๓. ห้องครัว คือ ห้องมหาประมาณ
ถ้าบอกว่าห้องครัวเป็นแค่ห้องทำกับข้าว ห้องกินข้าวละก็ แสดงว่าดูเบาความสำคัญ เกินไป เพราะห้องครัวหรือห้องอาหาร คือ ห้องพัฒนานิสัยรู้ประมาณในการพูดและการใช้ทรัพย์
หน้าที่หลักของห้องครัวหรือห้องอาหารมีอะไรบ้าง
๑) เป็นที่ประชุมสมาชิกทุกคนในบ้านอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาทุกวัน
๒) เป็นที่ปลูกฝังสัมมาวาจาและสัมมากัมมันตะให้แก่สมาชิกทุกคนในบ้าน
บ้านของใคร พ่อแม่ลูกหลานจะพูดเพราะ ๆ ก็มาจากห้องครัว
ลองสังเกตแล้วกัน ตื่นเช้าขึ้นมาก็ไปล้อมที่โต๊ะอาหาร กลางคืนนอนไม่หลับ ก็มาบ่น ที่โต๊ะอาหาร นอนไม่อยากตื่น ก็มาบ่นที่โต๊ะอาหาร
เมื่อสักครู่นี้ เข้าห้องน้ำแล้วท้องผูก ก็มาบ่นที่โต๊ะอาหาร ท้องเสียมันถ่ายไม่ยอมหยุด ก็มาบ่นที่โต๊ะอาหาร
วันใดได้รับคำชมจากที่ทำงานแสนจะภูมิอกภูมิใจ ก็มาเล่าให้ฟังที่โต๊ะอาหาร จะชมใคร จะด่าใคร ก็ที่โต๊ะอาหาร
เพราะฉะนั้นบ้านไหนลูกพูดเพราะ พูดจามีเหตุมีผล ไม่พูดตะแบง แสดงว่าบ้านนั้น พ่อแม่ลูกต้องกินข้าวพร้อมหน้ากัน แล้วลูกคนไหนพูดอะไรไม่เข้าท่า พ่อแม่ก็อบรมทันทีทันควัน จึงจะได้ลูกที่พูดเป็น มีเหตุมีผล ที่มาของการพูดเพราะ ๆ เริ่มที่โต๊ะอาหารนี่เอง
เพราะฉะนั้น ถ้าเราไปเจอใครขี้โม้ ไปเจอใครชอบบ่นกระปอดกระแปด มารยามาก ฟ้องเลยว่า ที่บ้านกินข้าวไม่พร้อมกันหรอก หรือถ้ากินข้าวพร้อมกัน ก็แสดงว่าไม่แม่ก็พ่อ ลำเอียงใจขาดเลย นิสัยฟ้องการกินอยู่ร่วมกันถึงขนาดนี้
อีกเช่นกัน ที่ห้องครัวนี้เอง นอกจากใช้สำหรับฝึกให้มีสัมมาวาจาแล้ว ยังทำให้เรารู้จักมีสัมมากัมมันตะ ความรู้จักประมาณในการกินการใช้ เพราะว่าจุดรั่วไหลที่สุดในบ้านเลย ก็คือห้องครัวนั่นเอง
ตามี ๒ ตา ทำหน้าที่อย่างเดียว คือ ดู
หูมี ๒ หู ทำหน้าที่อย่างเดียว คือ ฟัง
จมูกมี ๒ รู ทำหน้าที่อย่างเดียว คือ หายใจ
แต่ปากมี ๑ ปาก ทั้งกินทั้งพูด ถ้าให้มา ๒ ปาก คงกินหูดับตับไหม้ พูดกันฟังไม่ทัน
ความรู้ประมาณจึงต้องฝึกจากในห้องครัวให้ดี มิฉะนั้นจะกลายเป็นคนมีนิสัย เห็นแก่ได้ มักง่าย เอาแต่ใจตัวเองตามมาไม่จบไม่สิ้น
๔. ห้องแต่งตัว คือ ห้องมหาสติ
ห้องแต่งตัว คือ ห้องพัฒนานิสัย ตัดใจและใฝ่บุญ
หน้าที่หลักของห้องแต่งตัวมีอะไรบ้าง
๑) ใช้ในการปลูกฝังสัมมาสติ คือฝึกประคองรักษาใจให้ผ่องใสเป็นปกติ
๒) ฝึกให้มีความระมัดระวังในทุก ๆ เรื่อง ไม่ประมาทเผอเรอ มีความตื่นตัว
ตลอดเวลา
๓) ฝึกตัดใจไม่หมกมุ่นในกาม ตามแฟชั่นหรือกระแสสังคม
๔) ฝึกใช้เหตุผลตักเตือนใจของตนให้เป็นสัมมาทิฐิ และสัมมาสังกัปปะไม่ให้เกิดความลำเอียง และสูญเสียศีลธรรมประจำใจ
บางท่านฐานะไม่ได้ดีอะไรนัก ห้องแต่งตัวอาจจะเป็นมุมหนึ่งของห้องนอน ก็ไม่เป็นไร ก็จัดว่าเป็นมุมแต่งตัว
เรื่องนี้มีข้อคิดอีกเช่นกันว่า ถ้าเราจับได้ว่าใครโกหกเรา เราจะโกรธมาก ยิ่งเรารักเราไว้ใจมากเท่าไรแล้วมาโกหกเรา ยิ่งโกรธมากเท่านั้น โกหก ๑ ครั้งก็แล้ว ๒ ครั้งก็แล้ว ถ้า ๔ ครั้ง ๕ ครั้ง ชาตินี้ไม่ต้องคบกันแล้ว แต่ว่าแปลก ตัวเรายืนหลอกตัวเอง ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ได้ทุกวัน ๆ ที่หน้ากระจก มองตัวเองเมื่อไรก็หล่อก็สวยทุกที เมื่อเราหลอกตัวเองอยู่แบบนี้ เราก็จะพลาดขาดสติได้ เพราะฉะนั้น ห้องแต่งตัวหรือมุมแต่งตัวจึงเป็นห้องมหาสติ
๕. ห้องทำงาน คือ ห้องมหาสมบัติ
ห้องทำงาน คือ ห้องพัฒนานิสัยใฝ่ความสำเร็จ
หน้าที่หลักของห้องทำงานมีอะไรบ้าง
๑) ใช้ในการปลูกฝังสัมมาอาชีวะ ไม่หารายได้จากการผิดศีลธรรม ผิดกฎหมาย ผิดจารีตประเพณี
๒) ใช้ปลูกฝังวินัยประจำห้องทำงาน
ห้องทำงานบางคนอยู่ที่บ้าน บางคนอยู่นอกบ้าน นิสัยดี ๆ ที่ได้รับการอบรมมาจาก ๔ ห้องดังกล่าว จะเอามาใช้ที่ห้องนี้ ความรู้ดี ๆ ที่ศึกษามาตลอดชีวิต ก็ถูกเอามาใช้ที่นี่ มหาสมบัติจะไหลมาเทมาก็ห้องนี้ การฝึกสัมมาอาชีวะก็มาจากในห้องนี้ ใครจะมีสมบัติจักรพรรดิตักใช้ไม่พร่องเอามาสร้างบุญสร้างบารมี ก็เกิดขึ้นจากห้องนี้
เพราะฉะนั้น ทุกห้องมีความสำคัญหมด และทุกห้องกลายเป็นแหล่งฝึกอริยมรรค มีองค์ ๘ นั่นเอง
พวกเราเรียนเรื่องอริยมรรคมีองค์ ๘ กันมามาก แต่ว่าเราไม่รู้จะไปฝึกที่ไหน ก็ฝึกจาก ๕ ห้องนี้ เพราะฉะนั้น ช่วยไปดูด้วย แล้วไปถามตัวเองว่า พวกเราใช้ ๕ ห้องที่บ้านของเราถูกต้องแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่ถูก รีบแก้ไขเสีย เดี๋ยวจะต้องไปอายเขาภพชาติเบื้องหน้า
เพราะว่า วันหนึ่งหลวงพ่อเคยถามคุณยายว่า "ยาย กระจกหน้าต่างยาย ทำไมมันต้องเช็ดทุกวัน เช็ดวันเว้นวัน หรือเช็ดวันเว้นสักสองวัน มันก็ยังใสอยู่นะ"
คุณยายบอกว่า "ไม่ได้หรอก เดี๋ยวติดนิสัยข้ามชาติ ถ้าเราเช็ดบ้านของเราสะอาดเรียบร้อยอยู่ตลอดเวลา แม้แต่บริวารที่รอเราอยู่บนวมานที่ชั้นดุสิต เขาก็ต้องรักความสะอาดเหมือนกับเรา เขาจะต้องดูแลที่นั่นให้เช้งวับอยู่ตลอดเวลา ภพชาติต่อไปเวลาเรามาเกิด สมบัติทุกอย่างของเราจะเป็นเงาวับอยู่ตลอดเวลา และที่สำคัญใจของเราจะคุ้นกับความสะอาดข้ามภพข้ามชาติ อะไรสกปรกนิดหนึ่งยอมไม่ได้ เพราะมันจะไปเพาะเชื้อให้กิเลส นิสัยรักความสะอาดจึงต้องทำข้ามภพข้ามชาติ"
เรื่องทั้งหมดนี้หลวงพ่อขอฝากไว้ด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้หลวงพ่อรวบรวมมาให้แล้ว
ตั้งแต่สัมมาทิฐิ ทำให้มองชีวิตของตนเองออก
รัฐศาสตร์เชิงพุทธ ทำให้มองประเทศทั้งประเทศ มองโลกทั้งโลกออก
ทิศ ๖ ทำให้มองสังคมรอบตัวออก
๕ ห้องชีวิต เนรมิตนิสัย ทำให้มองออกว่า นิสัยของเราแต่ละอย่าง ออกมาจากแต่ละ ห้องอย่างนี้เอง
เมื่อสำรวจตรวจสอบตนเองแล้ว ใครยังมีข้อบกพร่องอะไรอยู่ รีบไปแก้ไขให้เป็นนิสัย ปฏิบัติตามอริยมรรคมีองค์ ๘ ให้ข้ามภพข้ามชาติเถิด
(อ่านต่อฉบับหน้า) |