จากการสำรวจความคิดเห็น ของนิตยสารฉบับหนึ่ง ถึงอาชีพในฝันของผู้หญิงวัยทำงาน อายุระหว่าง ๒๐-๒๗ ปี พบว่า อาชีพในฝัน สามอันดับแรกของหญิงยุคใหม่ คือ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ครีเอทีฟรายการโทรทัศน์ และนักการตลาด ซึ่งผู้ตอบแบบสอบถามได้แสดงความคิดเห็นว่า อาชีพที่เลือกมานี้นอกจากจะมีรายได้ดีแล้ว ยังเป็นอาชีพที่เปิดโอกาส ให้ได้ใช้ความรู้ความสามารถ โดยเฉพาะการเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินนั้น ยังทำให้มีโอกาสพบปะผู้คน และได้เดินทางไปทั่วโลกอีกด้วย
การที่คอลัมน์ "เดินไปสู่ความสุข" เลือก คุณพัชรินทร์ ทวนทอง มาเป็นแขกรับเชิญในตอน "ชีวิตบนฟ้า" ไม่ใช่เพียงเพราะเธอมีอาชีพเป็น พนักงานต้อนรับของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เท่านั้น หากแต่วิถีทาง การใช้ชีวิตของเธอ น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะเธอสามารถนำธรรมะ มาประยุกต์ใช้ในงานอาชีพได้อย่างน่าทึ่ง
คุณพัชรินทร์ เริ่มทำงานเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ขณะยังเรียนอยู่ในชั้นปี ที่สาม คณะมนุษยศาสาตร์ เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และหลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้รู้จักกับ "สมาธิ" ดังที่เธอได้เล่าให้เราฟังอย่างอารมณ์ดีว่า
"ตอนนั้นพี่ยังเด็กมาก อายุ ๒๐ กว่าๆ ไปบินกับเพื่อนคนหนึ่ง ได้พักห้องเดียวกัน เราก็อยากจะคุย เพื่อนก็เอาแต่นั่งสมาธิไม่เลิกสักที ก็นึกสงสัยแล้วล่ะว่า สมาธิต้องมีดีอะไรแน่ๆ เพื่อนถึงได้นั่งเอาจริงเอาจังขนาดนั้น ต่อมาเลยตามเพื่อนไปนั่งสมาธิด้วย ทีแรกก็คิดแบบเด็กๆ นะคะว่า การนั่งสมาธินอกจากจะได้บุญแล้ว น่าจะทำให้เราสวยขึ้น (หัวเราะ) เพราะเห็นคนที่เขา นั่งสมาธิผิวพรรณจะผ่องใส หน้าอ่อนกว่าวัย ..นั่งไปนั่งมาก็ชอบเพราะว่า.. จิตใจเราสงบขึ้น มีความสุขจากการได้นั่งหลับตา ได้พบอารมณ์ที่ละเอียดประณีต ใจสบายและใจเย็นขึ้น จากนั้น ก็เลยนั่งมาตลอดเกือบยี่สิบปีแล้วค่ะ"
เธอประจักษ์ด้วยตนเองว่า การนั่งสมาธิ ไม่เพียงแต่เป็นการผ่อนคลายทั้งกายใจ ที่อ่อนล้าจากงานหนัก หากแต่ยังเป็นการได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง หลังจากที่ต้องพบปะกับผู้คนมากมาย อันเป็นส่วนหนึ่งของ งานที่เธอไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้
"บินมาเกือบยี่สิบปี ..ไปมาแล้วทั่วโลก เจอคนมาเรียกได้ว่าแทบจะครบทุกชาติ ทุกภาษา ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้สอนให้พี่รู้ว่า คนที่เราเจอแต่ละคนเป็นอย่างไร นอกจากนี้ การพิจารณาคุณสมบัติ และประเมินคนที่เราพบได้อย่างถูกต้องส่วนหนึ่ง ก็มาจากการฝึกสมาธิ เพราะเวลาที่ใจเรานิ่งๆ เราก็จะมองทุกอย่างไปตามความเป็นจริง โดยไม่มีอคติ และที่สำคัญ สมาธิสอนให้เราอ่อนโยน และเยือกเย็นขึ้น สิ่งที่ตามมาก็คือ ความเข้าใจคน และมีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือและแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กับคนรอบข้าง โดยไม่คิดว่าเขาเป็นเพียงแค่ผู้โดยสาร หรือเพื่อนร่วมงาน ไม่ใช่การทำเพียงแค่หน้าที่ แต่เป็นการทำด้วยใจ"
คำบอกเล่าข้างต้นของเธอ ได้รับการยืนยันอย่างชัดเจน เมื่อวันที่เราได้ไปสัมภาษณ์เธอที่ ท่าอากาศยานดอนเมือง เราพบว่า เธอเป็นพี่ตุ้ม ผู้น่ารักของน้องๆ ชาวการบินไทย และภาพของการทำงานที่ปรากฏต่อสายตา ทำให้เรารับรู้ว่า แม้จะเหน็ดเหนื่อยจากการบินในไฟลท์ข้ามทวีป ที่ยาวนาน แต่เธอก็ยังดูสดชื่นอยู่เสมอ ซึ่งในเรื่องนี้ เธอได้เผยเคล็ดลับด้วยรอยยิ้มแจ่มใสว่า
"เพราะสมาธินั่นแหละค่ะ ที่ช่วยให้มีเรี่ยว มีแรงทำงาน คนที่อยู่ในงานสายนี้จะรู้กันดีว่า ต้อง รักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพราะกินนอนไม่เป็นเวลา และต้องอยู่ในพื้นที่แคบๆ บนเครื่องอย่างต่อเนื่อง ยิ่งคนที่ทำงานมานานอย่างพี่ บินแต่ละครั้งก็ไปโซนยุโรป ซึ่งเวลาต่างกับประเทศไทยมาก บางทีร่างกายปรับตัวไม่ทันจะรู้สึกอ่อนล้ามาก ขนาดกลับมาพักแล้วก็ยังไม่สดชื่น จนบางทีรู้สึกเหมือนว่าเราป่วย ไปหาหมอก็ไม่พบสาเหตุ แต่ก็ได้สมาธินี่แหละที่ช่วยให้พาตัวเองกลับไปทำงานได้ ซึ่งคนเห็นพี่จากภายนอกก็ไม่รู้หรอกนะคะว่าไม่สบาย เพราะเรายิ้มตลอด เดินลากกระเป๋าไปแอร์พอร์ต หรือดูแลผู้โดยสาร ก็ท่อง สัมมา อะระหัง ทำสมาธิ ไปด้วย ชีวิตก็ผ่านไปด้วยดีมาจนถึงทุกวันนี้ละค่ะ"
เมื่อทีมงานตั้งคำถามว่า สิ่งที่คิดว่าเป็นที่สุดของชีวิตคืออะไร คุณพัชรินทร์ตอบทันทีว่า
"ถ้าเป็นสมัยก่อนที่พี่ยังเด็กๆ เริ่มทำงานใหม่ๆ ก็คงจะตอบว่า การได้ทำงานที่ชอบ ได้ท่องเที่ยว ได้ซื้อของสวยๆ งามๆ มีสตางค์ใช้ไม่ขาดมือ ก็ถือว่าเป็นอะไรที่ดีมากแล้ว แต่เมื่อมาถึงจุดหนึ่งก็พบว่า ของที่ได้มา แป๊บเดียวก็เบื่อ อยากได้อย่างอื่นอีก วนเวียนไปอย่างนี้ไม่รู้จบ ยิ่งพอมาได้รู้จักการทำสมาธิ ได้เรียนรู้วิธีการทำบุญและรู้ว่า ผลของความสุขความสำเร็จ ในปัจจุบัน มาจากบุญ ที่เราได้ทำมาทั้งสิ้น พี่จึงเชื่อมั่นในสิ่งที่ค้นพบนี้มากค่ะ และคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุด และถือเป็นที่สุดของ ชีวิต คือการได้มารู้จักวัดพระธรรมกาย และรู้ว่า ทำบุญอย่างไร ปฏิบัติธรรมเขาทำกันอย่างไร"
ทุกประโยคที่มาจากใจของเธอ ..ได้บอกให้เรารู้ว่า ..แม้ชีวิตบนฟ้า จะให้ประสบการณ์ท่องโลกกว้าง และงานอาชีพที่มั่นคง แต่ชีวิตที่กลางกาย อันเริ่มมาจากความหยุดนิ่ง กลับเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณพัชรินทร์ ผู้ใช้เวลาของการเดินทางไปทั่วโลก ได้ค้นหามาโดยตลอด และเมื่อได้ค้นพบแล้ว เธอจึงบอกกับตนเองและผู้คนรอบข้าง อย่างมั่นใจว่า นี่คือความสุขที่แท้จริง...
|