"อดทน" หรือ "ทนอด'

วันที่ 17 ธค. พ.ศ.2563

"อดทน" หรือ "ทนอด'

 

631218_b.jpg


             "นอกจากปัญญาแล้ว ตถาคตสรรเสริญว่า ขันติ เป็นคุณธรรมอย่างยิ่ง"

 

             นี่เป็นพระดำรัสของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่แสดงให้เห็นว่า  ถ้าหากไม่มีความอดทนเป็นพื้นฐานก็ ยากที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้

 

             ใช่แล้วคร้บ วันนี้ผมนำเรื่อง ความอดทน ซึ่งเป็นคุณธรรมสำคัญ ที่ขาดไม่ได้ในการแสวงหาความรู้ เพื่อเพิ่มพูนปัญญาให้แก่ตัวของเรามา เล่าให้ฟังคร้บ

 

              คำว่า "อดทน" มีความหมายแยก เป็น ๒ คำ คือ
              "อด" เป็นอาการที่อยากจะได้ แต่ไม่ได้
              "ทน" เป็นอาการที่ไม่อยากได้ แต่ต้องได้

 

             เพราะฉะนั้น คำว่า "อดทน" จึงหมายถึง การรักษาภาวะปกติของ ตนไว้ได้แม้จะถูกกระทบกระทั่งจากสิ่งที่ปรารถนาหรือไม่ปรารถนาก็ตาม

 

             แน่นอน น้องๆ ที่มาเรียนหนังสือในทุกวันนี้ คงอยากจะรู้ว่า ตัวเองมีความอดทนในการศึกษาเล่าเรียนเพียงไหน ลองตามมาดูตัวอย่าง  บางช่วงชีวิตของพี่ที่จำเป็นต้องอดทนเพื่ออนาคตกันบ้างครับ จะได้ลอง นำมาเปรียบเทียบกับความโชคดีของน้องๆ และเป็นเครื่องกระตุ้นเตือน ใจให้หมั่นศึกษาเล่าเรียนเพิ่มขึ้นครับ

 

อดทนต่อความลำบากตรากตรำ

 

            ฤดูหนาวของจังหวัดเชียงใหม่ อากาศจะหนาวจัด เพราะเป็นเมือง ในหุบเขา ด้านทิศตะวันตกมีดอยสุเทพตระหง่านเป็นปราการหลังอยู่ เมื่อมีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมมาจากประเทศจีน ทำให้ อุณหภูมิลดตํ่าลงมาก จนทำให้ครูเสาวภา ครูประจำชั้นประถมปีที่ ๗ ของผม ซึ่งย้ายภูมิลำเนามาจากภาคใต้ ท่านแพ้อากาศ ไม่มีเสียงพูดเลย ต้องใช้การจดบนกระดานดำ หรือภาษาใบ้สอนนักเรียน น่าเห็นใจมากคร้บ

 

            ตัวของผมเอง ด้วยความจนบังคับ จึงต้องไปช่วยพ่อแม่ค้าขาย ในตอนกลางคืน กลับถึงบ้านก็ประมาณเที่ยงคืนเป็นอย่างน้อย แต่ด้วย นิสัยรักการอ่าน การเรียนรู้ ก็จะต้องนั่งอ่านหนังสือที่โต๊ะซึ่งคุณพ่อต่อ ให้ใช้ทำการบ้านทุกคืน อ่านเรื่อยมาจนถึงตีสามตีสี่ จึงทำให้รู้ว่าอากาศที่ เชียงใหม่จะเย็นจัดจนใกล้รุ่งนี้เอง

 

             อากาศที่เย็นจัดอย่างนี้ ทำให้นิ้วมือนิ้วเท้าพลอยเป็นปัญหาขยับ ไม่ค่อยได้ ผมก็เลยต้องต้มนํ้าร้อนใส่ถัง แล้วผสมนํ้าให้อุ่นมาไว้ใต้โต๊ะ เพื่อใช้แช่เท้า และเอาผ้านวมคลุมตัวไว้ โผล่แต่ศรีษะออกมา ก็เลยทำให้ อ่านหนังสือต่อไปได้ ไม่รู้ว่าน้องๆ สมัยนี้ อ่านหนังสือลำบากลำบนอย่าง นี้บ้างไหม ถ้าน้องอ่านสบายกว่าผมล่ะก็ นับว่าเป็นบุญเป็นโชคของน้อง แล้ว ควรที่จะเอาใจใส่ ตั้งใจหมั่นศึกษาเล่าเรียนให้เต็มที่ครับ

 

            แต่ทว่า เรื่องนี้ก็เป็นความอดทนในระดับที่เรียกว่า ความอดทนต่อ ความลำบากตรากตรำทางกาย เป็นความอดทนระดับต้นเท่านั้น ยังมี ความอดทนที่ยิ่งกว่าที่เราจะต้องฝึกฝนต่อไป

 

อดทนต่อทุกขเวทนา

 

           ความอดทนในระดับสูงขึ้นมาอีก เป็นความอดทนต่อทุกขเวทนา  ซึ่งผมได้เคยเล่าให้น้องๆ ฟังในคราวก่อน คือ แม้จะไม่สบายเพียงไหน ถ้ายังลุกไหว ก็จะไปเรียนให้ได้ เพราะถ้าไม่ได้เป็นโรคอะไรที่ร้ายแรง ยังไงเสียก็คงไม่ตาย เมื่อไม่ตาย แล้วเราจะมานอนซมอยู่ทำไม ด้วยเป้าหมายในใจที่จะตั้งใจเรียนหนังสือให้ได้ เราต้องไปเรียน ไปเพื่อตัวเรา อย่าคิดว่า สิ่งที่เราทำนี้ เพื่อคนอื่น ต้องคิดว่าเป็นการกระทำ เพื่อฝึกฝนตัวเองทั้งนั้น ทำให้ในสมุดบันทึกเวลาเรียนนั้น ผมไม่เคยขาด เรียนเลย

 

         ในชั้นประถมต้น แม่ให้เงินมาโรงเรียนวันละ ๑ บาท เป็นค่า อาหารทั้งเช้าและกลางวัน ค่าอาหารที่โรงเรียนจานละ ๑ บาท ถ้ากิน อาหารเช้า ก็ต้องอดอาหารกลางวัน ส่วนขนมก็ไม่ต้องพูดถึง นั่นก็หมายความว่า ผมต้องเลือกมื้อใดมือหนึ่งนั่นเอง ผมเลือกเก็บเงินไว้ชื้อ กินมื้อกลางวันครับ เพราะฉะนั้น มื้อเช้าต้องยอม "อด"

 

         ระหว่างพักเรียนช่วงสิบโมงเช้า ผมต้องรีบไปที่ก็อกประปาของ โรงเรียน ซึ่งต่อกับท่อนํ้าขนาด ๒ นิ้ว ต่อยาวๆ มีรางคอนกรีตรองรับน้ำ ข้างล่าง มีก๊อกเรียงเป็นแถว แล้วกินนํ้ากลั้วท้องเป็นเวลาหลายๆ ปี จน กระทั่งเข้ามหาวิทยาลัยด้วยนํ้าหนักตัว ๔๕ กิโลกรัมเท่านั้น ความ หิวโหยเป็นอย่างไร นึกภาพออกเหมือนราวกับเกิดขึ้นไม่นานนี้

 

         น้องๆ สมัยนี้โชคดี พ่อแม่มีให้กินครบมื้อ หรือมากกว่าเสียอีก ขอ ให้อย่าลืมเผื่อแผ่คนที่ขาดแคลนบ้างนะครับ

 

อดทนต่อการกระทบกระทั่ง

 

         ความอดทนในระดับสูงขึ้นมาอีกเรียกว่า อดทนต่อการกระทบ กระทั่ง ถ้ามีคนตั้งแต่สองคนขึ้นไป ก็มีโอกาสที่จะกระทบกระทั่งกันแน่นอน และสิ่งที่ทำให้เจ็บใจมากที่สุดคงไม่มีอะไรเกินคำพูด

 

         คำพูดแม้เป็นเพียงลมปาก แต่จะพูดให้คนใจตกหมดกำลังใจ  หรือมีกำลังใจในการทำความดีก็ได้ หลวงพ่อของผมท่านสอนว่า ไม่ว่าจะ เป็นการพูด การเขียนก็ตาม ถ้าทำให้คนฟังหรือคนอ่านทำความดีเพิ่มขึ้น ให้เรารีบทำทันที ไม่ต้องรีรอ ซึ่งผมถือเป็นข้อคิดตลอดมา จึงมาเขียน เล่าเรื่องต่างๆ ให้น้องๆ ฟัง เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่มาอ่านพบ และนำไปคิดประยุกต์ใช้ในชีวิต

 

         ผมพูดอยู่เกือบ ๑๐ ปี จนวันหนึ่ง คุณพ่อ
         คงรำคาญ เลยย้อนกลับมาว่า "กัาคิดว่า
         บุหรี่ไม่ดี ลูกอย่าสูบ อย่าทำตามได้ไหม"
         ผบตอบทันทีว่า "ได้ครับ" และด้วยความ
         มั่นใจในกำลังใจของตนเอง จึงกล่าวเสริมไป
         ว่า "ผมจะไปสูบบุหรี่ตลอดชีวิตครับ"

 

         ในชีวิตการเรียน ก็ต้องมีสิ่งที่มากระทบกระทั่งอยู่บ้าง การสอบ  ได้ที่หนึ่ง ก็นำมาซึ่งความหมั่นไส้ อิจฉา ริษยาจากเพื่อนนักเรียนบางคน เช่นกัน ซึ่งผมคิดว่า ก็เป็นธรรมดาของคนที่ยังมีกิเลสอยู่ มีการกลั่น  แกล้งต่างๆ นานา บางครั้งก็พูดกระทบไปถึงโคตรเหง้าว่าเป็นเจ๊กจีน มา อาศัยแผ่นดินเขาอยู่บ้าง

 

        เดี๋ยวนี้ น้องๆ ที่มีเชื้อสายจีน โชคดีมาก ไม่ค่อยมีใครเอาเรื่องเชื้อ ชาติมาเป็นข้อตำหนิกัน ผิดกับสมัยก่อนที่นำมาเป็นคำด่าทอกัน แม้ว่าจะถูกด่า ผมก็มีข้อคิดที่ตั้งอยู่ในใจไว้ว่า "เขาด่าเราไม่ละลาย ทองแท้ต้องไม่กลัวไฟ"

 

        คำพูดของคนไม่รู้ไม่อาจทำลายความดีที่เราตั้งใจทำได้ เหมือน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงโดนใส่ความ ใส่ร้ายหนักหนาสาหัสเพียงไหน พระองค์ท่านก็ไม่หวั่นไหว ทรงเป็นต้นแบบเรื่องความอดทนต่อการ กระทบกระทั่งได้อย่างน่ายกย่องยิ่งนัก ความอดทนย่อมเป็นเครื่องวัด คุณธรรมที่สำคัญอย่างหนึ่งของคนเราครับ

 

อดทนต่ออำนาจกิเลส

 

        ความอดทนในระดับสูงสุด คือ อดทนต่ออำนาจกิเลสที่มาเย้ายวน ใจ เพี่อนๆ สมัยเรียนเป็นจำนวนมากชอบมั่วสุมกันตามห้องนํ้าชาย แอบ สูบบุหรี่กันควันโขมงทีเดียว เวลาไปเข้าห้องน้ำทุกครั้ง ก็ได้แต่มองด้วย ความเห็นใจ เพราะเราไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้ เวลาครูฝ่ายปกครอง มาตรวจที ก็วิ่งหนีกันกระเจิง ดูแล้วน่าสมเพช ทำให้ผมเห็นโทษภัยของ ยาเสพติดตั้งแต่ตอนเป็นเด็กนักเรียนตั้งแต่นั้นมาผมตั้งใจว่าจะไม่สูบบุหรี่ กินเหล้า เล่นการพนันตลอดชีวิต และก็ทำได้สำเร็จจนทุกวันนี้

 

         และบุญใหญ่ที่ผมภูมิใจจนทุกวันนี้ ก็คือ การพูดให้คุณพ่อของผม "เลิกบุหรี่" ได้

 

        พ่อติดบุหรี่จัด ต้องสูบวันละ ๑ ซอง (ประมาณ ๒๐ มวน) ทุกๆ วัน  ผมจะคอยเฝ้าพูดโทษของบุหรี่ เอารูปคนที่เป็นโรคถุงลมโป่งพองไป  ให้ดูบ้าง ผมพูดอยู่เกือบ ๑๐ ปี จนวันหนึ่ง คุณพ่อคงรำคาญ เลยย้อนกลับมาว่า "ถ้าคิดว่าบุหรี่ไม่ดี ลูกอย่าสูบ อย่าทำตามได้ไหม" ผมตอบทันที ว่า "ได้ครับ" และด้วยความมั่นใจในกำลังใจของตนเอง จึงกล่าวเสริมไป ว่า "ผมจะไม่สูบบุหรี่ตลอดชีวิตครับ" พ่อเลยโยนบุหรี่ที่เหลือเข้าเตาไฟ เลิกสูบจนทุกวันนี้ ผมก็ถือเป็นสัจจะมาตลอดเช่นกัน

 

        น้องๆ ล่ะครับ ความอดทนที่อยู่ในตัวของน้องรอวันที่น้องจะ  แสดงออกมาเป็นรูปธรรม ให้เป็นความดีที่น่ายกย่อง แล้วน้องจะภูมิใจ ในตัวเอง เหมือนที่ผมได้ทำสำเร็จมาแล้ว

 

        ความอดทนคือ ความอดกลั้น ถือเป็นตบะอย่างยิ่ง และเป็นมงคล อันสูงสุด ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิตของทุกๆ คนนะครับ

 

 

เรื่องเล่า...ของพี่ชายคนหนึ่ง
โดย ชัยภัทร ภัทรทิพากร

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.030904614925385 Mins