ทบทวนบุญ
เรื่อง : อุบลเขียว
|
พลังสตรี ..คำนี้สะเทือนแผ่นดิน สตรีผู้มีบุคลิกลักษณะภายนอกนุ่มนวล อ่อนโยน ทว่าภายในจิตใจนั้นกลับเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว สตรีจึงเปรียบดังสำลีหุ้มเหล็กกล้า หากว่ารวมพลังกันสร้างความดีมากเท่าใด สันติสุขย่อมบังเกิดขึ้นแก่โลกมากเท่านั้น ดังเช่น ภาพแห่งความปลื้มปีติของโครงการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ยอดหญิง ผู้มั่นคงในพระรัตนตรัย ๑๐๐,๐๐๐ คน เมื่อวันที่ ๘-๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา ได้กลายเป็นประสบการณ์อันทรงคุณค่า ที่เปี่ยมด้วยสารประโยชน์ และสร้างกระแสแห่งความดีให้เกิดขึ้นในวงกว้าง จนกระทั่งนำไปเล่าขานกันอย่างไม่รู้จบ..
เริ่มต้นด้วยการรับสมัครและสัมมนาพี่เลี้ยงอุบาสิกาแก้ว ผู้ที่จะไปทำหน้าที่ดูแลอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนทั่วทุกภูมิภาค ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ บรรยากาศอุ่นหนาฝาคั่งไปด้วยบรรดา ว่าที่พี่เลี้ยงอุบาสิกาแก้ว ที่มาร่วมแสดงพลังในการทำหน้าที่พี่เลี้ยงที่สภาธรรมกายสากล ณ บ้านแก้วเรือนทองคุณยาย โดยมีพี่เลี้ยงทยอยเดินทางมารอลงทะเบียนตั้งแต่ ๐๗.๓๐ น. หลายท่านก็พักค้างที่วัดตั้งแต่วันมาฆบูชาแล้ว ทำให้พื้นที่ในบ้านแก้วเรือนทองคุณยายแน่นไปด้วยผู้มีบุญชุดขาว จนต้อง ปูพื้นที่นั่งสแลนเพิ่มด้านนอก และหนังสือคู่มืออุบาสิกาแก้วที่เตรียมไว้กว่า ๓,๐๐๐ ชุด ถูกแจกจ่าย ไปจนหมด ซึ่งเป็นนิมิตหมายอันดีว่า เมื่อพี่เลี้ยง พร้อมเต็มอัตรา หน่ออ่อนแสนกว่าพร้อมรับมืออย่าง แน่นอน
การอบรมสัมมนาพี่เลี้ยงอุบาสิกาแก้วครั้งนี้ ตอกย้ำความหมายแห่งตนอันน่าภาคภูมิใจ ที่พร้อมจะถ่ายทอดต่อไปยังน้องเลี้ยงทุกคน ให้รู้จักและตระหนักในหน้าที่ เพราะคำว่า อุบาสิกา คือ ตำแหน่งของสตรีผู้นั่งใกล้พระรัตนตรัย ทำหน้าที่ในการอุปถัมภ์บำรุง และปกป้องคุ้มภัยให้แก่พระพุทธศาสนา มายาวนานกว่า ๒,๕๐๐ ปี ดังเช่น มหารัตนอุบาสิกา วิสาขา ผู้สร้างบุพพาราม วัดสำคัญในสมัยพุทธกาล จวบจนถึงปัจจุบันนี้อุบาสิกาก็ยังคงเป็น ๑ ใน ๔ เสาหลักแห่งความมั่นคงของพระพุทธศาสนาเหมือน เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล คำว่าอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน หมายถึง อุบาสิกาผู้มีศีล ๘ เป็นอาภรณ์ประดับ กาย วาจา ใจ และปฏิบัติตามทางสายกลาง คือ อริยมรรคมีองค์ ๘ ย่อมงดงามและบริสุทธิ์ประดุจดอกไม้แรกแย้ม กายภายนอกก็สว่างสดใสด้วยอานุภาพแห่งศีล กายภายในที่เป็นหน่อเนื้อแห่งพุทธะ จะพัฒนาเป็นกายที่สุกใสสว่าง ด้วยอำนาจแห่งสมาธิ และปัญญา เช่นนี้ จึงได้ชื่อว่าเป็นอุบาสิกาผู้นั่งใกล้ พระรัตนตรัยอย่างแท้จริง ยิ่งมีมาก พระพุทธศาสนา ยิ่งมั่นคงถาวร
ตั้งแต่วันเปิดรับสมัครและวันเข้ารับการอบรม อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ๑๐๐,๐๐๐ คน พร้อมกัน ทั่วประเทศ เกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนของกระแสตอบรับที่คึกคักเบิกบานทั่วทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะ เป็นภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคใต้ พลังสตรีทุกภูมิภาคไม่ว่า จะวัยรุ่นไปจนถึงวัยคุณยาย คุณย่า ต่างพร้อมใจใช้ สิทธิ์ลูกผู้หญิง ที่จะได้นั่งใกล้พระรัตนตรัยมากขึ้นด้วยการมาเป็นหนึ่งในอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนอัศจรรย์ ๑๐๐,๐๐๐ คน ให้เป็นภาพประวัติศาสตร์ชีวิตอันงดงามที่นึกถึงครั้งใดปลื้มใจทุกครั้ง ต่างไม่ยอมพลาดโอกาสแห่งการเข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน ซึ่ง ลูกผู้หญิงทุกคนสามารถทำได้ อีกทั้งยังเป็นการตอบแทนพระคุณบิดามารดาอันยิ่งใหญ่อีกประการหนึ่ง
ด้วยระยะเวลาเพียงไม่ถึง ๑ สัปดาห์ นับแต่ วันประชาสัมพันธ์โครงการผ่านสื่อทุกชนิด ปรากฏว่า มีสตรีไทยใจบุญมาร่วมสมัครกันเนืองแน่นทุกศูนย์ฝึก อบรมใกล้บ้าน ทำให้หลายคนถึงกับอุทานด้วยความ ปีติว่า อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนครั้งนี้ อัศจรรย์สมชื่อจริง ๆ
..ตลอดระยะเวลาการอบรม อุบาสิกาแก้ว ทุกคนจะได้ฝึกฝนอบรมตนเองทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติกันอย่างเต็มที่ สมาทานศีล ๘ ตลอดการอบรม นั่งสมาธิและฟังธรรมอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันจะได้เรียนรู้และฝึกฝนวัฒนธรรมชาวพุทธ เช่น การกราบ การไหว้ ศาสนพิธีของชาวพุทธ ต่าง ๆ ตลอดจนเรียนรู้การใช้ปัจจัย ๔ เพื่อพัฒนา ๕ ห้องเปลี่ยนนิสัย ได้แก่ การใช้ห้องน้ำ ห้องนอน ห้องแต่งตัว ห้องครัว และห้องทำงาน ที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี ทำให้ เราได้รู้ถึงแก่นแท้ของชีวิตว่า ความจริงแล้วสิ่งใด คือเรื่องจำเป็น และสิ่งใดคือเรื่องฟุ่มเฟือย ซึ่งอุบาสิกาแก้วทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคิดไม่ผิดที่ตัดสินใจมาอบรมในครั้งนี้ เพราะได้เรียนรู้ธรรมะที่ใช้ได้จริงในชีวิต ซึ่งไม่เคยเรียนรู้ที่ไหน มาก่อน
แล้วก็มาถึงวันสำคัญ นั่นคือ วันรับผ้าสไบแก้ว เนื่องในพิธีบวชอุบาสิกาแก้ว ๑๐๐,๐๐๐ คน ณ วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ภาคเช้าเป็นการปฏิบัติธรรมกลั่นใจให้ใส สะอาดบริสุทธิ์ จากนั้นในช่วงพักกลางวันเป็น พิธีสอบตอบปัญหาศีลธรรมเพื่อสันติภาพโลก สำหรับอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ๑๐๐,๐๐๐ คน ซึ่งแบ่งเป็น กลุ่มละ ๓ คน ให้ปรึกษากันได้อย่างเต็มที่ เนื้อหาข้อสอบถือเป็นการทบทวนบทฝึกที่ได้ผ่านการอบรมไปแล้ว เช่น วัฒนธรรมชาวพุทธ การทำทาน การ รักษาศีล การเจริญภาวนา และสัมมาทิฐิเบื้องต้น เป็นต้น อุบาสิกาแก้วทุกคนต่างตั้งใจกันอย่างมาก หลายคนอ่านหนังสือถึง ๒ รอบ และยังแบ่งปันความรู้ช่วยเพื่อน ๆ ทบทวนเนื้อหาก่อนสอบอีกด้วย
๑๓.๕๐ น. พิธีขอขมาต่อคณะสงฆ์ ซึ่งถือ เป็นพุทธประเพณีอันดีงามของชาวพุทธ ที่แสดงออก ซึ่งความเคารพต่อพระรัตนตรัยอย่างสูงยิ่ง ก่อนที่จะฝากตนเป็นศิษย์เรียนรู้ธรรมะในเรื่องใด ต้องทำกาย วาจา และใจของตนให้บริสุทธิ์เสียก่อน ด้วยการกล่าวขอขมาลาโทษต่อความผิดพลาดล่วงเกินในอดีต ปัจจุบัน และที่จะเกิดมีต่อไปในอนาคต ต่อพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ซึ่งเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด อุปมาเหมือนทำใจของเราให้เป็นแก้วเปล่าใบหนึ่ง ที่สะอาด ใสสว่าง และพร้อมที่จะรองรับธรรมะที่กำลังบังเกิดขึ้น
๑๔.๔๕ น. พิธีมอบผ้าสไบแก้ว ซึ่งเป็นพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญ นับตั้งแต่โบราณกาล ผ้าสไบเป็นเครื่องแต่งกายของสตรีในดินแดนแถบเอเชียอาคเนย์มาหลายร้อยปี ไม่เพียงแต่ในประเทศ ไทย แต่เป็นที่นิยมในหลาย ๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศลาว เขมร พม่า ซึ่งส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา สไบถือเป็นสัญลักษณ์ของการถือศีล ปฏิบัติธรรมของอุบาสิกา ปู่ ย่า ตา ยาย เล่าให้ฟังว่าถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาตั้งแต่โบราณถ้าผู้หญิงคนไหนจะไปวัด สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ ผ้าสไบ ซึ่งเปรียบเสมือนอาภรณ์ประจำตัวของนักบวช หรือเป็นเกียรติยศอันน่าภาคภูมิใจเลยก็ว่าได้
เมื่อได้ห่มครองผ้าสไบแล้วก็นำมาซึ่งความปีติ ภาคภูมิใจ ประหนึ่งว่าได้สวมใส่สายสะพายเกียรติยศ ของนักรบแห่งกองทัพธรรม ผ้าสไบแก้วจึงเปรียบได้กับผ้าทิพย์จากสวรรค์ ที่ไม่เพียงแต่ห่มครองกาย แต่ยังห่มใจของเหล่าอุบาสิกาแก้ว ๑๐๐,๐๐๐ คน ทั้งภายในและต่างประเทศ ทำให้ตระหนักถึงฐานะ แห่งผู้นั่งใกล้พระรัตนตรัยฝ่ายหญิงอย่างแท้จริง ว่ามีหน้าที่สำคัญในการนำแสงสว่าง ไปสู่ใจชาวโลกการรวมพลังสตรีสีขาวบริสุทธิ์ในครั้งนี้ ถูกร้อยเรียงด้วยระเบียบวินัยเป็นหนึ่งเดียวกัน ประหนึ่ง พวงมาลัยดอกมะลิน้อมบูชาพระรัตนตรัย กลิ่นศีลส่งกลิ่นหอมทวนลมไปทั่วทั้งแผ่นดิน สะกดสายตาชาวโลกให้ดื่มด่ำไปกับอมตธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และสร้างแรงบันดาลใจในการทำความดีอย่างมหาศาล อุบาสิกาแก้วหลายคน ถึงกับหลั่งน้ำตาแห่งความปลื้มปีติออกมา เป็นน้ำตา เย็นแห่งความภาคภูมิใจว่า เรานี่แหละ คือ หนึ่งในผู้สถาปนาประวัติศาสตร์อันงดงามให้เกิดขึ้นแก่โลก
๑๗.๐๐ น. ภาคเย็นเป็นพิธีจุด "ธัมมจาริณีประทีป" ถวายเป็นพุทธบูชา เริ่มต้นด้วยพิธีอาราธนาศีล ๘ ซึ่งประธานสงฆ์ในครั้งนี้ คือ พระเดชพระคุณ พระธรรมกิตติวงศ์ เมตตาเป็นพระศีลาจารย์ ให้โอวาทแก่อุบาสิกาแก้วทั้ง ๑๐๐,๐๐๐ คน ตามด้วย พิธีถ่ายภาพประวัติศาสตร์ และเมื่อถึงเวลาสว่างพระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ประธานสงฆ์ ได้จุดไฟฤกษ์ และนำนั่งสมาธิกลั่นใจให้หยุดนิ่งบนผืนดินศักดิ์สิทธิ์ ณ ลานธรรมมหาธรรมกายเจดีย์ เมื่อใจของทุกคนใสสว่างดีแล้วจึงเข้าสู่พิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ เปล่งเสียงดัง ๆ ว่า ชีวิตนับจากนี้เป็นต้นไป จะไม่ขอมีที่พึ่งอื่นใด นอกจากพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ซึ่งเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันแท้จริงเท่านั้น
ท่านประธานสงฆ์กล่าวเชิญตัวแทนอุบาสิกาแก้วผู้ใจบุญจุดประทีปโคมเอกพิเศษสุด จากนั้นโคม "ธัมมจาริณีประทีป" นับแสนดวงก็พลันสว่างไสวไปทั่วทั้งลานมหาธรรมกายเจดีย์ กว้างไกลสุดสายตาดุจทะเลเทียน ท่วงทำนองแห่งธรรมได้บรรเลงขึ้น "...ฉันคือแสงเทียน ฉันคือความสว่างไสว ฉันคือความพิลาศพิไล ฉันมีดวงใจต่างดวงชวาลา... มาเถิด เร็วมา ต่อเติมดวงชวาลา อาบท้องฟ้าให้เป็นสีทอง..." เสียงเพลง "แสงเทียน" อันไพเราะ อ่อนหวาน ก้องกังวานขึ้นพร้อมกับแสงเจิดจรัสแห่งโคมประทีปนับแสนดวง กล่อมเกลาจิตใจให้สงบ สว่าง และเอิบอาบกับกระแสบุญชุ่มเย็นในดวงใจ ดุจดังเป็นวันที่กระแสบุญโอบล้อมไปทั่วบริเวณ ประหนึ่งห้วงเวลาได้หยุดนิ่งไว้ที่วินาทีนี้ ในวันประวัติศาสตร์แห่งการสร้างความดีของอุบาสิกาแก้ว ๑๐๐,๐๐๐คน ให้สว่างไสว ณ ศูนย์กลางกายไปอีกนานแสนนาน
สืบเนื่องจากประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของการบวช อุบาสิกาแก้วในครั้งแรกนี้จึงทำให้คณะกรรมการ ดำเนินงาน ซึ่งนำโดยคณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน ร่วมกับคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้จัดให้มีโครงการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ๕๐๐,๐๐๐ คน ขึ้นอีกในวันที่ ๑๖-๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๓ ทั้งนี้ เพื่อขยายโอกาสไปสู่สตรี ในวงกว้างยิ่งกว่าเดิมให้มีโอกาสไดทำความดีครั้ง ยิ่งใหญ่ และจะจัดให้มีพิธีรับสไบแก้วในวันคุ้มครอง โลก ๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๓
ในโอกาสนี้จึงขอเรียนเชิญ ยอดหญิงผู้มีบุญ ทุกท่านร่วมบวชอุบาสิกาแก้ว เพื่อสั่งสมบุญสร้างมหากุศลให้แก่ตนเอง ตอบแทนพระคุณพ่อแม่ ช่วย สืบทอดอายุพระพุทธศาสนา ฟื้นฟูวัฒนธรรมชาวพุทธและศีลธรรมโลกให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น
แม้ภาพการรวมพลังสร้างความดีของเหล่าอุบาสิกาแก้ว ๑๐๐,๐๐๐ คน ได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ความปลื้มใจไม่เคยจางหาย สไบแก้วที่ได้รับแม้วางไว้ภายนอกกาย แต่ยังห่มใจของเหล่ายอดหญิงจักรพรรดิทุกคน ให้ยึดมั่นในหน้าที่อันแท้จริงของผู้นั่งใกล้พระรัตนตรัยฝ่ายหญิง เดินหน้าทำหน้าที่กัลยาณมิตร ชักชวนมหาชนทั้งหลายให้มาร่วมกันจรรโลงพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองสืบต่อไป