หมั่นสังเกต...ปรับวิธีการอย่างสบายๆ
ลูกทุกคนมีบุญมากอยู่แล้วที่จะเข้าถึงพระธรรมกายภายในแล้วก็เคยเข้าถึงกันมาแล้วทั้งนั้น แต่ว่าชาตินี้เราไม่ค่อยให้ความสำคัญกับสิ่งนี้ มัวไปเสียเวลากับสิ่งที่ไม่เป็นสาระแก่นสารหรือไม่เกิดประโยชน์อะไรมากนัก เสียเวลากับสิ่งเหล่านั้นมากเกินไป และต้องมาเสียเวลาเพิ่มอีกในการที่จะคลี่คลายตัวเองให้ผ่อนคลายจากความคิดคำนึงต่างๆ ให้หมดไป ซึ่งเรามีเวลาเหลืออีกไม่มากแล้วสําหรับชาตินี้
ทำให้ถูกหลักวิชชา ฝึกไปเรื่อย ๆ แล้วก็ให้สังเกตทบทวนทุกครั้งที่เลิกนั่งและจดจำไว้ โดยมีข้อสังเกตที่ลูกทุกคนต้องจำ คือ “วันใดเรามีอารมณ์ดีทั้งวัน จิตเป็นกุศล คิดแต่เรื่องความดี เรื่องบุญกุศล หรือรู้สึกสบายใจ ใจว่าง ๆ ไม่ติดอะไรเลยในคน สัตว์ สิ่งของ" วันนั้นเราจะนั่งดีเป็นพิเศษ ให้จำว่าเราทำอย่างไร หรือเราปลื้มในความดีอะไร ในบุญของเราสักบุญหนึ่ง หรือหลาย ๆ บุญที่นึกแล้ว ปลื้มเป็นกุศลธรรม เวลาเรามานั่ง ขายังไม่ทันได้เข้ามาเลย ใจมันก็พรึบ! รวมเข้าไปข้างในแล้ว
ลูกทุกคนเป็นผู้มีบุญ บุญเก่ามีมากพอที่จะเข้าถึง ถ้าศึกษาวิธีการให้ถูกหลักวิชชาแล้วฝึกฝน ปรับปรุงวิธีการ ปรับใจไปเรื่อยๆให้ผ่อนคลายแค่นั้น เดี๋ยวใจจะเป็นไปเอง แต่บางครั้งเราต้องยอมที่จะให้ความคิดผ่านมาในใจบ้าง ซึ่งเราก็แค่เผยอเปลือกตาขึ้นมาสักนิดก็จะหายฟังเอง แล้วจึงค่อย ๆ เริ่มต้นใหม่อย่างง่าย ๆ เราต้องพร้อมที่จะเป็นนักเรียนอนุบาลเสมอ ทุก ๆ ครั้งที่ใจเราเริ่มไม่หยุด ไม่นิ่ง ฟัง เราก็ปรับไปอย่างสบาย ๆ กันนะ แล้วจะสมความปรารถนากันทุกคน
คุณครูไม่ใหญ่
จากหนังสือ ง่ายที่สุดคือหยุดได้ เล่ม ๕