วารสารอยู่ในบุญ ธรรมะออนไลน์

พระธรรมเทศนา ปุจฉา-วิสัชนา บทความข่าว ผลการปฏิบัติธรรม ตักบาตรพระ บาลีน่ารู้ กฏแห่งกรรม ฝันในฝัน บวชพระ

บทความอยู่ในบุญ สารพิษ

เรื่อง : โค้ก อลงกรณ์

 


 

สารพิษ

          ศุกร์ที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เวลาประมาณ ๑๒.๔๖ น. ตามเวลาเมืองไทยเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น  และหลังจากนั้นเกิดคลื่นยักษ์สึนามิตามมา

       คลื่นยักษ์ใหญ่โตมหึมาได้กวาดต้อนทุกอย่างให้พังพินาศความโหดร้ายจากภัยพิบัติครั้งนี้ทำให้สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินแก่ชาวญี่ปุ่นโลกทั้งโลกต่างจับตามองเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างต่อเนื่องถึงผลกระทบที่กำลังเกิดขึ้นตามมา

          นอกจากภาพความสูญเสียที่เกิดขึ้นแล้ว ภาพที่ปรากฏต่อสายตาชาวโลกคือ ความเข้มแข็งสำรวม และมีระเบียบวินัยของชาวญี่ปุ่นที่ทั่วโลกต่างจับจ้องด้วยความชื่นชม

          อาการเสียใจที่ไม่ถึงกับฟูมฟาย กิริยาที่นิ่ง สงบ การให้เกียรติเคารพซึ่งกันและกันและช่วยเหลือกันในยามประสบทุกข์คือภาพที่ผู้คนต่างบ้านต่างเมืองทั้งสงสารและสรรเสริญเห็นใจและชื่นใจไปพร้อมกัน

          หลังจากนั้นภาพที่ตามมายิ่งจับใจมากขึ้นไปอีก เมื่อชาวญี่ปุ่นยังคงปักหลักสู้ดำรงชีพต่อไปในดินแดนบ้านเกิดกับภัยนิวเคลียร์ที่ตามมาหลังจากโรงงานเตาปฏิกรณ์ปรมาณูระเบิด

          แน่นอนว่าชีวิตของผู้คนแถวนั้นย่อมได้รับสารกัมมันตรังสีที่แผ่ออกมาโดยรอบและต่างก็ทราบดีถึงภัยจากสารกัมมันตรังสีที่จะทำอันตรายแก่ตนแต่ชาวญี่ปุ่นก็ยังคงไม่ทิ้งถิ่นฐานหรืออพยพหนี  ยังหยัดยืนปักหลักต่อสู้ต่อไป

          แม้พิษภัยกัมมันตรังสีอาจจะแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายได้แต่ไม่สามารถทะลุเข้าสู่หัวใจนักสู้ของชาวญี่ปุ่นได้เลย

          ต่างจากผู้คนที่อยู่ห่างไกลออกไปจากญี่ปุ่นถึงคนละมุมโลกเพียงแค่รับทราบข่าวการแผ่ของสารกัมมันตรังสีกลับมีอาการน่าเป็นห่วงเข้าขั้นโคม่ามากกว่าผู้อยู่ในที่เกิดเหตุ

          หลายคนเริ่มวิตกกังวลกับสารพิษที่ปนเปื้อนมากับพืชผัก อาหาร น้ำดื่ม สายฝนรวมไปถึงอากาศที่ใช้หายใจ

          ความเข้มข้นของความหวาดหวั่นวิตกนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีปริมาณเพิ่มขึ้นสูงมากมากเสียกว่าการแผ่ขยายของสารกัมมันตรังสีเองด้วยซ้ำและนานวันการแพร่กระจายของข่าวสารพิษที่ปนเปื้อนมากับสิ่งต่าง ๆ   ยิ่งส่งผลกระทบออกไปเป็นวงกว้าง

          "ความเครียด วิตกกังวล" จากสารพิษจึงเป็นปัจจัยที่ ๕ที่เพิ่มเข้ามาในการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน

          สิบกว่าปีก่อนเมื่อตื่นเช้าขึ้นมาผมมีอาการเจ็บตามข้อนิ้วมือและนิ้วเท้าความไม่รู้สาเหตุทำให้หวั่นวิตก เมื่อทนเจ็บไม่ไหวจึงไปหาหมอหลังจากที่ถูกฉีดยาหนึ่งเข็มแล้วทุกอย่างก็ดีขึ้น   เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ผมรู้จักกับคำว่า ระมัดระวังตามที่คุณหมอแนะนำ

          ระวังอาหารการกินโดยเฉพาะเครื่องในสัตว์ หน่อไม้สัตว์ปีกและอีกหลายอย่างที่มีสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า สารพิวรีน ในปริมาณมาก

          สารชนิดนี้ถ้าเข้าไปสะสมอยู่ในร่างกายก็จะย่อยสลายกลายเป็นกรดยูริกและเจ้ากรดยูริกนี้เมื่อสะสมมากเกินจนระบบภายในขับไล่ออกจากร่างกายไม่ทันผลที่ตามมาคือจะมีอาการเจ็บปวดตามข้อที่ปัจจุบันรู้จักกันดีในนามว่า  โรคเก๊าต์  อย่างที่ผมพบเจอ

          ผมลองสมมุติว่า ถ้าเกิดตรวจพบว่าสารที่สะสมอยู่ในร่างกายผมไม่ใช่สารพิวรีนแต่เป็นสารพิษชนิดอื่นที่ฉีดยาเข็มเดียวไม่หาย  ส่งผลให้ผมมีอาการที่หนักถึงขั้นไม่มีทางรักษาสภาพจิตใจของผมยามนั้นเดาไม่ออกเลยว่าจะมีสภาพอย่างไรคงต่างจากสภาพจิตใจของชาวญี่ปุ่นยามนี้อย่างสิ้นเชิง

          ทางเลือกมีไม่มากนอกจากจะสู้ หรือว่าจะยอมแพ้ นึกถึงวิกฤตชีวิตยามนั้นเมื่อตั้งสติและยอมรับกับความจริงแล้ว  ทางรอดทางเดียวคือต้องคิดสู้  เช่นเดียวกับชาวญี่ปุ่นยามนี้

          ความโชดดีไม่ได้เกิดขึ้นทุกครั้ง  แต่ครั้งนี้ผมโชคดีที่เจอเพียงแค่สารพิวรีนเมื่อทราบสาเหตุที่มาที่ไปทำให้เรารู้จักระวัง  และรู้จักเตรียมตัวรับมือป้องกัน ไม่อย่างนั้นสารปนเปื้อนต่าง ๆ จะกลายเป็นพิษทำให้ปริมาณความสุขในชีวิตของเราลดลง

ในแต่ละวันเราต่างพบเจอกับสารพิษที่ปลอมปนเข้ามาสู่ชีวิตตลอดในทุกทางทั้งทางตา หู จมูก ปากและทางจิตใจ

          ความเครียดและวิตกกังวล  คือสารพิษที่ปนเปื้อนในชีวิตของเรา  เกิดจากสารที่ชื่อว่าความท้อแท้ ความเบื่อ กลุ้ม  เซ็ง ซึมเศร้าสารเหล่านี้สะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  และแผ่รังสีก่อให้เกิดปัญหาและความทุกข์รุมเร้า

          นับวันปริมาณความเข้มของความเครียดที่ระเบิดออกมามากกว่าระดับความเข้มของสารกัมมันตรังสีที่ระเบิดจากเตาปฏิกรณ์ที่ญี่ปุ่นรวมกันทั้ง ๕ เตาด้วยซ้ำเพราะรังสีความกดดันเกิดขึ้นในทุกพื้นที่ทั่วทุกมุมโลก ความเครียดวิตกกังวลที่เข้มข้นเพิ่มขึ้นเหล่านี้  คือต้นเหตุที่ทำให้ปริมาณความสุขในชีวิตคนเราลดต่ำลงเรื่อยๆ

          ความทุกข์ส่วนใหญ่เกิดจากสารพิษที่ปนเปื้อนปลอมปนเข้ามาในรูปแบบที่เราไม่รู้ตัวมารู้อีกทีก็ตอนที่อาการเจ็บปวดทุกข์ใจในชีวิตปรากฏออกมาแล้ว

          ทางที่ดีจึงควรรีบสำรวจตรวจเช็กจิตใจเป็นประจำอยู่เสมออย่าให้สารพิษเหล่านี้เข้ามาสะสมมากเสียจนขับไล่ออกไปไม่ทันเพราะหากปล่อยทิ้งไว้จนอาการโคม่า  ถึงเวลานั้นก็ยากต่อการรักษา

          การรักษาใจด้วยวิธีปฏิบัติธรรมเป็นประจำสม่ำเสมอนอกจากจะเป็นการทำความสะอาดชีวิต  ล้างสารพิษออกจากใจแล้วยังเป็นวิธีลดความร้อนจากเตาปฏิกรณ์ในใจไม่ให้ระเบิดออกมาได้อย่างดีอีกด้วย

          เราไม่มีทางเลือกที่จะหลบหนีไปยังที่ปลอดสารพิษในโลกใบนี้  ถึงต่อให้หนีก็หนีไม่พ้นต่อให้เดินทางออกไปยังดาวดวงอื่นก็ใช่ว่าจะไม่เจอสารพิษทางรอดเดียวในการต่อสู้และรับมือกับสารพิษได้ดีที่สุดคือการนำใจของเราปักหลักหยัดสู้

          ใจที่เข้มแข็งอดทน ต่อให้คลื่นความเสียใจถาโถมเข้ามาก็ยังคงสงบนิ่ง ไม่ฟูมฟาย
 

         ใจที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค แม้ประสบความเสียหายก็ไม่ปริปากบ่น  ตัดพ้อโชคชะตาแต่กลับเงยหน้าลุกขึ้นจับมือช่วยกันสร้างขึ้นมาใหม่

          ใจที่แข็งแกร่งแบบนี้คือใจที่มีพลัง  และไม่ว่าสารพิษชนิดใดก็เข้ามาทำร้ายไม่ได้

...........................................

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล