พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ที่ ๑๒ ที่ตรัสพระพุทธพยากรณ์
ทรงพระนามว่า พระสุชาตะสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระสรีระสูง ๕๐ ศอก
อายุขัยของมนุษย์ในยุคนั้น ๙ หมื่นปี
ทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าอุคคตะ และพระนางประภาวดีพระอัครมเหสีแห่งนครสุมงคล
ทรงครองฆราวาสวิสัยอยู่ ๙ พันปี ทรงเห็นนิมิต ๔ ประการ เมื่อพระนางสิรินันทาพระอัครชายาประสูติ พระโอรสอุปเสนะแล้ว เสด็จทรงม้าราชพาหนะชื่อหังสวห้งเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ มีผู้ออกบวชตามเสด็จ ๑ โกฏิ
ทรงให้เวลาบำเพ็ญเพียร ๙ เดือนเต็ม
ผู้ถวายข้าวมธุปายาส คือ ธิดาของสิรินันทนะ เศรษฐีแห่งสิรินันทนนคร
นิสีทนสัตถัตกว้าง ๓๓ ศอก สุนันทอาชีวกเป็นผู้ถวายหญ้า ๘ กำ ประทับนั่งใต้โคนต้นมหาเวฬุ (ต้นไผ่ใหญ่)
พระอัครสาวกคือ พระสุทัสสนะ และพระสุเทวะ
พระพุทธอุปัฏฐากคือ พระนารทะ
ทรงแสดงธรรม ๓ ครั้ง
สําหรับการแสดงธรรมครั้งที่สอง ทรงกระทำยมกปาฏิหาริย์ ที่โคนต้นมหาสาละ ใกล้ประตูสุทัสสนะราชอุทยาน
มีสาวกสันนิบาตเกิดขึ้น ๓ ครั้ง
เสด็จดับขันธปรินิพพาน เมื่อพระชนมายุ ๙ หมื่นพรรษา ที่พระวิหารเสลาราม กรุงจันทวดี พระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุสูง ๓ คาวุต ๓/๔ โยชน์)
พระเจ้าจักรพรรดิ
ในพระพุทธกาลนี้ พระโพธิสัตว์ของเราทรงบังเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้ทรงมีมหิทธานุภาพปกแผ่ไปทั่วทวีปทั้ง ๔ พรั่งพร้อมด้วยสมบัติและรัตนะ ๗ ประการ เมื่อทรงทราบเรื่องพระพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้น จึงเสด็จพร้อมด้วยบริวารไปเข้าเฝ้า เมื่อได้สดับฟังพระธรรมเทศนาก็ทรงปีติยินดีด้วยพระราชศรัทธา จึงถวายจักรพรรดิสมบัติทั้งหมด ไว้ในพระพุทธศาสนา ทรงผนวชในสำนักของพระบรมศาสดา
ประชาชนในแว่นแคว้นทั้งหลายมีศรัทธารวบรวมทรัพย์ในชนบทมาจัดถวายปัจจัย ๔ เป็นประจำแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระภิกษุทั้งปวง พระตถาคตเจ้าตรัสพยากรณ์แก่พระโพธิสัตว์ว่า จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตอีก ๓ หมื่นกัป มีพระนามว่า โคตมะ
พระเจ้าจักรพรรดิโพธิสัตว์ได้สดับพระพุทธพยากรณ์ดังนี้แล้ว ยิ่งร่าเริงเบิกบานใจ เร่งบำเพ็ญพุทธบารมีให้ยิ่งยวดขึ้นไป ทรงศึกษาพระสูตร พระวินัย และพระปริยัติธรรมทั้งสิ้น ปฏิบัติธรรมโดยเคร่งครัด จนบรรลุอภิญญา ๕ เหาะไปในอากาศได้ สิ้นชีพตักษัยแล้วไปสุคติพรหมโลก