พระชาติที่ดำริไว้ในใจ
พระเจ้าสัตตุตาปนะ
หลังจากที่ได้ตั้งความปรารถนาพุทธภูมิ ในชาติที่เป็นมาณพแบกมารดาอยู่ในมหาสมุทร ก็ได้เกิดตายมาหลายชาติ ในชาติหนึ่งได้เกิดเป็นราชโอรสและได้ขึ้นครองราชสมบัติ มีพระนามว่า “ พระเจ้าสัตตุตาปนะ” พระองค์ปกครองประชาราชด้วยทศพิธราชธรรม แต่พระองค์ทรงพอพระทัยในช้างมงคลอย่างมาก คือ ชอบสะสมช้างมงคล ไม่ว่าจะได้ข่าวว่าช้างมงคลอยู่ส่วนไหนของราชธานี พระองค์ต้องตามจับมาจนได้ ครั้งหนึ่งมีนายพรานเข้ามาถวายรายงานว่า พบช้างมงคลเชือกหนึ่ง มีลักษณะสมบูรณ์พร้อมทุกประการ ตั้งแต่เกิดมาเป็นพรานยังไม่เคยเห็นช้างเชือกไหน มีลักษณะเลิศอย่างนี้มาก่อนเลย เมื่อพระองค์ทรงทราบอย่างนั้นจึงทรงให้นายพรานผู้นั้นนำขบวนเพื่อไปจับช้าง เมื่อทรงเห็นช้างเชือกนั้น พระองค์ทรงดีพระทัยเป็นอย่างมากและสามารถล้อมจับจนได้โดยไม่ยาก ทรงให้นายหัตถาจารย์ผู้ฝึกช้าง ฝึกจนเชื่อง แต่พระเจ้าสัตตุตาปนะทรงรีบพระทัย เพื่อจะทรงช้างเชือกนี้ ในวันมงคลฉลองนักขัตฤกษ์ ใน 7-8 วันข้างหน้านายหัตถาจารย์ผู้มีความรู้ จึงต้องให้อาหารผสมกับโอสถ เพื่อให้ฝึกสอนได้ง่ายโดยเร็วพลัน
เมื่อถึงวันทรงช้างเชือกนี้ในวันฉลองนักขัตฤกษ์ พระองค์ก็ทรงช้างเลียบเมืองที่เป็นเขตป่า แต่ในราตรีที่ผ่านมาที่ราวป่าแห่งนั้น มีโขลงช้างได้ถ่ายมูลลงไว้ในที่นั้น ดังนั้นเมื่อช้างมงคลที่พระเจ้าสัตตุตาปนะทรงประทับอยู่ ได้กลิ่นมูลของช้างตัวเมีย เกิดตกมันออกวิ่งตามโขลงช้างนั้นทันที่ ไม่สนใจมนุษย์ที่นั่งอยู่บนหลัง สะบัดจนตกหมด เหลือแต่พระเจ้าสัตตุตาปนะพระองค์เดียว พระองค์ทรงตกพระทัย แต่ยังคงครองสติไว้ เมื่อช้างวิ่งผ่านต้นไม้ใหญ่ ที่มีกิ่งยื่นออกมา พระองค์ทรงจับกิ่งไม้นั้นปล่อยให้ช้างวิ่งไปตามอิสระของมัน เมื่อเหล่าทหารตามมาทันก็เชิญพระองค์ลงมา พระองค์ทรงโกรธเป็นอย่างมาก
เมื่อกลับมาถึงพระราชฐาน ทรงให้เรียกนายหัตถาจารย์เข้ามาเฝ้า ทรงซักถามควาญช้างถึงสาเหตุ ควาญช้างกราบทูลว่า
“ การที่ช้างมงคลออกวิ่งไปนั้น เพราะตกมัน ได้กลิ่นช้างพังตัวเมียที่ถ่ายมูลไว้ที่ราวป่า เพราะความอยากจะเสพสังวาสกับช้างตัวเมีย จึงไม่สนใจแม้ความเจ็บ และความตายอะไรทั้งสิ้น ถึงแม้จะถูกตะขอสับและถูกฝึกอย่างดีมาแล้วก็ตาม เมื่อช้างมงคลเชือกนั้นได้ร่วมสังวาสกับช้างพังตัวเมียแล้ว จะเชื่องและกลับมาอยู่ในอำนาจมนต์ตามเดิม”
ในวันถัดมาช้างมงคลตัวนั้นก็กลับมาจริง ควาญช้างสั่งให้ทำอะไรก็ทำตามทุกอย่าง แม้กระทั่งให้เอางวงถือก้อนเหล็กที่เผาไฟจนแดง ช้างมงคลตัวนั้นก็ทำตาม พระเจ้าสัตตุตาปนะจึงทรงสลดพระทัย เห็นโทษภัยของกามราคะว่าร้อนแรงมากนัก ก่อให้เกิดภัยอันตรายใหญ่หลวง มนต์ก็สะกดไม่อยู่ ไฟราคะนี้เองตรึงสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ติดอยู่ในวัฏสงสาร พระองค์ทรงตั้งพระทัยอย่างแน่วแน่และมั่นคงที่จะออกจากกาม ให้พ้นจากอำนาจของราคะ จึงทรงสละราชสมบัติออกบวชเป็นดาบส ประพฤติพรหมจรรย์จนสิ้นอายุขัย เวียนเกิดตายไปอีกนานแสนนาน นี้คือชาติที่ดำริปรารถนาพุทธภูมิหลังจากที่ได้เริ่มคิดที่จะออกจากวัฏฏะแห่งทุกข์นี้ ซึ่งนับจากนี้เป็นต้นไป การสร้างบารมีของพระองค์ยังต้องใช้ระยะเวลา 7 อสงไขย เริ่มตั้งแต่ชาติที่ดำริไว้ในใจจนกระทั่งถึงชาติที่ได้เปล่งวาจาออกมา ถือว่าเป็นช่วงระยะเวลาแรกที่ได้เริ่มสร้างบารมีเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
-------------------------------------------------------------------
GL 204 ศาสตร์แห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
กลุ่มวิชาเป้าหมายชีวิต