บทที่ ๑๙
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในกัปปัจจุบัน (ภัทรกัป)
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในกัปปัจจุบัน พระองค์ที่ ๑
นับเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ที่ ๒๒ ที่ตรัสพุทธพยากรณ์
ทรงพระนามว่า พระกกุสันธะสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระสรีระสูง ๔๐ ศอก
อายุขัยมนุษย์ในยุคนั้น ๔ หมื่นปี
เป็นบุตรของอัคคิทัตตพราหมณ์ และนางพราหมณีวิสาขา บิดาเป็นผู้มีหน้าที่ถวายข้อแนะนำแด่พระเจ้าเขมังกร แห่งนครเขมวดี สมัยนั้นชาวโลกนับถือวรรณะพราหมณ์ว่าสูงสุด
ครองฆราวาสวิสัยอยู่ ๔ พันปี เห็นนิมิต ๔ ยินดีในสมณเพศ เมื่อนางพราหมณีโรจินี ผู้ภรรยาคลอดลูกชายอุตตรกุมารแล้ว ออกอภิเนษกรมณ์ด้วยรถเทียมม้า มีผู้ออกบวชตาม ๔ หมื่นคน
ทําความเพียรอยู่ ๘ เดือน
ผู้ถวายข้าวมธุปายาส คือ ธิดาวชิรินธพราหมณ์ ณ สุจิรินธนิคม
นิสีทนสันถัตกว้าง ๓๔ ศอก (บางแห่งว่า ๒๖ ศอก) คนเฝ้าไร่ข้าวเหนียวชื่อ สุภัททะ ถวายหญ้า ๘ กำ
นั่งอธิษฐานทำความเพียรอยู่โคนต้นไม้สิรีสะ(ไม้ซีก)
พระอัครสาวกคือ พระวิธุระ และพระสัญชีวะ
พระพุทธอุปัฏฐากคือ พระพุทธิชะ
ทรงแสดงธรรม ๓ ครั้ง
ครั้งแรก เป็นปฐมเทศนาที่อิสิปตนมิคทายวัน ใกล้มกิลนคร แก่ภิกษุ ๔ หมื่น ที่ตามเสด็จ
ครั้งที่สอง ทรงทำยมกปาฏิหาริย์ ณ โคนต้นมหาสาละ ใกล้ประตูกัณณกุชชนคร
ครั้งที่สาม ทรงประกาศสัจจะ ๔ แก่ยักษ์ ชื่อ นรเทพ ที่เทวาลัยใกล้กรุงเขมวดี ครั้งนี้เทวดาและมนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วนบรรลุธรรมตามพระองค์
มีสาวกสันนิบาตเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ที่อิสิปตนมิคทายวัน กรุงกัณณกุชชนคร ในวันมาฆบูรณมี ซึ่งพระบรมศาสดาทรงยกปาฏิโมกข์ขึ้นแสดงท่ามกลางพระอรหันต์ ๔ หมื่นองค์
เสด็จดับขันธปรินิพพานเมื่อพระชนม์ ๔ หมื่นพรรษา ที่พระวิหารเขมาราม พระสถูปสูงจรดฟ้าหนึ่งคาวุต อยู่ที่นั่น
ในพุทธกาลนี้ พระโพธิสัตว์ของเราบังเกิดเป็นกษัตริย์ ทรงพระนามว่า พระเจ้าเขมะ ครองนครเขมวดี มีพระราชศรัทธาในองค์พระศาสดา ถวายมหาทานแด่พระพุทธองค์และเหล่าภิกษุสงฆ์ ทั้งภัตตาหาร บาตร จีวร เภสัช รวมทั้งสมณบริขาร มีไม้เท้า ไม้มะซาง ฯลฯ ล้วนแต่ของดี ประณีต เมื่อได้สดับพระธรรมเทศนาก็ยิ่งทรงเลื่อมใส ทรงสละราชสมบัติออกทรงผนวชในสำนักของพระบรมศาสดา
พระตถาคตเจ้าตรัสพยากรณ์ว่า พระเจ้าเขมะจะทรงเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต ในกัปเดียวกันนี้ พระเจ้าเขมะมีพระทัยยินดี ทรงบำเพ็ญพุทธบารมียิ่งยวดขึ้นไป