พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในกัปปัจจุบัน (ตอน ๑)

วันที่ 18 กพ. พ.ศ.2548

 

bd121246.gif

 

.....พระองค์ที่ ๑ ในภัทรกัปนี้ นับเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ที่ ๒๒ ที่ตรัสพุทธพยากรณ์ ทรงนามว่า พระกกุสันธะสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสรีระสูง ๔๐ ศอก อายุขัยของมนุษย์ในยุคนั้น ๔ หมื่นปี

เป็นบุตรของพระอัคคิทัตตพราหมณ์ และนางพราหมณีวิสาขา บิดาเป็นผู้มีหน้าที่ถวายข้อแนะนำแด่พระเจ้าเขมังกร แห่งนครเขมวดี สมัยนั้นชาวโลกนับถือวรรณะพราหมณ์ว่าสูงสุด

ครองฆราวาสวิสัยอยู่ ๔ พันปี เห็นนิมิต ๔ แล้วยินดีในสมณเพศ เมื่อนางพราหมณีโรจินี ผู้ภรรยาคลอดบุตรชายอุตตรกุมารแล้ว ออกอภิเนษกรมณ์ด้วยรถเทียมม้า มีผู้ออกบวชตาม ๔ หมื่นคน

ทำความเพียรอยู่ ๘ เดือน ผู้ถวายข้าวมธุปายาส คือ ธิดาวชิรินธพราหมณ์ ณ สุจิรินธนิคม นิสีทนสันถัตกว้าง ๓๔ ศอก ( บางแห่งว่า ๒๖ ศอก) คนเฝ้าไร่ข้าวเหนียวชื่อ สุภัททะ ถวายหญ้า ๘ กำ

นั่งอธิษฐานจิตทำความเพียรอยู่โคนต้นไม้สิรีสะ ( ไม้ซึก) พระอัครสาวก คือ พระวิธุระ และพระสัญชีวะ พระพุทธอุปัฏฐาก คือ พระพุทธิชะ ทรงแสดงธรรม ๓ ครั้ง ครั้งแรก เป็นปฐมเทศนาที่อิสิปตนมิคทายวัน ใกล้มกิลนคร แก่ภิกษุ ๔ หมื่น ที่ตามเสด็จ ครั้งที่สอง ทรงทำยมกปาฏิหาริย์ ณ โคนต้นมหาสาละ ใกล้ประตูกัณณกุชชนคร ครั้งที่ ๓ ทรงประกาศสัจจะ ๔ แก่ยักษ์ ชื่อ นรเทพ ที่เทวาลัยใกล้กรุงเขมวดี ครั้งนี้เทวดาและมนุษย์นับไม่ถ้วนบรรลุธรรมตามพระองค์

มีสาวกสันนิบาตเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ที่อิสิปตนมิคทายวัน กรุงกัณณกุชชนคร ในวันมาฆบูรณมี ซึ่งพระบรมศาสดาทรงยกปาฏิโมกข์ขึ้นแสดงท่ามกลางพระอรหันต์ ๔ หมื่นองค์ เสด็จดับขันธปรินิพพานเมื่อพระชนม์ ๔ หมื่นพรรษา ที่พระวิหารเขมาราม พระสถูปสูงจรดฟ้า ๑ คาวุต อยู่ที่นั่น

ในพุทธกาลนี้ พระโพธิสัตว์ของเราบังเกิดเป็นกษัตริย์ ทรงพระนามว่า พระเจ้าเขมะ ครองนครเขมวดี มีพระราชศรัทธาในพระบรมศาสดา ถวายมหาทานแด่พระพุทธองค์และเหล่าภิกษุสงฆ์ ทั้งภัตตาหาร บาตร จีวร เภสัช รวมทั้งสมณบริขาร มีไม้เท้า ไม้มะซาง ฯลฯ ล้วนแต่ของดี ประณีต เมื่อได้สดับพระธรรมเทศนาก็ยิ่งทรงเลื่อมใส ทรงสละราชสมบัติออกผนวชที่สำนักพระบรมศาสดา

พระตถาคตเจ้าตรัสพยากรณ์ว่า พระเจ้าเขมะจะทรงเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต ในกัปเดียวกันนี้ พระเจ้าเขมะมีพระทัยยินดี ทรงบำเพ็ญพุทธบารมียิ่งยวดขึ้นไป

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในกัปปัจจุบัน พระองค์ที่ ๒

นับเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ ๒๓ ที่ตรัสพุทธพยากรณ์ ทรงพระนามว่า พระโกนาคมนะสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสรีระสูง ๓๐ ศอก อายุขัยของมนุษย์ในยุคนั้น ๓ หมื่นปี คือเมื่อพระศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากกุสันธะเสื่อมสลายไป อายุมนุษย์ลงลงเหลือ ๑๐ ปี แล้วเพิ่มขึ้นจนเป็นอสงไขยปี แล้วลดลงเหลือ ๓ หมื่นปี พระองค์เป็นบุตรของพราหมณ์ยัญญทัตตะ และนางพราหมณ์ชื่ออุตตราพราหมณ์ ผู้เป็นบิดาเป็นพราหมณ์มหาศาลของนครโสภวดี ครองฆราวาสวิสัยอยู่ ๓ พันปี เห็นนิมิต ๔ ประการ เมื่อนางพราหมณีรุจีคัตตาผู้ภรรยาคลอดบุตรชื่อสัตถวาหะกุมารแล้ว ออกอภิเนษกรมณ์ด้วยยานคือช้าง มีผู้ออกบวชตาม ๓ หมื่นคน

ทำความเพียรอยู่ ๖ เดือน ผู้ถวายข้าวมธุปายาส คือ ธิดาของพราหมณ์อัคคิโสณะ นิสีทนสันถัตกว้าง ๒๐ ศอก คนเฝ้าไร่ข้าวเหนียวชื่อ ชฎาตินทุกะถวายหญ้า ๘ กำ นั่งบนนิสีทนสันถัตใต้โคนต้นอุทุมพร ( มะเดื่อ) พระอัครสาวกคือ พระภิยโยสะ และ พระอุตตระ พระพุทธอุปัฏฐาก คือ พระโสตถิชะ ทรงแสดงธรรม ๓ ครั้ง ครั้งแรก เป็นปฐมเทศนา ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แก่ภิกษุ ๓ หมื่น ที่บวชตาม ที่ป่าอิสิปตนมิคทายวัน ใกล้สุทัสสนคร

ครั้งที่สอง ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ เพื่อบรรเทาทิฏฐิฝ่ายปรปักษ์ ที่โคนต้นมหาสาละ ใกล้ประตูสุนทรนคร ครั้งที่สาม ทรงแสดงอภิธรรม ๗ คัมภีร์ แก่เทวดาในเทวโลก มีสาวกสันนิบาตเพียงครั้งเดียว ท่ามกลางพระอรหันต์ ๓ หมื่นโกฏิ เป็นครั้งที่พระองค์ได้คู่พระอัครสาวก เสด็จดับขันธปรินิพพานเมื่อพระชนม์ ๓ หมื่นพรรษา ที่พระวิหารปัพพตาราม พระบรมสารีริกธาตุแผ่กระจายไปตามที่ต่างๆ เพื่อสรรพสัตว์ได้สักการบูชา

ในพุทธกาลนี้ พระโพธิสัตว์ของเราเกิดเป็นพระเจ้าปัพพตะ ครองกรุงมิถิลนครเสด็จไปเฝ้าพระพุทธองค์ ในขณะที่พระบรมศาสดาเสด็จมายังเมืองของพระองค์ สดับพระสัทธรรมแล้ว ทรงมีพระราชศรัทธามาก ทูลวิงวอนให้พระบรมศาสดาประทับจำพรรษาที่นครของพระองค์ แล้วทรงถวายมหาทานแด่พระตถาคตเจ้าและเหล่าภิกษุสงฆ์ ด้วยของมีค่าต่างๆ มากมาย เช่น ผ้าไหมจากเมืองปัตตุณณะ ผ้าแพร ผ้ากัมพล ผ้าเปลือกไม้ ผ้าฝ้าย ฉลองพระบาทประดับด้วยทอง รวมทั้งบริขารต่างๆ มากมาย พระบรมศาสดาตรัสพยากรณ์ว่า พระเจ้าปัพพตะ จะได้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในกัปเดียวกันนี้ พระราชาโพธิสัตว์ทรงมีปิติยินดียิ่งนัก ทรงตั้งพระทัยบำเพ็ญพุทธบารมีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป

 

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.022967433929443 Mins