อุตดรมานพ

วันที่ 18 ธค. พ.ศ.2566

18-12-66-2-b.jpg

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ที่ ๑๑ ที่ตรัสพุทธพยากรณ์
 

              ทรงพระนามว่า พระสุเมธสัมมาสัมพุทธเจ้า


               พระสรีระสูง ๘๘ ศอก


              อายุขัยของมนุษย์ยุคนั้น ๙ หมื่นปี


               ทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าสุทัตตะ และพระนางสุทัตตาพระอัครมเหสี แห่งนครสุทัสสนะ


                ทรงครองฆราวาสวิสัย เสวยโลกียสุขอยู่ ๙ พันปี ทรงเห็นนิมิต ๔ ประการ และเมื่อพระอัครชายาสุมนาประสูติพระโอรสปุนัพพะแล้ว เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์โดยทรงช้างต้น


                ทรงใช้เวลาบำเพ็ญเพียร ๘ เดือนเต็ม


                ผู้ถวายข้าวมธุปายาส คือธิดาของนกุลเศรษฐี แห่งนกุลนิคม

 

                 นิสีทนสันถัตกว้าง ๕๗ ศอก สุวัฑฒอาชีวกถวายหญ้า ๘ กำ ประทับนั่งโคนต้นนีปะ(ต้นกระทุ่ม)


                 พระอัครสาวกคือ พระสรณะ และพระสัพพกามะ


                  พระพุทธอุปัฏฐากคือ พระสาคระ


                   ทรงแสดงธรรม ๓ ครั้ง ในครั้งที่สองทรงทรมานยักษ์ชื่อกุมภกรรณ ให้ละทิฏฐิและถือพระองค์เป็นสรณะด้วย


                   มีสาวกสันนิบาตเกิดขึ้น ๓ ครั้ง


                   เสด็จดับขันธปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ ๙ หมื่นพรรษา ณ พระวิหารเมธาราม พระบรมสารีริกธาตุเฉลี่ยกระจายไปในที่ต่างๆ


อุตดรมานพ


                  ในพระพุทธกาลนี้พระโพธิสัตว์ของเราเกิดเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งเพียรประกอบอาชีพ มีทรัพย์ถึง ๘๐ โกฏิ เมื่อพบพระบรมศาสดาผู้งดงาม มีพระรัศมีแผ่ออกไปโดยรอบถึง ๑ โยชน์ ส่องสว่างไปทั่วทุกทิศ เกิดมีความศรัทธาแรงกล้า ครั้นเมื่อได้ฟังพระธรรมเทศนาแล้ว ได้สละทรัพย์ทั้งหมดถวายเป็นมหาทานแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมด้วยเหล่าภิกษุสงฆ์


                    พระสุเมธสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสพยากรณ์ว่าชายหนุ่มชื่อ อุตตระผู้นี้ต่อไปภายหน้าอีก ๓ หมื่นกัป จะได้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่า โคตมะ


                   อุตตระมานพได้ฟังพระพุทธพยากรณ์แล้วปลาบปลื้มใจมาก ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ ออกบวช แล้วอธิษฐานข้อวัตรบำเพ็ญพุทธบารมีให้บริบูรณ์ยิ่งยวด อุตส่าห์เล่าเรียนปริยัติธรรมและปฏิบัติธรรมโดยเคร่งครัดไม่ประมาท บำเพ็ญตบะแรงกล้า บรรลุอภิญญา ๕ เมื่อสิ้นอายุขัยก็ไปสุคติพรหมโลก

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.04107274611791 Mins