บาลีน่ารู้
เรื่อง : ธรรมรักษ์ ป.ธ.๙
พระชักบังสุกุล.. โยมตายแน่ ๆ
อนิจฺจา วต สงฺขารา : สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ
อุปฺปาทวยธมฺมิโน : มีอันเกิดขึ้นและเสื่อมไปเป็นธรรมดา
อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ : เกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป
เตสํ วูปสโม สุโข : การเข้าไปสงบระงับสังขารเหล่านั้นเป็นสุข
สพฺเพ สตฺตา มรนฺติ จ : สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่ตายก็ดี
มรึสุ จ มริสฺสเร : ที่ตายไปแล้วก็ดี และที่จะตายไปอีกก็ดี
ตเถวาหํ มริสฺสามิ : เราก็จะตายเหมือนกับพวกท่าน
นตฺถิ เม เอตฺถ สํสโย : เราไม่สงสัยในความตายของเราเลย เพราะต้องตายแน่ ๆ
เวลาไปร่วมงานฌาปนกิจศพ ก่อนจะมีพิธีเผา พระจะถือตาลปัตรเดินขึ้นไปบนเมรุ นอกจากพิจารณาผ้าบังสุกุลหน้าโลงศพแล้ว ท่านทำอะไรอีก ตอบว่า.. ท่านขึ้นไปพิจารณาความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตาของสังขารร่างกายว่า
“อวสฺสํ มยา มริตพฺพํ : อาตมาตายแน่ อาตมาตายแน่” เพื่อจะได้ไม่ประมาท ในการบำเพ็ญสมณธรรมนั่นเอง
ในขณะเดียวกัน เวลาที่พระกำลังชักผ้าบังสุกุล ญาติโยมทั้งหลายก็ควรตั้งใจเจริญมรณานุสตินึกถึงความตายว่า สักวันหนึ่งเราต้องตาย!! อย่ามัวแต่ร้องห่มร้องไห้ ถึงผู้ตายอยู่เลย ร้องไห้ไปก็เสียน้ำตา ใจเศร้าหมองทุกข์กินเปล่า ทำใจให้ผ่องใสเอาไว้ ตั้งใจนึกถึงความตาย นึกถึงบุญ และอุทิศส่วนบุญกุศลนี้ให้ผู้วายชนม์กันดีกว่า ผู้ตาย จะได้ไปสวรรค์ ถ้าเราตายก็จะได้ไปดี มีสุคติเป็นที่ไป