สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน สไมล์เวิลด์ฉบับนี้ ขอนำทุกท่านไปเยี่ยม พี่น้องร่วมวงบุญของเราที่ เมืองแอนท์เวิร์ป ประเทศเบลเยียมกันค่ะ
เมืองแอนท์เวิร์ป เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของเบลเยียม อยู่ค่อนไปทางตอนเหนือของประเทศ ตรงจุดศูนย์กลางของทวีปยุโรป การที่ตัวเมืองตั้งอยู่ปากอ่าวของแม่น้ำ เชลท์(Scheldt) ที่ไหลออกทะเลเหนือ และเชื่อมต่อกับแม่น้ำสายสำคัญๆ ของยุโรปทำให้กลายเป็นท่าเรือ ที่สำคัญมาตั้งแต่ก่อนคริสต์ศักราช และในปัจจุบันเชื่อมต่อกับทั้งระบบมอเตอร์เวย์ และรถไฟความเร็วสูงช่วยในการขนถ่ายสินค้า ไปยังประเทศต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็วทำให้เพิ่มศักยภาพ ขึ้นเป็นท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับที่ ๒ของยุโรปและอันดับที่ ๔ ของโลก ในทุกปีจะมีเรือแวะจอดกว่า ๑๖,๐๐๐ ลำ ขนส่งสินค้ากว่า ๑๐๐ ล้านเมตริกตันจากทั่วโลก
แม้เบลเยียมจะเป็นประเทศเล็กๆ ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติของตนเอง แต่เพราะแอนท์เวิร์ป เป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ ทำให้สามารถนำเข้าทรัพยากรต่างๆ จากทั่วโลกมาป้อนให้กับ โรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีอยู่มากมายของเมือง นับตั้งแต่โรงกลั่นน้ำมัน โรงงานปิโตรเคมี สีย้อมผ้า อุปกรณ์กล้องถ่ายภาพ ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ สินค้าเครื่องหนัง ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป และเป็นเมืองแรกของโลก ที่ก่อตั้งตลาดค้าหุ้นมาตั้งแต่ปีค.ศ ๑๔๖๐ แต่ที่สำคัญที่สุดคือแอนท์เวิร์ปเป็นศูนย์กลางการค้า และการเจียระไนเพชรของโลก ๙ ใน ๑๐ ของเพชรดิบทั่วโลก ถูกส่งมาเจียระไนที่นี่ เพราะมีช่างเจียระไนเพชรมือหนึ่งกว่า ๑๒,๐๐๐ คน แล้วจึงป้อนกลับไปสู่ตลาดการค้า และอุตสาหกรรมเพชรในเมืองนี้แบบครบวงจร
ใช่ว่าแอนท์เวิร์ปจะมีแต่ความเร่งรีบ และพลุกพล่านในการขนส่ง การค้าขายและการผลิตใน โรงงานอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่กลับเป็นเมืองที่มีความงดงามด้วยศิลปวัฒนธรรม เพราะเป็นเมืองที่ให้กำเนิดศิลปินชั้นนำของโลก ที่ช่วยกันรังสรรค์งานศิลปะ ให้กับเมืองต่อเนื่องมาหลายร้อยปี สั่งสมไว้เป็นมรดกอันล้ำค่าตามพิพิธภัณฑ์ อาคารสถานที่ และสวนต่างๆทำให้เมืองนี้มี สถาปัตยกรรม ประติมากรรม รูปเขียน และสวนประจำเมือง ที่งดงามตระการตา จนได้รับยกย่องว่าเป็นเมืองหลวง ทางวัฒนธรรมของยุโรป
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆของเมืองนั้นสามารถเดินชมไปเรื่อยๆ ได้เนื่องจากอยู่ไม่ไกลกันมากนัก เริ่มต้นจากจตุรัสใจกลางเมือง (Grote Markt) เป็นลานกว้างที่รายล้อมไปด้วยอาคารเก่าแก่อันงดงาม ด้วยศิลปะแบบเรเนสซองส์ อาคารที่โดดเด่นที่สุดคือศาลากลาง(City hall)อายุกว่า400 ปี ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของจตุรัส เป็นศิลปะของอิตาลี และดัชท์ผสมกันและมีเอกลักษณ์ คือมีประติมากรรม อยู่บนหลังคา เป็นสถานที่ผู้คนนิยมนั่งจิบกาแฟในคาเฟรายรอบจตุรัสแห่งนี้ ชมดูนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมา
ส่วนตรงกลางของจตุรัส มีน้ำพุศิลปะแบบบาร็อก มีรูปปั้นบาร์โบ วีรบุรุษผู้กล้าในตำนานของเมือง ชื่อของแอนเวิร์ป (antwerpt)มาจากคำว่า Hand ในภาษาดัทซ์ แปลว่า มือและคำว่า"Werpen" แปลว่า ขว้าง มาจากตำนานของเมืองที่เล่ากันว่ามียักษ์เกเรตนหนึ่ง กั้นทางไม่ให้ชาวเรือที่ผ่านไปมาในแม่น้ำ ต้องจ่ายค่าผ่านทางก่อน ถ้าไม่จ่ายจะถูกยักษ์ตัดมือ แต่มีผู้กล้าคือหนุ่มน้อย Silvius Brabo ที่สามารถล้มยักษ์ และตัดมือยักษ์ขว้างข้ามแม่น้ำไปเมืองนี้เลยมีชื่อว่า Handwerpen และกลายมาเป็น antwerpt ดังปัจจุบัน
จากนั้นไปชมโบสถ์เก่าแก่มากมาย ซึ่งแต่ละที่มีความวิจิตรตระการตามาก เช่น วิหารพระแม่ (The Cathedral of Our Lady )ซึ่งเป็นงานศิลปะแบบโกธิค ชิ้นเยี่ยมของโลก อายุกว่า ๗๐๐ ปี ภายในมีหน้าต่างกระจกสี และภาพเขียนชิ้นเยี่ยม ของศิลปินชื่อดังคือ ปีเตอร์ พอล รูเบนส์
เมื่ออ่อนล้าจากการเดินเที่ยวชมแล้ว อาจจะไปเติมความสดชื่นด้วย การนั่งหย่อนใจที่สวนสาธารณะประจำเมือง(City Park)ที่มีมีไม้ใหญ่ร่มรื่น มีสนามเด็กเล่น ประติมากรรมกลางแจ้ง และยังมีเรือนเพาะชำพืชชนิดต่างๆ มากมายให้เที่ยวชม เป็นที่นิยมของชาวเมือง ผู้มานั่งหย่อนใจหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ชมสวนประติมากรรมกลางแจ้ง (The Middelheim Museum ) ซึ่งมีประติมากรรมชิ้นเยี่ยมของโลกกว่า ๓๐๐ ชิ้น จัดแสดงให้กลมกลืนไปกับธรรมชาติอันงดงามทุกฤดูกาล
หรือไปชมความน่ารักของสัตว์ต่างๆ จากทุกมุมโลกของสวนสัตว์แอนท์เวิร์ป ซึ่งเป็นสวนสัตว์ที่เก่าแก่ และมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก มีสัตว์ในครอบครองกว่า ๔,๐๐๐ ชนิด อนุรักษ์สัตว์หายากต่างๆ มากว่า ๑๐๐ ปี
พักเหนื่อยเติมความสดชื่นแล้ว อาจไปชมดูประกายระยิบระยับบาดตาบาดใจของเพชร ในตลาดค้าเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์เพชร (Diamond Museum)ที่จัดแสดงเรื่องราว ของเพชรในทุกกระบวนการรวมถึงเพชร ที่มีชื่อเสียงของโลกด้วย
แต่เพชรเม็ดงาม ที่ประดับบนยอดมงกุฎของ เแอนท์เวิร์ปนั้นคือ"วัดพุทธแอนท์เวิร์ป" สถานที่ซึ่งให้ความสว่างไสว และนำธรรมะอันล้ำค่า ให้ผู้คนได้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน อันเลอค่ายิ่งกว่าเพชรทั้งปวง ด้วยมโนปณิธานอันแน่วแน่ของ พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย ที่จะเผยแผ่วิชชาธรรมกายไปทั่วโลก ดังนั้นปีพุทธศักราช ๒๕๔๐ ท่านจึงได้ส่งทีมงานเผยแผ่ธรรมะมาทวีปยุโรป ที่เมืองอีเปอร์ฝั่งตะวันตกของประเทศเบลเยียม ในช่วงเริ่มต้นมีเพียงพระภิกษุสองรูป และอุบาสกอุบาสิกาจำนวนหนึ่งจากวัดพระธรรมกาย จัดตั้งสถานที่สอนสมาธิ ชื่อว่า "ศูนย์ปฏิบัติธรรมเบลเยียม"
ปี พ.ศ. ๒๕๔๒ ศูนย์ปฏิบัติธรรมเบลเยียม ย้ายมาอยู่ที่เมืองแอนท์เวิร์ป ซึ่งมีความสะดวกในการคมนาคม และมีชาวไทยอาศัยอยู่มากกว่า ในช่วงแรก เป็นเพียงอพาร์ตเมนท์เล็กๆ จัดปฏิบัติธรรมให้แก่สาธุชนทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ
พร้อมกับสอนภาษาไทยให้แก่ชาวต่างประเทศด้วย
ปี พ.ศ. ๒๕๔๗ ศูนย์ปฏิบัติธรรมเบลเยียม ย้ายไปอยู่ที่เขตแวเนเคม ในเเมืองแอนท์เวิร์ป มีอาคารสถานที่สะดวก และกว้างขวางเหมาะแก่การประกอบศาสนพิธี และสามารถรองรับสาธุชน ได้เป็นจำนวนมาก พร้อมกับเปลี่ยนสถานะมาเป็น " วัดพุทธแอนท์เวิร์ป " เนื่องในวาระอันเป็นมงคลฉลอง ๖๐ ปีพระราชภาวนาวิสุทธิ์
วัดพุทธแอนท์เวิร์ป สามารถขยายขอบข่ายการทำงาน ได้กว้างขวางมีกลุ่มผู้นำบุญทั้งในประเทศเบลเยียม เนเธอร์แลนด์ สวีเดน เดนมาร์ก นอรเวย์ และฟินแลนด์
กิจกรรมที่จัดเป็นประจำได้แก่ การจัดบูชาข้าวพระทุกอาทิตย์ต้นเดือน การจัดสอนสมาธิ ให้แก่ชาวต่างประเทศทุกสัปดาห์ การสอนภาษาไทยให้แก่ชาวต่างประเทศ การจัดปฏิบัติธรรมนอกสถานที่ การฝึกอบรมเยาวชนนานาชาติ โครงการอบรมสามเณรธรรมทายาท งานศาสนิกสัมพันธ์ระหว่าง พุทธบุตรนานาชาติ ตลอดจนการผลิตสื่อธรรมะ รูปแบบต่างๆ ทั้งในภาคภาษาอังกฤษ และภาษาเนเธอร์แลนด์
วัดพุทธแอนท์เวิร์ป มีส่วนแนะนำชาวโลกในภูมิภาคนี้ หันกลับมาแสวงหาสันติสุขภายใน ด้วยการฝึกใจให้หยุดนิ่ง หลายท่านเริ่มต้นชีวิตใหม่ ที่ห่างไกลอบายมุข และตั้งปณิธานอันแรงกล้าที่จะติดตาม สร้างบารมีไปกับหมู่คณะจนถึงที่สุดแห่งธรรม สไมล์เวิลด์ขอส่งกำลังใจให้แก่ยอดนักสร้างบารมี ที่วัดพุทธแอนท์เวิร์ปทุกท่าน กราบอนุโมทนาบุญมา ณ โอกาสนี้
วัดพุทธแอนท์เวิร์ป
Dhammakaya International Meditation Centre (Belgium)
Krommelei 1A; 2110 Wijnegem, Antwerpen, Belgium
Tel. +(32)-3326-4577
Mobile. +(32)-4943-26002
E-mail: [email protected]
Website: http://www.dhammakaya.be
|
|