คนดีจะต้องมารวมตัวกัน
เพื่อสร้างและขยายเครือข่ายคนดีให้เกิดขึ้น
ในสังคมไทยให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ...
ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่คนดีจะต้องมารวมตัวกัน เพื่อสร้างและขยายเครือข่ายคนดีให้เกิดขึ้นในสังคมไทยให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อช่วยกันนำศีลธรรมอันดีงามให้หวนคืนกลับมาสู่สังคมไทยเฉกเช่นในอดีต
นอกจากนี้การรวมตัวกันของคนดี ในลักษณะที่เป็นเครือข่าย จะก่อให้เกิดสายสัมพันธ์ในการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ในหมู่คนดีและที่สําคัญเครือข่ายคนดี ที่ผูกพันกันอย่างเหนียวแน่น จะช่วยให้คนดีเกิดกําลังใจ และมีความมั่นใจในการทำหน้าที่ ให้แสงสว่างแก่ชาวโลกยิ่งๆ ขึ้นไป
ในการเริ่มต้นขยายเครือข่ายคนดีแน่นอนว่าจะต้องเริ่มต้นจากพวกเราเหล่ากัลยาณมิตร ที่ได้มีโอกาสมาพบกับแสงสว่างแห่งธรรมะ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อนใครๆ ดังนั้นพวกเราทุกคนจะต้องสวมหัวใจของยอดกัลยาณมิตร ผู้นำบุญ เชิญชวนบุคคลรอบข้างของเรา ให้ก้าวตามมาสู่เส้นทางการสร้างบารมี ให้โอกาสแก่ชาวโลกทั้งหลายได้ทราบถึงเป้าหมายของการเกิดมาเป็นมนุษย์ที่แท้จริงว่า เราเกิดมาเพื่อสร้างบารมีโดยมีพระนิพพานเป็นเป้าหมายปลายทางอันสูงสุดของทุกๆ ชีวิต
การขยายเครือข่ายคนดีเป็นภารกิจอันยิ่งใหญ่ ของยอดนักสร้างบารมีทั้งหลาย เป็นหน้าที่อันมีเกียรติที่จะช่วยสร้างคนดี มีสัมมาทิฐิ ให้เกิดขึ้นในสังคม และจะแผ่ขยายไปสู่สังคมโลกในอนาคตอันใกล้ เมื่อใดที่เครือข่ายคนดีได้ถักทอสายใยจนครอบคลุมไปทั่วทั้งโลก เมื่อนั้นรอยยิ้มที่งดงามของมวลมนุษยชาติที่เกิดจากสันติสุขอันไพบูลย์ย่อมจะปรากฏขึ้นอย่างแน่นอน
สานสายใยสร้างเครือข่ายคนดี
กัลฯพลกฤษณ์ กิจประชากร
ประธานชมรมคหบดีสัมพันธ์
>>> ชมรมคหบดีสัมพันธ์เกี่ยวข้องอย่างไรกับการสร้างเครือข่ายคนดี
“ชมรมของเราเริ่มก่อตั้งในช่วงต้นปี พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยนำแนวคิดเรื่องการสร้างเครือข่ายคนดีของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโว มาทดลองปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม เริ่มต้นจากรวบรวมกลุ่มเจ้าของกิจการให้มารู้จักสัมพันธ์กัน ผลก็คือได้ความสนิทสนมคุ้นเคยในหมู่สมาชิก และเกิดเป็นเครือข่ายคนดีขึ้นมานอกจากนี้เรายังสามารถขยายการสร้างเครือข่ายคนดีให้ลงไปถึงในระดับพนักงานของโรงงานต่างๆ ได้อีกด้วย
ส่วนในปีนี้ ชมรมของเรามีนโยบายเพิ่มเติม ที่จะสนับสนุนการจัดสัมมนา ให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้างเครือข่ายคนดีอย่างเป็นระบบแก่กัลยาณมิตรของเรา เพื่อให้การขยายเครือข่ายคนดีได้ผลทันตามเป้าหมายคือ วันคุ้มครองโลก ๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๗ ที่ในวันนั้นเราอยากจะเห็นผู้คนในสังคมไทยหันมาทำความดีร่วมกันให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ครับ...”
> > > จากการจัดสัมมนาที่ผ่านมาได้ผลเป็นอย่างไรบ้าง
“ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ชมรมคหบดีสัมพันธ์ร่วมกับสโมสรพันธุ์ตะวัน จัดงานสัมมนาให้กับกัลยาณมิตรแก้วภูธรที่ จ.เพชรบูรณ์ ผ่านไปแล้วรวม ๓ รุ่น และยังได้จัดการสัมมนาย่อยในอีกหลายจังหวัด ผลก็คือผู้นําบุญของเรามีความตื่นตัว ที่จะสร้างเครือข่ายคนดีเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด”
>>> หลังจากการสัมมนามีแนวทางการทํางานที่เป็นรูปธรรมชัดเจนหรือไม่
มีครับ การสัมมนาได้สอนอะไรผมหลายอย่าง ยกตัวอย่างนะครับ สมัยก่อนเวลาออกไปทําหน้าที่ ผมต้องใช้เวลานั่งคุยกับเขานานมาก บางราย ๒-๓ ชั่วโมงก็มี แต่เดี๋ยวนี้ผมสร้างบารมีได้ง่ายขึ้นมากครับ เพราะการสัมมนาสอนให้ผมรู้จักใช้เทปธรรมะอย่างถูกวิธีและสอนให้พวกเราจัด “การเปิดใจที่บ้าน” ซึ่งเมื่อกลับมาทดลองทำดู ปรากฏว่าได้ผลดีมากครับ ผมจัดกิจกรรมแค่ ๒-๓ ครั้ง สามารถชวนคนใหม่ที่ยังไม่เคยเข้าวัด ขึ้นไปนั่งสมาธิที่พนาวัฒน์ได้ถึง 90 กว่าคน และผมก็ทราบมาว่ากลุ่มประตูน้ำ และกลุ่มกัลยาณมิตรเมืองพัทยา ก็จัดกิจกรรมนี้ได้ประสบความสําเร็จเช่นเดียวกัน
ผมก็อยากจะบอกกับทุกท่านนะครับว่า “ถึงเวลาแล้วที่พวกเราทุกคนต้องหันมาให้ความสําคัญกับการสร้างเครือข่ายคนดี ด้วยการชวนคนให้หันมาทำความดีกันให้มากๆ เพื่อให้สังคมนี้สงบร่มเย็น เป็นดินแดนของคนที่มีศีลมีธรรม ลูกหลานของเราจะได้อยู่อาศัยกันอย่างผาสุกต่อไปครับ...”
เปิดบ้าน-เปิดใจ สร้างคนดีให้สังคมไทย
การจัดเปิดใจที่ศูนย์กัลยาณมิตรเมืองพัทยา
“การเปิดใจที่บ้าน” คือ หนึ่งในกิจกรรมการสร้างเครือข่ายคนดี ที่ใช้บ้านหรือศูนย์ปฏิบัติธรรม ต้อนรับหมู่ญาติ เพื่อน หรือคนรู้จัก เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นได้มีโอกาสมารับฟังธรรมะในหัวข้อง่ายๆ ที่เหมาะสมสำหรับคนส่วนใหญ่ในสังคมไทย
นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้มาใหม่ได้ทดลองนั่งสมาธิด้วย เพื่อเป็นการผ่อนคลายความเครียดจากวิถีชีวิต วิธีการง่ายๆ ประจําวัน พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงผลดีจากการฝึกสมาธิ ที่จะช่วยทําให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งทางร่างกายและจิตใจ
ช่วงท้าย จะมีผู้นำบุญมาถ่ายทอดประสบการณ์ ถึงผลดีของการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา ที่ตัวเองประสบพบเจอมา เพื่อให้ผู้มาใหม่ได้มีกำลังใจที่จะทำความดีร่วมกันต่อไป กิจกรรมนี้เปรียบเสมือนกับการเปิดประตูเชื้อเชิญ ผู้คนในสังคมให้หันกลับมาเริ่มต้นทำความดีโดยมีพวกเราเหล่ากัลยาณมิตรทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง คอยประคับประคองผู้มาใหม่ ให้ก้าวไปบนเส้นทางแห่งความดีได้อย่างมั่นคงต่อไป
ความสําเร็จทีเกินคาด
กัลฯอุทัย คูตระกูล ภาคนครหลวง ๑
“หลังจากมาเข้าร่วมสัมมนาที่ จ.เพชรบูรณ์ กลุ่มประตูนํ้าของเรามีเป้าหมายตรงกันว่า เราจะมาจัดทําโครงการเปิดใจที่บ้าน เพื่อชักชวนคนใหม่ๆ ให้ได้มีโอกาสสร้างความดี สร้างบุญบารมี ซึ่งผลดีหลังจากที่จัดกิจกรรมไป ๖ ครั้งก็คือ เราสามารถเปิดใจคนใหม่ให้ก้าวเข้ามาสู่เส้นทางแห่งความดี โดยที่เราก็คาดไม่ถึงเลยว่า เขาจะมีความสนใจและตื่นตัวในกิจกรรมที่เราจัดขึ้นมากขนาดนี้ และเมื่อเขาเริ่มมีความศรัทธาและมาร่วมกิจกรรมซ้ำอีก เราก็สามารถส่งเขาเข้าโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันได้ และสามารถแนะนำให้เขาไปปฏิบัติธรรม ๓ วันหรือ ๗ วันได้อีกด้วยครับ..."
การทํางานที่เป็นระบบ
กัลฯอรพินท์ อ่อนนาค ภาคนครหลวง ๔
“หลังจากที่ได้ลองมาเข้าร่วมกิจกรรมที่บ้านของคุณอาพลกฤษณ์ รู้สึกประทับใจมากค่ะ เพราะเป็นแนวทางการขยายเครือข่ายคนดี ที่ชัดเจนและเป็นระบบ โดยให้พวกเราผู้นำบุญเป็นผู้นําเนินกิจกรรมเองทั้งหมด ได้มาเห็นถึงการทำงานเป็นทีมแล้วทำให้เกิดกำลังใจ รู้สึกว่าเราไม่ได้ทำหน้าที่กัลยาณมิตรอยู่คนเดียว อีกประการหนึ่ง ปัจจัยต่างๆ ที่คอยสนับสนุนการจัดกิจกรรมนี้ก็พร้อม ไม่ว่าจะเป็นพระอาจารย์ที่มาให้คำแนะนำ รวมทั้งสื่อธรรมะต่างๆ ที่ได้จัดเตรียมไว้ให้เป็นอย่างดี ทำให้เรามีกำลังใจและมีความหวังที่จะขยายเครือข่ายคนดี ให้เกิดขึ้นในสังคมไทยได้โดยเร็วค่ะ....”
