เรื่องที่ ๔๐๑แรงงานในไทย
คุณอรุณจึงนำหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุติดตัวไปที่ประเทศไต้หวันด้วย
เพราะจะเป็นที่พึ่งสิ่งเดียวที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุด
คุณอรุณ มีแปลง ระลึกถึงอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุยามที่มีภัย |
คุณอรุณ มีแปลง เป็นคนอำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล ห่างบ้านห่างเมืองไปทำงานที่ประเทศไต้หวัน ซึ่งเป็นหมู่เกาะเล็กๆ แต่กำลังพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว จึงต้องการแรงงานส่วนหนึ่งเป็นแรงงานต่างชาติ ที่ส่วนใหญ่เป็นคนไทย
เนื่องจากสภาพการทำงานที่แข่งกับเวลา จึงต้องทนทุกอย่าง ทั้งความกดดัน และความเหนื่อยยากสารพัดในการเป็นลูกจ้างในต่างแดน เพื่อหาเงินมาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว
เมื่อทำงานจนครบกำหนดโครงการเป็นเวลาสองปี คุณอรุณได้เดินทางกลับมาเมืองไทยในเดือนกรกฎาคม ได้มีโอกาสมาที่วัดพระธรรมกาย และได้รับหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุไปด้วยหลายเล่ม โดยเฉพาะหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ ฉบับพิเศษ (special) คุณอรุณจะชอบมาก และพกติดตัวไปไหนมาไหนอยู่ตลอดเวลา
จากนั้นไม่นานก็สมัครทำงานกลับไปที่ไต้หวันอีกครั้งในเดือนสิงหาคม คุณอรุณเข้าทำงานในตำแหน่งหัวหน้าช่างไม้ ที่บริษัทกงซิ่ง เมืองสือติ้น ไทเป ด้วยจิตใจที่ยึดมั่นในพระรัตนตรัย และจะได้ตรึกระลึกถึงท่านยามเมื่อต้องห่างวัด คุณอรุณจึงนำหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุติดตัวไปที่ประเทศไต้หวันด้วย เพราะจะเป็นที่พึ่งสิ่งเดียวที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุด และสิ่งที่เขานำติดตัวไปด้วยก็ได้ช่วยชีวิตเขาให้รอดตาย และสมหวังตามคำอธิษฐานอย่างอัศจรรย์
เดินทางถึงวันแรกคุณอรุณก็เริ่มทำงานทันที การทำงานที่เร่งรีบบวกกับความอ่อนเพลีย รวมทั้งความลำบากและความเครียดในการทำงานมาตลอด ๒๐ กว่าวัน เพราะต้องทำงานตั้งแต่เวลา ๐๗.๐๐-๑๗.๐๐ หยุดพักรับประทานอาหารเย็น แล้วเข้าทำงานอีกรอบเวลา ๑๘.๐๐-๒๓.๐๐ และบางครั้งถ้ามีงานพิเศษก็ต้องอยู่จนถึงสว่าง
คุณอรุณเริ่มมีอาการปวดด้วยโรคกระเพาะอาหาร เป็นความเจ็บปวดที่ทรมานที่สุดในชีวิต แม้จะฝืนก้าวเดินหรือแม้แต่จะลุกไปเข้าห้องน้ำก็รู้สึกเจ็บที่บริเวณลิ้นปี่ หรือแม้แต่ขับรถมอเตอร์ไซค์จะกระเทือนทำให้เจ็บปวดไปทั่วร่างกาย ไปหาหมอที่ไต้หวันถึงสองครั้ง หมอให้ยามาทานก็ไม่หาย อาการไม่ดีขึ้นเลย
คุณอรุณไม่สามารถฝืนสังขารไปทำงานได้ ได้แต่นอนซมอยู่ที่บ้านพักเกือบสัปดาห์ ขณะที่เจ็บปวดทรมานอยู่นั้น รู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นมา จนหายใจแทบไม่ออก คิดว่า “นี่เราคงจะตายที่นี่แล้วใช่ไหม” ภาพเมืองไทยผุดขึ้นมา นึกถึงครอบครัวที่รัก ญาติมิตรเพื่อนฝูง พลันก็เกิดภาพการไปร่วมทำบุญที่วัดพระธรรมกาย และนึกได้ว่า ตนเองได้นำหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุติดตัวมาด้วย นี่คือที่พึ่งสิ่งเดียวที่เขาจะพึ่งได้ ทันทีที่นึกขึ้นได้ จึงรีบพยุงร่างกายต่อสู้กับความเจ็บปวด ฝืนใจลุกขึ้นไปหยิบหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุทุกเล่มที่มีอยู่ นำหนังสือมากอดไว้แนบกับอก นึกถึงความตายแล้วบอกกับตัวเองว่ายังไม่อยากตายตอนนี้ จึงรวบรวมกำลังที่เหลืออยู่สวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุถึง ๙ จบ และนอนหลับไป
วันต่อมาอาการเขาเริ่มทุเลาลง คุณอรุณจึงสวดสรรเสริญอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุอย่างต่อเนื่อง และตลอดเวลาที่นึกขึ้นได้ เขาคิดและตัดสินใจที่จะขออนุญาตหัวหน้าเพื่อลากลับมาพักฟื้นที่เมืองไทย ก่อนที่จะขออนุญาตเขาได้อธิษฐานจิตกับองค์พระมหาสิริราชธาตุว่า “ขอให้ได้กลับไปพักฟื้นที่บ้าน โดยที่ทางบริษัทไม่หักเงินเดือน และหากหายป่วยแล้วขอให้หัวหน้า รับเข้าทำงานต่อไปได้ตามปกติ รวมทั้งขอให้ทางบริษัทออกค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับให้ด้วย และเมื่อกลับถึงเมืองไทยก็ขอให้ได้มีโอกาสกราบนมัสการหลวงพ่อทองคำ พระมงคลเทพมุนี และมหาธรรมกายเจดีย์ ที่วัดพระธรรมกายด้วยเถิด”
แม้งานจะหนัก แต่ไม่เคยพักการสร้างบุญบารมี
|
วันรุ่งขึ้นคุณอรุณไปที่ทำงานแต่เช้า เพื่อขออนุญาตหัวหน้าลางาน และกลับมาพักฟื้นที่เมืองไทย ขณะนั้นก็ระลึกถึงอานุภาพของพระมหาสิริราชธาตุ ขอให้หัวหน้าอนุญาตให้ลาพักฟื้นได้โดยไม่หักเงินเดือน เพราะปกติ ถ้าคนงานขาดงานไปหนึ่งวันจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม จะถูกหักเงินรายวันทันที คุณอรุณนั้นไม่อยากถูกหักเงินเดือน เพราะเป็นเงินค่าครองชีพของตนเอง และเงินที่จะต้องส่งมาเลี้ยงครอบครัว
เมื่อเข้าพบหัวหน้า เขาพยายามอธิบายถึงความจำเป็นที่เกิดขึ้นกับตัวเอง และก็เป็นที่น่าอัศจรรย์ เมื่อหัวหน้าได้ฟังดังนั้นก็เกิดความเมตตา อนุญาตให้กลับเมืองไทยได้โดยไม่หักเงินเดือน ซื้อตั๋วเครื่องบินให้ และอนุญาตให้เขากลับมาทำงานได้ตามปกติเมื่อหายป่วย นอกจากนี้หัวหน้ายังใจดีแถมเงินโบนัสพิเศษสำหรับเป็นค่าเดินทางให้อีกก้อนหนึ่งด้วย เขารู้สึกตื่นเต้นดีใจ ระคนกับความประหลาดใจที่อยู่ๆ หัวหน้าก็เมตตาสงสารเขา และพูดคุยแสดงความเห็นอกเห็นใจ และเข้าใจเขาดีทุกอย่าง ซึ่งแตกต่างจากรายก่อนๆ อย่างสิ้นเชิง
ด้วยอานุภาพบุญที่เขาอธิษฐานจิตจากหนังสือพระมหาสิริราชธาตุ จึงได้พบกับความอัศจรรย์ ดลบันดาลให้เขาทุเลาจากความทรมาน และทำให้หัวหน้างานเห็นใจ และให้ความเมตตาช่วยเหลืออย่างที่ต้องการทุกประการ
คุณอรุณรู้สึกตื่นเต้นดีใจมากที่จะได้กลับเมืองไทย มาพบหน้าครอบครัว ญาติมิตรเพื่อนฝูง ซึ่งเขาคิดว่าชาตินี้คงไม่มีบุญได้พบกันอีกแล้ว และที่สำคัญมากไปกว่านั้น นั่นคือเขาจะได้มีโอกาสมาที่วัดพระธรรมกายอีกครั้ง เพื่อมากราบนมัสการรูปหล่อทองคำหลวงพ่อวัดปากน้ำและมหาธรรมกายเจดีย์ ดังที่ตั้งจิตอธิษฐานไว้ รู้สึกซาบซึ้งในคุณของพระรัตนตรัยว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด และเป็นที่พึ่งอันเกษม ในชีวิตที่เกิดมาพบพระพุทธศาสนา
เมื่อกลับมาถึงเมืองไทย ทันทีที่เท้าแตะสนามบินดอนเมือง ในวันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๒ เขาไม่รอช้า รีบมาที่วัดพระธรรมกาย เพื่อกราบนมัสการรูปหล่อทองคำหลวงพ่อวัดปากน้ำ และมหาธรรมกายเจดีย์ทันที และร่วมประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างไม่รีรอ ไม่ยอมให้เสียโอกาสแม้แต่นาทีเดียว การประพฤติปฏิบัติธรรมเป็นเวลาที่มีค่าสำหรับเขามาก เขามีชีวิตรอดมาถึงวันนี้ได้ก็เพราะบุญที่เขาตรึกระลึกผ่านทางหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ
พอคุณอรุณได้ทราบข่าวว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านมีดำริจะสร้างบ้านกัลยาณมิตรให้ครบแสนหลัง เขารีบปวารณาตัวเป็นเจ้าของบ้านกัลยาณมิตรทันที ทุกวันนี้ครอบครัวของเขาและญาติมิตรจึงมีโอกาสได้สวดมนต์ ทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนาพร้อมๆ กันโดยที่คุณอรุณคอยเป็นผู้นำจัดเตรียมสถานที่ และสอนให้ลูกๆ ทุกคนอยู่ในบุญด้วยการสวดมนต์ และนั่งสมาธิที่บ้านทุกวัน ตอนนี้อาการเจ็บป่วยของเขาหายดีขึ้นมาก สามารถเดินไปไหนมาไหนได้อย่างสบาย ไม่ปวดอีกเลย แต่ก็คอยเช็คร่างกายกับคุณหมอที่รู้จักกันที่โรงพยาบาลราชวิถี โดยเช็คแค่สองครั้ง คุณหมอลงความเห็นว่ากระเพาะอักเสบ และให้ยามาทานที่บ้าน
จากรายงานข่าวที่ทุกคนได้ทราบกันว่าประเทศไต้หวันเกิดแผ่นดินไหวอย่างแรง ซึ่งเกาะไต้หวันมักเกิดแผ่นดินไหวเช่นเดียวกับเกาะญี่ปุ่น ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งทั่วโลกในระยะนี้อาจจะเป็นสิ่งที่มาเตือนว่าโลกใกล้จะถึงกาลอวสาน หรือมาเตือนให้ทุกคนต้องเร่งทำความดี สำหรับคุณอรุณนี้ นับว่าโชคดีเพราะช่างเป็นเหตุการณ์่ประจวบเหมาะที่เขากลับมาถึงเมืองไทยก่อน จึงทำให้เขาไม่ต้องไปประสบกับชะตาชีวิตที่หลายๆ คนหวาดผวา จากเหตุแผ่นดินไหว
เหตุการณ์ที่ผ่านมาในชีวิตของคุณอรุณ ทำให้เขาตระหนักถึงคุณพระรัตนตรัย และชักชวนครอบครัว ให้ทุกคนรีบเร่งทำความดีเสียแต่วันนี้ เพราะชีวิตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ไม่ควรปล่อยให้กาลเวลาผ่านไปโดยสูญเปล่า หมั่นสร้างความดี สะสมบุญไว้ เพราะบุญย่อมรักษาผู้ประพฤติปฏิบัติ อยู่ในบุญ ให้มีความสุข ปลอดภัยจากสิ่งเลวร้ายทั้งปวง
ความจริงบทสวดอภิณหปัจจเวกฯ นำมาสวดเพื่อให้เกิดความสลดสังเวชใจ จะทำให้ไม่ประมาทในวัยและชีวิต แต่ผู้คนส่วนใหญ่สวดกันแบบ นกแก้วนกขุนทอง ไม่ได้สนใจเนื้อความในบทสวดจริงจังสิ่งธรรมดาที่ทุกคนต้องพบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ ความแก่ ความเจ็บป่วย ความตาย การพลัดพรากจากของรักของชอบใจ ใครทำกรรมใดไว้ ดีหรือชั่วก็ตาม ตนเองจักต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
ข้อความข้างต้นนี้ทุกคนทราบเป็นอย่างดี แต่ที่จะนำมาสอนใจตนเองให้เกิดประโยชน์มีน้อย คือเมื่อรู้อยู่ว่าจะต้องพบสิ่งเหล่านี้แน่นอน ทางที่ดีที่สุดพึงเร่งขวนขวายสร้างบุญกุศลให้เต็มที่ ให้ได้มากที่สุดคนส่วนใหญ่ต่างพากันละเลย เห็นเป็นเรื่องไม่สำคัญ
คุณอรุณเองแต่เดิมก็คงเป็นทำนองนี้ แต่เมื่อได้พบความเจ็บป่วย อาการปวด จุกแน่น ทรมานจากโรคกระเพาะอาหารด้วยตนเอง มีอาการสาหัส สากรรจ์ จึงได้ซาบซึ้งในคำสอนเหล่านั้น ตั้งใจจะมีชีวิตอยู่เพื่อสร้างคุณความดีให้เต็มที่ เมื่อตั้งใจอธิษฐานกุศลจิตเกิด บุญย่อมทำให้ประสบผลสำเร็จ
การได้คิดและคิดได้ว่าชีวิตควรทำอะไร ต้องทำไว้แต่เนิ่นๆ อย่ารอจนความแก่ ความเจ็บ ความตาย หรือความพลัดพรากอะไรๆ มาถึง เพราะเมื่อถึงเวลานั้น โอกาสสร้างความดีต่างๆ จะลดน้อยถอยลงทันที เมื่อแก่เสียแล้ว กำลังวังชา สุขภาพกาย สุขภาพจิตย่อมเสื่อมถอย แค่จะพาร่างกายตนเองเดินทางไปไหนมาไหน ยังทำไม่ได้ จะทำความดีอะไรได้มาก ยิ่งรอจนเจ็บป่วยยิ่งหมดโอกาสมากยิ่งขึ้นไปอีก เพียงแค่อดทนต่อสู้กับทุกขเวทนาก็ทำได้ยากเสียแล้ว จะเหลือกำลังกายกำลังใจที่ไหนทำความดี ถ้ารอจนถึงเวลาตาย เท่ากับหมดโอกาสไปเลย