พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในกัปปัจจุบัน พระองค์ที่ ๒
นับเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ที่ ๒๓ ที่ตรัสพุทธพยากรณ์
ทรงพระนามว่า พระโภนาคมนะสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระสรีระสูง ๓๐ ศอก
อายุขัยมนุษย์ในยุคนั้น ๓ หมื่นปี (คือเมื่อศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากกุสันธะเสื่อมสลายไป อายุมนุษย์ลดลงเหลือ ๑๐ ปี แล้วเพิ่มขึ้นจนเป็นอสงไขยปี แล้วลดลงเหลือ ๓ หมินปี)
พระองค์เป็นบุตรของพราหมณ์ยัญญทัตตะ และนางพราหมณีชื่ออุตตราพราหมณ์ผู้เป็นบิดาเป็นพราหมณ์มหาศาลของนครโสภวดี
ครองฆราวาสวิสัยอยู่ ๓ พันปี เห็นนิมิต ๔ ประการ เมื่อนางพราหมณีรุจิคัตตาผู้ภรรยาคลอดบุตรชื่อสัตถวาหะกุมารแล้ว ออกอภิเนษกรมณ์ด้วยยานคือช้าง มีผู้ออกบวชตาม ๓ หมื่นคน
ทําความเพียรอยู่ ๖ เดือน
ผู้ถวายข้าวมธุปายาส คือ ธิดาของพราหมณ์อัคคิโสณะ
นิสีทนสันถัต กว้าง ๒๐ ศอก คนเฝ้าไร่ข้าวเหนียวชื่อชฏาตินทุกะถวายหญ้า ๘ กำ
นั่งบนสันถัตโคนต้นอุทุมพร (มะเดื่อ)
พระอัครสาวกคือ พระภิยโยสะ และพระอุตตระ
พระพุทธอุปัฏฐากคือ พระโสตถิชะ
ทรงแสดงธรรม ๓ ครั้ง
ครั้งแรก เป็นปฐมเทศนา ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แก่ภิกษุ ๓ หมื่น ที่บวชตาม ที่อิสิปตนมิคทายวัน ใกล้สุทัสสนนคร
ครั้งที่สอง ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ เพื่อบรรเทาทิฏฐิฝ่ายปรปักษ์ ที่โคนต้นมหาสาละ ใกล้ประตูสุนทรนคร
ครั้งที่สาม ทรงแสดงอภิธรรม ๗ คัมภีร์ แก่เทวดาในเทวโลก
มีสาวกสันนิบาต เพียงครั้งเดียว ท่ามกลางพระอรหันต์ ๓ หมื่นโกฏิ เป็นครั้งที่พระองค์ได้คู่พระอัครสาวก
เสด็จดับขันธปรินิพพานเมื่อพระชนม์ ๓ หมื่นพรรษา ที่พระวิหารปัพพตาราม พระบรมสารีริกธาตุแผ่กระจายไปตามที่ต่างๆ เพื่อสรรพสัตว์ได้สักการบูชา
ในพุทธกาลนี้ พระโพธิสัตว์ของเราเกิดเป็นพระเจ้าปัพพตะ ครองกรุงมิถิลนคร เสด็จไปเฝ้าพระพุทธองค์ ในขณะที่พระบรมศาสดาเสด็จมายังเมืองของพระองค์ สดับพระสัทธรรมแล้ว ทรงมีพระราชศรัทธามาก ทูลวิงวอนให้พระบรมศาสดาประทับจำพรรษา ที่นครของพระองค์ แล้วทรงถวายมหาทานแด่พระตถาคตเจ้าและเหล่าภิกษุสงฆ์ ด้วยของมีค่าต่างๆ อีกมาก เช่น ผ้าไหมจากเมืองปัตตุณณะ ผ้าแพร ผ้ากัมพล ผ้าเปลือกไม้ ผ้าฝ้าย ฉลองพระบาทประดับด้วยทอง รวมทั้งบริขารต่างๆ มากมาย พระบรมศาสดาตรัสพยากรณ์ว่า พระเจ้าปัพพตะจะได้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในกัปเดียวกันนี้ พระราชาโพธิสัตว์ทรงมีปีติยินดียิ่งนัก ทรงตั้งพระทัยบำเพ็ญพุทธบารมีให้ยิ่งๆ ขึ้น