ถ้าวินิจฉัยผิดว่าทำชั่วได้ดีมีถมไป พอคิดอย่างนี้ ต่อแต่นี้ไปโอกาสที่จะคิดเรื่องดี ๆ ยากเสียแล้ว จะคิดแต่เรื่องร้าย ๆ พูดเรื่องร้าย ๆ ทำเรื่องร้าย ๆ เพราะฉะนั้นใจก็จะขุ่นมัวตลอดชีวิต เมื่อใจขุ่นมัวตลอดชีวิต ก็คงจะมีแต่เรื่องร้อน ๆ ไหลเข้ามาหาตัว ถ้าละโลกตอนที่ใจขุ่นมัวก็จะมีนรกเป็นที่ไปแน่นอน
เพราะฉะนั้น วินิจฉัยของคนเราว่าอะไรดี อะไรชั่ว อะไรผิด อะไรถูก อะไรบุญ อะไรบาปนี้ ต้องวินิจฉัยให้ถูกให้ได้ ถ้าวินิจฉัยผิด ชาตินี้เอาดีไม่ได้
เพื่อนชั่ว คือ เพื่อนที่วินิจฉัยเสีย เห็นว่าทำชั่วได้ดีมีถมไป ทำดีได้ดีมีที่ไหน เมื่อไปคบกับคนอย่างนี้ เราก็จะติดนิสัยที่ไม่ดีของเขามา ติดวินิจฉัยที่เสีย ๆ มา แล้วจากนั้นเราก็จะคิดร้าย ๆ พูดร้าย ๆ ทำร้าย ๆ ตามอย่างเขา อนาคตของเรามืดมนแน่นอน
เมื่อเป็นอย่างนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงตรัสไว้ชัดเจนว่าห้ามคบมิตรชั่ว หรือบางทีก็ทรงใช้ คำว่าคนพาล เพราะถ้าไปคบเข้าแล้ว นิสัยเสีย ๆ วินิจฉัยผิด ๆ คำพูดเสีย ๆ การกระทำผิด ๆ จะไหลเข้ามาในตัวเรา ตรงนี้เองที่เป็นเหตุให้พระองค์ทรงสั่งไว้ว่าห้ามคบเพื่อนชั่ว เพราะคนชั่วเป็น ต้นเหตุของอบายมุขและสิ่งเลวร้ายทั้งหลายในโลกมนุษย์
บันไดชีวิตข้อแรกของมนุษย์ ถ้าอยากจะมีความเจริญห้ามคบคนชั่วเด็ดขาด ถ้าคบคนชั่ว ความเป็นมนุษย์ของเราคงสิ้นสุดลง จะมีความเป็นสัตว์ เปรต หรือความเสียหายต่าง ๆ ไหลเข้า มาแทน
ถ้าเราไม่ระวังเรื่องเหล่านี้ให้ดี ไปคบคนชั่ว ไปทำสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม ทั้ง ๆ ที่พ่อแม่ก็ห้ามแล้ว ว่าไม่ให้ทำ และพ่อแม่ก็ไม่เคยบอกว่าแหล่งเที่ยวกลางคืนอยู่ที่ไหน แต่เพื่อนพวกนี้บอกเราหมด อาสาพาไปเสียด้วย บางครั้งจ่ายเงินให้เราด้วย อ่อยเหยื่อ แล้ววันหลังเราก็ต้องไปเสียเงินให้เขาบ้าง
เพราะฉะนั้น ใครมีลูก สั่งลูก ใครมีหลาน สั่งหลาน ว่าคบคนให้เลือกคบให้ดี แล้วบอกวิธีดูคนชั่วให้ลูกหลานด้วยว่าดูอย่างไร ตำราของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดว่าคนชั่ว คือ คนที่คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่วเป็นปกติ คนดี คือ คนที่คิดดี พูดดี ทำดีเป็นปกติ
ในชีวิตประจำวัน เพื่อนที่เราคบกันอยู่ ในตัวเขาก็มีความชั่วบางอย่างอยู่ แต่ไม่มากนัก ถ้าเขาเลวขนาดสังคมเห็นโจ่งแจ้ง เราก็คงจะกระโดดหนีออกห่างได้ทัน แต่ว่าที่เรากระโดดหนีไม่ทัน เพราะว่าเขาแค่กึ่งดีกึ่งเลว และที่กึ่งดีกึ่งเลวนี้แหละที่กลายเป็นพาหะ
เพื่อนที่กึ่งดีกึ่งเลวมีเชื้อพาล ๆ อยู่ เรามักจะดูไม่ออก บางทีก็มาในรูปความหวังดี เห็นเรา ทำงานเครียด ๆ ก็ชวนไปกินเหล้ากันสักมื้อ ธรรมดาเขาก็ไม่ค่อยกิน แต่เขามีเชื้อ เชื้อพวกนี้เวลา เราเครียดก็จะพลาด เพราะว่าเขาเข้ามาหาด้วยความคุ้นเคย แล้วก็เลยดึงเราตกต่ำ ไม่มีเวลาจะคิดหาทางแก้ไขตัวเอง
เพราะฉะนั้น ตัดไฟเสียแต่ต้นลมดีกว่า เพื่อนที่เห็นชัด ๆ แล้วว่า เขาไปทำสิ่งที่ไม่ควรทำ ไปจมอยู่ในอบายมุข ไม่ว่าจะจมอยู่ในวงเหล้า วงการพนัน หรือเที่ยวกลางคืนต่าง ๆ นานา ถ้าเห็นแววอย่างนั้น ให้ห่าง ๆ เขาเสีย แต่ถ้าบางคนรับราชการด้วยกัน ทำงานในห้างร้านเดียวกัน ห้องทำงานห้องเดียวกัน ไม่รู้จะหนีไปไหน ก็ต้องระวังตัวเอาไว้ อย่าไปคุ้นเคยกับพวกที่จมอยู่ในอบายมุข หรือมีแววจะจม แต่ให้รีบเตือนเขาให้เลิกเสีย แล้วคุณก็อย่าตามเขาไป แล้วคุณจะโชคดี