เรื่อง : โค้ก อลงกรณ์
เพชรพลอยลอยน้ำ
ที่ผ่าน ๆ มาผมไม่เคยรู้สึกสุขใจกับการยืนมองผืนน้ำกว้างเท่ากับครั้งนี้
นี่คงเป็นเพราะผมได้มองเห็นบางอย่างที่ไม่มีให้เห็น
เวลายามบ่ายกำลังเดินทางไปเรื่อย ๆ แต่ผมกลับยังคงยืนนิ่งอยู่ริมชายน้ำที่เดิม หรี่สายตาให้แคบลง เพื่อหวังจะมองเห็นสิ่งที่หลวงพ่อให้เดินมาดู
จุดที่ผมยืนเป็นจุดที่ใกล้กับน้ำตกภายในวัด เพ่งมองสักครู่ก็รู้ว่าอัญมณีกลางน้ำที่หลวงพ่อเห็นแต่ไกล ๆ นั้น แท้จริงแล้วคืออะไร
เมื่อพินิจพิเคราะห์รูปลักษณ์ที่เห็น เธอก็คืออดีตดารายอดนิยมกระทงใบตองน้อยใบหนึ่ง แต่บัดนี้ เธอได้กลายเป็นขวัญใจของตะไคร่น้ำที่มารุมล้อมเกาะตัวเธอกันอย่างหนาแน่น
เมื่อแดดยามบ่ายสาดแสงสปอตไลต์ส่องมา สีเขียวมรกตรอบ ๆ ก็สะท้อนแสงแวววาวให้เห็นได้แต่ไกล
เมื่อทราบถึงสิ่งที่หลวงพ่อให้มาดูแล้ว แม้ท่านไม่ได้บอกอะไรเพิ่มเติม ผมก็รู้ตัวเองดีว่า ถึงคิวที่จะต้องแสดงบทอะไรต่อไป
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมต้องมาประชันบทบาทกับเพชรพลอยที่ลอยน้ำได้เช่นนี้
ขณะที่รถแล่นเลียบคลองริมกำแพงวัดในบ่ายวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง หลวงพ่อชี้ให้ดูเพชรพลอยชิ้นหนึ่งที่ลอยอยู่ในน้ำ เพียงเท่านี้ผมก็รู้หน้าที่ว่าต้องทำอย่างไร
ผมรีบจัดการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อความเรียบร้อยและสะอาดของบุญสถานผมยก โทรศัพท์บอกตำแหน่งจุดเกิดเหตุให้ผู้ที่ดูแลพื้นที่ได้ทราบ ดังเช่นทุกครั้ง
แต่ครั้งนี้แตกต่างจากเดิม
เพราะเมื่อถึงเวลาเดินทางกลับ
เดี๋ยว..หยุดก่อน
รถจอดข้างทางทันทีตามเสียงที่หลวงพ่อบอก ท่านก้าวลงจากรถ เดินลุยพงหญ้าไปที่ริมตลิ่ง ผมเผชิญหน้ากับเพชรพลอยลอยน้ำที่ตอนนี้ลอยไกลไปจากจุดเดิม
ผมรู้สึกทันทีว่าได้มองข้ามบางอย่างไป ทำให้การทำหน้าที่ประสานงานของผมครั้งนี้ไม่ สมบูรณ์
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หลวงพ่อพบขยะลอยน้ำ
ก่อนหน้านี้ท่านเคยพบถุงพลาสติกลอยอยู่ขณะที่นั่งรถผ่านคลองหลังหมู่กุฏิหลังคาจาก แล้ว ก็พบอยู่บ่อย ๆ ที่ลอยให้เห็นในสระรอบมหารัตนวิหารคด
แล้วล่าสุดก็มาพบในเวลานี้
ทุกครั้งที่พบ ทุกครั้งที่ได้แจ้งประสานงาน แล้วทุกอย่างก็จะสะอาดเรียบร้อยทุกครั้ง และในครั้งนี้ ผมได้คาดคิดเอาเองว่า คงจะเหมือนทุกครั้งที่ผ่าน ๆ มา จึงชะล่าใจไม่ได้ตรวจตราความเรียบร้อย
จุดเล็กน้อยที่ละเลยนี้ หลวงพ่อคงต้องการตอกย้ำให้เห็นความสำคัญ และไม่อยากให้ใครมองข้าม ท่านจึงให้จอดรถ จากนั้นผมถึงได้มายืนที่ริมคลองตรงนี้ด้วยกันพร้อมกับท่าน
นี่เป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่ผมได้จดจำไว้ไม่มีวันลืม
เสียงประชาสัมพันธ์แว่วหวานดังขึ้น
สวัสดีผู้มีอุปการะทุกท่าน! ขณะนี้ ฉันนอนแช่น้ำอย่างสบายใจอยู่ที่นี่..ขอเรียนเชิญทุกท่านช่วย กันทิ้งเพื่อนฝูงลงมาเป็นเพื่อนดิฉันได้เลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจค่ะ ไม่ต้องเกรงใจ!
เสียงเพชรพลอยชิ้นน้อยประกาศความดำรงอยู่บนพื้นน้ำใสอย่างชัดเจน
ผมยืนมองเธอด้วยความรู้สึกไร้อารมณ์
แต่ความคิดกลับพุ่งเข้าใส่จิตสำนึก
ปากเล็ก ๆ ปากหนึ่งสามารถเรียกความมักง่ายในตัวมนุษย์เราได้ชงัดนัก!
ความฉงนใจที่ผมเก็บไว้ก็เริ่มคลี่คลาย เพียงแค่ขยะลอยน้ำชิ้นเดียว หากเก็บช้าไปจากเดิมเสียหน่อย หรือปล่อยทิ้งไว้ก่อนก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ แล้วทำไมหลวงพ่อถึงต้องให้เก็บทันทีที่เห็น?
ด้วยเหตุผลที่เธอมีปากนี่เอง ปากที่เราอาจมองไม่เห็น แต่เป็นปากที่เราไม่ควรมองข้าม
หากปล่อยปละละเลยไม่รีบจัดการเก็บขึ้นมาทันที บรรดาปากเหล่านั้นคงจะพากันหัวเราะเริงร่าชอบใจที่สามารถเอาคืนจากมนุษย์เราได้สำเร็จ ด้วยเหตุที่ทิ้งขว้างเธอไม่เป็นที่เป็นทาง
ถึงเวลานั้นพวกเธอก็จะพากันว่ายไปไกล ๆ หรือไม่ก็ดำดิ่งลงไปรวมตัวกันอยู่ใต้น้ำ ทำให้คลองตื้นเขินและน้ำเน่าเสีย ยิ่งทำให้การตามเก็บขึ้นมาเป็นเรื่องที่ยากและลำบากกว่าเดิม
หลายคนมองว่ามาตรวัดความสุขในชีวิตคนเรานั้นอยู่ในสิ่งที่มองเห็น เช่น อยู่ที่การมีชื่อเสียง ทรัพย์สมบัติ ตำแหน่งหน้าที่ รูปร่างภายนอก และรูปธรรมอีกหลายอย่างที่เห็นได้ง่าย
แต่สุดท้ายเมื่อได้มาซึ่งสิ่งเหล่านั้นแล้ว กลับไม่มีความสุข
แท้จริงแล้วความสุขจริง ๆ นั้น คนส่วนใหญ่กลับมองไม่เห็น
มาตรวัดความสุขนั้น อยู่ที่ความใสสะอาดและสว่างของใจ
ยิ่งใสมาก ยิ่งสว่างมาก ยิ่งมีความสุขมาก
ใจ คือมาตรวัดความสุข
ดังนั้นควรหมั่นรักษาใจให้สะอาดไว้เสมอ
และเมื่อเห็นเพชรพลอยลอยน้ำ อย่าได้มองข้าม
ขยะอารมณ์ที่สะสมวันละนิด หากไม่รีบจัดการแต่เนิ่น ๆ การแก้ไขย่อมบานปลาย หากขยะเหล่านี้ก่อเกิดเป็นมลพิษทางใจ
ไม่มีใครไม่เคยพบเจอปัญหา สำคัญอยู่ที่ว่าเมื่อเผชิญหน้ากันแล้ว
เรายังสามารถรักษามาตรวัดความสุขให้คงอยู่ต่อไปได้หรือไม่?
ที่ผ่าน ๆ มาผมไม่เคยรู้สึกสุขใจกับการยืนมองผืนน้ำกว้างเท่ากับครั้งนี้
นี่คงเป็นเพราะการได้มองเห็นบางอย่างที่ไม่มีให้เห็น
มองเห็นแต่ผืนน้ำกว้าง ใสสะอาด
มองเห็นแต่ใจใส ๆ ที่ไม่มีเพชรพลอยลอยน้ำให้เห็น
...........................................................................