ฝันในฝัน
เรื่อง : หัวหน้าชั้น วินิช พันธุ์วิริยรัตน์ [email protected] คอลัมน์นี้เฉพาะนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาเท่านั้น
Case Study กรณีศึกษา
นักรบแห่งกองทัพธรรม
๘-๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙
กราบนมัสการคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพอย่างสูง
คุณพ่อของลูกเกิดที่จังหวัดอุบลราชธานีรับราชการทหารบกที่ ร.๑๓ พัน ๒ จังหวัดอุดรธานี สมรสกับคุณแม่ยุพเยาว์ พรสี่ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๔ มีบุตรชาย ๒ คน หญิง ๑ คน
คุณพ่อเป็นทหาร ออกรบอยู่เป็นประจำตามภารกิจหน้าที่ อัธยาศัยของคุณพ่อเป็นคนใจดี เป็นที่รักของญาติมิตรและลูกน้อง ภารกิจสุดท้ายของคุณพ่อ คือ ออกหน่วยสันตินิมิตในจังหวัดสกลนคร ระหว่างการเดินทางในพื้นที่รถเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ คุณพ่อกระเด็นออกจากรถ เป็นเหตุให้กระดูกคอเคลื่อนไปทับเส้นประสาท ทำให้แขนและขาเป็นอัมพาต
คุณพ่อนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ๒ แห่ง ในจังหวัดอุดรธานีเป็นเวลา ๔ เดือน และย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ในช่วง ๒ เดือนสุดท้าย เนื่องจากนอนอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลานาน ต่อมาเกิดอาการปอดบวม โลหิตเป็นพิษ ภาวะติดเชื้อทางเดินปัสสาวะและเสียชีวิตในที่สุด
คุณพ่อเป็นชาวพุทธทั่ว ๆ ไปที่สั่งสมบุญตามประเพณีและในวันสำคัญทางศาสนาคุณพ่อเคยบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาช่วงสั้นอยู่ประมาณ ๑๕ วัน และด้วยความที่คุณพ่อเป็นทหาร จึงทำให้ท่านต้องดื่มเหล้าเข้าสังคมอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งท่านจะดื่มเหล้าพอประมาณไม่ถึงกับเมามาย
ส่วนตัวลูกเองรับบุญเป็นอุบาสิกาอยู่ที่โครงการพระไตรปิฎก สำนักการศึกษาวัดพระธรรมกาย เป็นเวลา ๑๒ ปี
D M C ช่องนี้มีคำตอบ
หลังจากส่งคำถามไปกราบเรียนถาม
คุณครูไม่ใหญ่แล้ว ก็มีคำตอบจากโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ดังนี้
๑. สำหรับเรื่องราวการสร้างบารมีของตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมานั้น ตัวลูกก็ได้เกิดมาสร้างบารมีร่วมกับมหาปูชนียาจารย์และหมู่คณะด้วยเหมือนกัน เรื่องก็มีอยู่ว่า…
ย้อนไปในพุทธันดรที่ผ่านมา ตัวลูกได้เกิดเป็น “กุลบุตรสุดหล่อสดใส” อยู่ในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง ที่ประกอบอาชีพค้าขายเกี่ยวกับเครื่องใช้ไม้สอยอยู่ในหัวเมืองที่ติดกับเมืองหลวงของแคว้นพระราชาองค์ที่จะออกบวช
๒. โดยอัธยาศัยของตัวลูก ในพุทธันดรที่ผ่านมานั้น ตัวลูกเป็นเด็กหนุ่มที่มีจิตใจดีและมีน้ำใจชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ คือไม่ว่าใครจะมาขอให้ช่วยเหลืออะไร ตัวลูกก็จะไม่ปฏิเสธและคอยให้ความช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เป็นประจำ
ด้วยอัธยาศัยที่ดีแสนดีของตัวลูกนี้เองทำให้ไม่ว่าตัวลูกจะไปอยู่ที่ไหน ทำอะไร อย่างไรตัวลูกจะกลายเป็นที่รักของเพื่อน ๆ และผู้หลักผู้ใหญ่ภายในหัวเมืองที่ตัวลูกอาศัยอยู่
๓. ในเวลาต่อมา เมื่อตัวลูกเริ่มเติบใหญ่เข้าสู่ช่วงที่เป็นวัยรุ่น ตัวลูกก็เห็นรุ่นพี่ที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกันไปสมัครเป็นทหารของพระราชาองค์ที่จะออกบวชที่เมืองหลวง
เมื่อรุ่นพี่คนนี้ได้กลับมาเยี่ยมบ้านตัวลูกก็รู้สึกว่าตั้งแต่รุ่นพี่คนนี้ไปเป็นทหารของพระราชา เขาก็กลายเป็นคนที่มีบุคลิกดี เท่สมาร์ท และดูองอาจสมชายชาติทหารอย่างสุด ๆ
ยิ่งตัวลูกมีโอกาสไปพูดคุยกับรุ่นพี่คนนี้ถึงเรื่องราวการเป็นทหารของพระราชาด้วยแล้วตัวลูกก็ยิ่งเกิดแรงบันดาลใจอยากจะเป็นทหารของพระราชาขึ้นมาอย่างจับจิตจับใจเลยทีเดียว
๔. ซึ่งในบรรดาเรื่องราวที่ร่นุ พี่ข้างบ้านคนนี้เล่ามานั้น ตัวลูกรู้สึกตื่นเต้นและประทับใจในเรื่องราวของพระราชามากที่สุด ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะก่อนหน้านี้ตัวลูกแทบจะไม่เคยได้ยินได้ฟัง หรือได้รับรู้ถึงเรื่องราวของพระราชามาก่อนเลย
แต่พอรุ่นพี่ข้างบ้านคนนี้มาเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ของพระราชาให้ตัวลูกฟัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพระจริยวัตรอันงดงามของพระองค์ หรือเรื่องพระปรีชาสามารถในศาสตร์ต่าง ๆ เป็นต้นตัวลูกก็เลยเกิดความรู้สึกเลื่อมใสและเคารพศรัทธาในตัวของพระราชาเป็นอย่างมาก
ด้วยความประทับใจทั้งหมดดังกล่าวนี้จึงทำให้ตัวลูกตัดสินใจที่จะไปสมัครเป็นทหารของพระราชาตามอย่างรุ่นพี่ข้างบ้าน
๕. หลังจากที่ตัวลูกไปสมัครเป็นทหารของพระราชาแล้ว ตัวลูกก็ตั้งใจฝึกฝนอบรมตนเองทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติตามบทฝึกการเป็นทหารได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังเก่งในการใช้อาวุธต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นมีด ดาบ หอกหรือธนู ฯลฯ อีกด้วย
และเมื่อสำเร็จการศึกษาวิชาทหารแล้วด้วยความที่ตัวลูกไม่ชอบเรื่องการรบ แต่ชอบการดูแลรักษาพยาบาลเพื่อนทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ ตัวลูกจึงได้รับมอบหมายจากทางส่วนกลางให้ไปสังกัดอยู่ในหน่วยแพทย์ทหารที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาทหารที่เจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากการออกรบ
๖. ในเวลาต่อมา เกิดภาวะสงครามระหว่างแคว้นของพระราชาองค์ที่จะออกบวชกับแคว้นกันชนฝั่งทิศใต้หรือแคว้นของพระราชาผู้เกะกะเกเร
ในช่วงภาวะสงครามนี้ ตัวลูกได้ออกไปทำหน้าที่ดูแลเหล่าทหารหาญที่ได้รับบาดเจ็บจากการทำสงคราม โดยตัวลูกตั้งใจทำหน้าที่นี้อย่างสุดกำลังความสามารถ
แต่เมื่อตัวลูกได้เห็นเหล่าทหารหาญได้รับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานจากการถูกฟันบ้าง ถูกแทงบ้าง หรือถูกยิงด้วยลูกธนู รวมทั้งเจ็บป่วยด้วยโรคต่าง ๆ แล้ว ตัวลูกก็เกิดความรู้สึกสลดหดหู่ใจอย่างสุด ๆ
๗. ยิ่งตัวลูกได้เห็นทหารที่บาดเจ็บเหล่านั้นทนต่อพิษบาดแผลหรือความเจ็บปวดทุกข์ทรมานไม่ไหว จนเสียชีวิตไปในที่สุดแล้วตัวลูกก็ยิ่งรู้สึกสลดหดหู่ใจมากขึ้นไปกว่าเดิม
อีกทั้งตัวลูกยังคิดสอนตัวเองได้ด้วยในทำนองที่ว่า “ไม่มีความทุกข์ใดเลยที่จะยิ่งไปกว่าความตาย เพราะเมื่อบุคคลนั้นตายจากไปแล้ว คนรักที่อยู่รอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อนพ้อง หรือหมู่ญาติ ต่างก็เสียใจที่ต้องพลัดพรากจากคนรักไป ซึ่งความทุกข์ที่เกิดจากความตายนี้เป็นความทุกข์ที่ใหญ่หลวงสุดแสนจะเจ็บปวดทุกข์ทรมานยิ่งนัก”
๘. เมื่อตัวลูกคิดสอนตัวเองขึ้นมาได้เช่นนั้นแล้ว ก็เกิดคำถามขึ้นมาในใจอีกมากมายเลยว่า “คนเราเกิดมาทำไม อะไรคือเป้าหมายของชีวิตกันแน่” เป็นต้น ซึ่งคำถามเหล่านี้ก็ติดค้างอยู่ในใจของตัวลูกเรื่อยมา
จวบจนกระทั่งเมื่อสงครามระหว่างแคว้นสงบลง ตัวลูกก็ได้เอาข้อคิดในชีวิตที่เกิดขึ้นในระหว่างสงครามมาสอนตัวเองว่า “ไม่ว่าใครจะยิ่งใหญ่สักแค่ไหน ก็ไม่สามารถหลีกหนีจากความตายไปได้เลย” เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้ตัวลูกสามารถมองโลกได้ตามความเป็นจริง
๙. ยิ่งเวลาที่เกิดปัญหาขึ้นมาในชีวิตหรือเกิดการกระทบกระทั่งขึ้นมาในระหว่างการทำงาน ตัวลูกก็มักจะเอาเรื่องความตายนี้มาสอนตัวเองอยู่เสมอ ๆ อีกทั้งตัวลูกยังมองว่าปัญหาเหล่านั้นเป็นเพียงแค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆเท่านั้น ทำให้ตัวลูกไม่ได้รู้สึกกลุ้มใจหรือทุกข์ร้อนใจเพราะปัญหาเหล่านั้นเลย
นอกจากนี้ ตัวลูกยังขวนขวายเดินทางไปยังวัดต่าง ๆ รวมทั้งลัทธิเทวนิยมหลาย ๆ แห่งที่มีอยู่ในยุคนั้น เพื่อไปค้นคว้าหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตว่า “คนเราเกิดมาทำไม และอะไรคือเป้าหมายของชีวิตกันแน่”
๑๐. แต่เมื่อตัวลูกได้เดินทางไปยังวัดและสถานที่ต่าง ๆ เหล่านั้นแล้ว ก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่โดนใจ หรือทำให้คลายความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตลงไปได้
แต่สิ่งที่ตัวลูกสามารถสัมผัสและรับรู้ได้ก็คือ หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาตามวัดต่าง ๆ นั้น เป็นหลักคำสอนที่ไม่เลื่อนลอยมีเหตุมีผล และมีความน่าเชื่อถือมากกว่าลัทธิเทวนิยมมาก ๆ
จวบจนกระทั่งเมื่อกาลเวลาล่วงเลยผ่านไป พระราชาผู้เป็นที่รักยิ่งของมหาชนทั้งหลายก็เสด็จออกผนวช
๑๑. เมื่อตัวลูกทราบข่าวการเสด็จออกผนวชของพระราชาแล้ว ก็ยิ่งเกิดคำถามขึ้นมาในใจอย่างมากมายในทำนองที่ว่า “ขนาดพระราชาผู้มีความเพียบพร้อมทุกสิ่งทุกอย่างยังตัดสินพระทัยสละราชสมบัติภายใต้เศวตฉัตรอันยิ่งใหญ่ออกผนวชเลย แสดงว่าการออกบวชเป็นพระภิกษุนั้นจะต้องมีอะไรที่ดีกว่าหรือประเสริฐกว่าแน่นอน”
เมื่อตัวลูกเกิดคำถามขึ้นมาเช่นนั้น ด้วยความเป็นนักแสวงหาคำตอบ จึงทำให้ตัวลูกพยายามที่จะหาโอกาสเดินทางไปฟังธรรมจากพระเถระ (อดีตพระราชาองค์ที่ออกบวช) ให้ได้และเมื่อตัวลูกว่างเว้นจากภารกิจหน้าที่การงานแล้ว ก็ไม่รอช้า ได้ชักชวนเพื่อน ๆ นายทหารเดินทางไปทำบุญและฟังธรรมจากพระเถระในทันที
๑๒. ซึ่งในวันนั้นพระเถระก็ได้เทศน์สอนเกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบุญและบาป หรือเรื่องกฎแห่งกรรม เป็นต้น และเมื่อจบพระธรรมเทศนาแล้วพระเถระก็นำมหาชนผู้มีบุญที่มาฟังธรรม (ซึ่งมีตัวลูกและเพื่อน ๆ นายทหารรวมอยู่ด้วย) หลับตาเจริญสมาธิภาวนา และในขณะที่ทุกคนกำลังหลับตาทำสมาธิอยู่นั้น พระเถระก็เล่าถึงเป้าหมายในการเกิดมาเป็นมนุษย์ว่า คนเราเกิดมาทำไม และอะไรคือเป้าหมายของชีวิต เป็นต้น
๑๓. ทันทีที่ตัวลูกได้ฟังธรรมะที่ทรงคุณค่าจากพระเถระ ที่เล่าถึงเป้าหมายในการเกิดมาเป็นมนุษย์ ตัวลูกพลันเกิดความรู้สึกที่เหมือนกับถูกปลดล็อกจากคำถามที่ค้างคาใจและแสวงหาคำตอบมายาวนาน
เมื่อเป็นเช่นนี้ ในใจของลูกจึงเอ่อล้นไปด้วยความรู้สึกที่ปลื้มปีติแบบพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลยทีเดียว และจากความรู้สึกที่ปลื้มปีติดังกล่าวนี้เอง จึงทำให้ใจของลูกค่อย ๆ รวมหยุดนิ่งเป็นหนึ่งเดียวกันที่ศูนย์กลางกาย
แล้วในที่สุดดวงสว่างที่มาพร้อมกับความสุขภายในก็ผุดขึ้นมาลอยเด่นอยู่ภายในใจของตัวลูก แม้ว่าดวงสว่างนี้ผุดขึ้นมาแค่เพียงแวบเดียวเท่านั้น แต่ภายในใจของลูกกลับรู้สึกชุ่มชื่น อิ่มเอิบ เบิกบาน และมีความสุขอย่างที่ไม่เคยพบไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อนเลยในชีวิต
๑๔. เมื่อตัวลูกได้สัมผัสถึงความสุขภายในที่ละเอียดประณีตและยิ่งใหญ่กว่าความสุขใด ๆ ในโลกเช่นนี้ ตัวลูกจึงเกิดความรู้สึกที่อัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ตัวลูกยังรู้สึกกระจ่างแจ้งอีกด้วยว่า ทำไมพระราชาผู้เป็นที่รักยิ่งของมหาชนทั้งหลายถึงได้ตัดสินพระทัยสละราชสมบัติอันยิ่งใหญ่แล้วเสด็จออกผนวช เมื่อตัวลูกคิดได้เช่นนี้ จึงเกิดความรู้สึกอยากที่จะออกบวชตามพระราชาเป็นอย่างมาก
๑๕. แม้ว่าตัวลูกมีความปรารถนาอยากออกบวชมากสักแค่ไหนก็ตาม แต่ด้วยภารกิจหน้าที่การงานและภาระทางครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบดูแล ทำให้ตัวลูกยังไม่สามารถที่จะออกบวชได้เลยในทันที
แต่ถึงกระนั้นตัวลูกก็เดินทางไปวัดของพระเถระเพื่อสั่งสมบุญ ฟังธรรม และปฏิบัติธรรมด้วยความตั้งอกตั้งใจอยู่เสมอ ๆ ซึ่งตัวลูกจะชอบและรักการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างมาก
๑๖. ในเวลาต่อมา เมื่อตัวลูกเข้าสู่ช่วงวัยกลางคนแล้ว ตัวลูกก็สามารถสะสางและเคลียร์ภารกิจหน้าที่การงานต่าง ๆ ลงไปได้เมื่อเป็นเช่นนี้ ตัวลูกจึงตัดสินใจทำสิ่งที่ปรารถนาและใฝ่ฝันเอาไว้ก็คือ การออกบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา
หลังจากที่ตัวลูกได้บวชแล้ว ก็ตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรมอย่างเต็มที่เต็มกำลังควบคู่ไปกับการศึกษาธรรมะ พร้อมกับนำไปเผยแผ่และเทศน์สอนให้แก่สาธุชนทั้งหลายเรื่อยมา
๑๗. ด้วยความที่ตัวลูกเป็นคนที่ชอบแสวงหาและศึกษาธรรมะตามวัดต่าง ๆ มาตั้งแต่ก่อนบวช จึงทำให้ตัวลูกมีความเชี่ยวชาญและแตกฉานทางด้านธรรมะ อีกทั้งยังสามารถนำความรู้ที่ได้ศึกษามาประยุกต์ปรับใช้เทศน์สอนสาธุชนทั้งหลาย และให้คำแนะนำปรึกษาแก่เพื่อนสหธรรมิกได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว
ไม่ใช่เพียงเท่านั้น ตัวลูกยังเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ ๆ อีกด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้ตัวลูกกลายเป็นที่รักของเพื่อนสหธรรมิกเป็นอย่างมาก
๑๘. ที่พิเศษยิ่งไปกว่านั้นก็คือ พระเถระยังชอบมอบหมายให้ตัวลูกเดินทางไปเผยแผ่ธรรมะตามหัวเมืองสำคัญต่าง ๆ ทั้งภายในแคว้นและภายนอกแคว้นอยู่เสมอ ๆ อีกด้วยซึ่งตัวลูกก็ตั้งใจทำหน้าที่นี้อย่างสุดชีวิต โดยไม่ละทิ้งการประพฤติปฏิบัติธรรมเลย
จวบจนกระทั่งมาถึงในช่วงบั้นปลายของชีวิต ตัวลูกก็สามารถปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงพระธรรมกายภายในได้ในที่สุด และเมื่อตัวลูกละอัตภาพจากโลกนี้ไปแล้ว ก็ได้เดินทางกลับสู่ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์ อย่างสง่างามและสมภาคภูมิแห่งความเป็นนักรบกล้าของกองทัพธรรม
๑๙. สำหรับสาเหตุที่ทำให้ตัวลูกต้องมาเกิดเป็นผู้หญิงในภพชาติปัจจุบันนี้ ก็เป็นเพราะวิบากกรรมกาเมฯ ที่ตัวลูกเคยทำผิดทำพลาดเอาไว้ในหลาย ๆ พุทธันดรก่อน ๆ โน้นได้ช่องตามมาส่งผล เรื่องก็มีอยู่ว่า...
ย้อนไปในหลาย ๆ พุทธันดรก่อน ๆ โน้นตัวลูกได้เกิดเป็น “กุลบุตรสุดหล่อไฮโซ” อยู่ในตระกูลของเศรษฐีประจำหัวเมืองแห่งหนึ่งในแคว้นของพระราชาองค์ที่จะออกบวชในยุคนั้น
๒๐. นับตั้งแต่วันที่ตัวลูกเกิดขึ้นมาคุณพ่อคุณแม่ก็เลี้ยงดูตัวลูกแบบเอาอกเอาใจอย่างเต็มที่มาโดยตลอด ทำให้ตัวลูกกลายเป็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง และเวลาที่อยากได้อะไรก็จะต้องเอาให้ได้
เมื่อตัวลูกเติบใหญ่ขึ้น ก็คบกับกลุ่มเพื่อน ๆ ที่เป็นลูกของเศรษฐีเหมือนกัน โดยกลุ่มของตัวลูกและเพื่อน ๆ นั้น ถือได้ว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นไฮโซประจำหัวเมืองแห่งนั้นเลยทีเดียว
๒๑. ด้วยความที่ตัวลูกกับกลุ่มเพื่อน ๆ ต่างก็เป็นลูกเศรษฐีกันทั้งหมด จึงทำให้แต่ละคนต่างก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากนัก อีกทั้งยังมีเวลาว่างอยู่กับบ้าน หรือไม่ก็ออกไปเที่ยวเตร่กับเพื่อน ๆ นอกบ้านตามประสาวัยรุ่นไฮโซ
อยู่มาวันหนึ่ง ตัวลูกกับกลุ่มเพื่อน ๆ ก็ได้ไปเที่ยวงานเทศกาลประจำปีซึ่งจัดขึ้นภายในหัวเมืองที่ตัวลูกอาศัยอยู่ และในขณะที่กำลังเที่ยวชมงานอย่างสนุกสนานอยู่นั้น ตัวลูกก็ได้ไปสะดุดตาสะดุดใจกับแม่หญิงคนหนึ่ง ที่ทั้งสาว ทั้งสวย แถมยังแพรวพราวไปด้วยเสน่ห์อย่างสุด ๆ อีกด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้ตัวลูกเกิดอาการตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจัง
๒๒. เมื่อตัวลูกตกหลุมรักเธอเข้าแล้วตัวลูกก็ไม่อาจที่จะปีนขึ้นมาจากหลุมได้ และยิ่งมีแรงเชียร์จากกลุ่มเพื่อน ๆ ด้วยแล้ว ตัวลูกก็ยิ่งจมปลักไปในความรักแม่หญิงแสนสวยคนนั้นหนักเข้าไปอีก
ด้วยความรักในตัวแม่หญิงแสนสวยนี้เองจึงทำให้ตัวลูกไม่รอช้า รีบเข้าไปทำความรู้จักมักจี่ อีกทั้งทำทีเป็นเหมือนกับว่าอยากมีเธอเป็นแฟนอีกด้วย
๒๓. เมื่อแม่หญิงแสนสวยคนนั้นเจอคารมคมคายของตัวลูกหนักเข้า ก็เกิดอาการใจอ่อน แล้วยอมตอบรับรักตัวลูกอย่างง่ายดายนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ตัวลูกกับตัวเธอก็ได้แบ่งปันความรักให้แก่กันและกัน จนกระทั่งความรักเบ่งบานขึ้นในใจของทั้งคู่ แล้วในที่สุดตัวลูกกับตัวเธอก็แอบไปมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกัน
๒๔. ในเวลาต่อมา ตัวลูกก็มีโอกาสไปพบเจอกับแม่หญิงอีกคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในหัวเมืองติดกัน ซึ่งแม่หญิงคนนี้ทั้งสาวกว่าและสวยกว่าแม่หญิงคนเดิมที่ตัวลูกกำลังคบอยู่
ทันทีที่ตัวลูกได้เห็นแม่หญิงคนนี้ ก็เกิดความรู้สึกถูกอกถูกใจ และอยากที่จะคบหาคนใหม่มากกว่าคนเดิม เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้ตัวลูกค่อย ๆ คลายความรักจากแม่หญิงคนเดิมแล้วแอบแวะเวียนไปเยี่ยมเยียนแม่หญิงคนใหม่อยู่เสมอ ๆ อีกทั้งยังได้แอบมีความสัมพันธ์กับแม่หญิงคนใหม่โดยไม่ให้แม่หญิงคนเดิมรับรู้หรือจับได้อีกด้วย
เพื่อน ๆ ในกลุ่มของตัวลูกก็มีนิสัยคล้าย ๆ กัน คือคบหญิงสาวทีละหลาย ๆ คนอีกทั้งยังคอยช่วยกันปกปิดความลับของเพื่อนเพื่อไม่ให้แฟนเก่าและแฟนใหม่ของเพื่อนจับได้
๒๕. เมื่อตัวลูกคบหากับแม่หญิงคนใหม่ไปสักระยะหนึ่งแล้ว ก็เริ่มเบื่อ แล้วก็ไปแสวงหาคนใหม่ที่รู้สึกว่าสวยกว่าและถูกใจกว่าคนเดิม ซึ่งตัวลูกได้ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือบาปแต่อย่างใด
จนกระทั่งในเวลาต่อมา เมื่อพระราชาผู้ปกครองแคว้นเสด็จออกผนวชแล้ว ตัวลูกก็มีโอกาสไปฟังธรรมจากพระเถระ (อดีตพระราชาองค์ที่ออกบวช) ด้วย และเมื่อได้ฟังธรรมแล้ว ตัวลูกก็เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต เรื่องบุญ-บาปและเรื่องกฎแห่งกรรมอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
๒๖. เมื่อตัวลูกมีความรู้ความเข้าใจเช่นนั้นแล้ว จึงเกิดความรู้สึกสำนึกผิดขึ้นมาในใจว่า สิ่งที่ทำผ่าน ๆ มานั้นไม่ดีเลย แถมยังเป็นบาปที่ติดตัวไปอีกด้วย
เมื่อตัวลูกได้คิดและคิดได้เช่นนั้นแล้วตัวลูกจึงหักดิบตัดใจจากนิสัยเจ้าชู้ แล้วตั้งใจสั่งสมบุญเพื่อแก้ไขสิ่งผิดพลาดที่กระทำลงไปด้วยการไปช่วยงานวัดและอุปัฏฐากพระอยู่เสมอ ๆ
๒๗. ยิ่งตัวลูกได้มีโอกาสฟังเทศน์เรื่องการบวชจากพระเถระแล้ว ก็ยิ่งเกิดความรู้สึกซาบซึ้งตรึงใจและอยากที่จะออกบวชเป็นอย่างมาก เมื่อเป็นเช่นนี้ตัวลูกจึงรีบเคลียร์ภารกิจหน้าที่การงานและปัญหาต่าง ๆ แล้วตัดสินใจออกบวชในที่สุด
หลังจากออกบวชแล้ว ตัวลูกก็ตั้งใจฝึกตน ทนหิว บำเพ็ญตบะ เป็นพระแท้ ควบคู่ไปกับการนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมเรื่อยมา จวบจนกระทั่งมาถึงในช่วงบั้นปลายของชีวิต ตัวลูกก็สามารถหยุดใจจนเข้าถึงพระธรรมกายภายในที่ชัด ใส สว่างได้ในที่สุด เมื่อตัวลูกละจากโลกไปแล้ว ก็ได้เดินทางกลับไปสู่ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์อย่างสง่างาม
๒๘. แม้ว่าในภพชาตินั้น ตัวลูกได้ตั้งใจสั่งสมบุญและออกบวชไปจนกระทั่งหมดอายุขัยก็ตาม แต่วิบากกรรมที่เคยแอบไปมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับผู้หญิงหลาย ๆ คนนั้นก็ยังคงมีกำลังและกลายเป็นผังที่ติดตามตัวลูกนับตั้งแต่ภพชาตินั้นเป็นต้นมา
ด้วยวิบากกรรมดังกล่าวนี้ ทำให้ในภพชาติต่อ ๆ มา ตัวลูกจึงต้องเกิดเป็นผู้หญิงบ้างหรือผู้ชายบ้าง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าบุญบวชหรือวิบากกรรมกาเมฯ ได้ช่องมาส่งผลก่อนกันถ้าหากบุญบวชได้ช่องมาส่งผลก่อน ตัวลูกก็จะมีโอกาสได้เกิดเป็นชายแมน ๆ แต่ถ้าหากวิบากกรรมกาเมฯ ได้ช่องมาส่งผลก่อน ตัวลูกก็จะต้องเกิดเป็นผู้หญิงเหมือนในชาติปัจจุบัน
๒๙. ส่วนคุณพ่อของลูก (คุณพ่ออุดร พรสี่) เคยสั่งสมทั้งบุญและบาปเอาไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นภายหลังจากที่ท่านเสียชีวิตลงไปแล้ว ก็มีเจ้าหน้าที่ยมโลกมารับตัวท่านไปพิพากษาผลของบุญและบาปที่ยมโลกของมหานรกขุม ๕
หลังจากที่ท่านได้เข้าไปสู่โรงวินิจฉัยบุญ-บาปแล้ว ภาพของบาปอกุศลที่ท่านชอบดื่มเหล้าเข้าสังคมและเมาอยู่เป็นประจำก็มาปรากฏฉายชัดเจนมากกว่าภาพของบุญกุศลที่ตัวท่านเคยสั่งสมเอาไว้ ทำให้ตัวท่านต้องไปรับทัณฑ์ทรมานอยู่ในยมโลกของมหานรกขุม ๕ในทันที
๓๐. แต่ด้วยบุญที่ตัวลูกได้อุทิศตนมารับบุญช่วยงานพระพุทธศาสนาเป็นสมาชิกเขตใน อีกทั้งยังตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมและทุ่มเทสร้างบารมีอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันแบบไม่มีข้อแม้ ข้ออ้าง และเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้นทำให้พระธรรมกายเมตตาไปหาคุณพ่อของลูกที่ยมโลกของมหานรกขุม ๕
๓๑. เมื่อพระธรรมกายได้เมตตามาปรากฏอยู่ตรงหน้าคุณพ่อของลูกแล้ว ตัวท่านก็รีบก้มลงกราบพระธรรมกายและนั่งคุกเข่าพนมมือในทันที หลังจากนั้นพระธรรมกายก็เมตตาเอาบุญทุก ๆ บุญที่ตัวลูกตั้งใจทุ่มเทสร้างบารมีและอุทิศตนมารับบุญช่วยงานพระพุทธศาสนาเป็นสมาชิกเขตใน มาประกอบวิชชาธรรมกาย แล้วก็ช่วยให้คุณพ่อของลูกไปบังเกิดเป็น “ภุมเทวาระดับกลาง” ที่แลดูเหมือนคนมีอายุประมาณ ๓๕-๔๐ ปี และมีวิมานไม้ ๒ ชั้น ขนาดย่อม ๆ ซ้อนอยู่บนโลกมนุษย์
ที่สำคัญ ตัวคุณพ่อของลูกยังได้อยู่ในสังคมภุมเทวาที่มีความเชื่อในพระพุทธศาสนาเหมือน ๆ กัน เพราะในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ ท่านเคยสั่งสมบุญเอาไว้ในพระพุทธศาสนา
๓๒. หลังจากที่คุณพ่อของลูกลืมตาขึ้นมาพร้อมกับแปรเปลี่ยนเป็น “ภุมเทวาระดับกลาง” แล้ว ตัวท่านก็เกิดความรู้สึกตื่นเต้นดีใจและอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก แล้วตัวท่านก็ไม่รอช้า รีบก้มลงกราบพระธรรมกายด้วยความเคารพเลื่อมใสในทันที
จากนั้น พระธรรมกายก็เมตตาประทานโอวาทให้แก่คุณพ่อของลูกในทำนองที่ว่า...“การที่ตัวท่านรอดพ้นมาจากยมโลกของมหานรกขุม ๕ ได้นั้น เป็นเพราะบุญของลูกสาวของท่าน (คือตัวลูก) ถ้าหากไม่ได้บุญของลูกสาวแล้ว ท่านก็จะถูกลงทัณฑ์ทรมานไปอีกยาวนานมาก ๆ
ดังนั้น เมื่อตัวท่านรอดพ้นจากยมโลกมาแล้ว ก็จะต้องไม่ประมาท ให้หมั่นนั่งสมาธิภาวนา “สัมมาอะระหัง” ให้ได้ทุก ๆ วัน อย่าให้ขาดเลยแม้แต่เพียงวันเดียว จะได้มีบุญมาหล่อเลี้ยงให้ได้อยู่ที่หมู่บ้านภุมเทวาแห่งนี้ไปอีกนาน ๆ แต่ถ้าท่านไม่หมั่นนั่งสมาธิทุก ๆวัน บาปก็จะได้ช่องมาส่งผล ทำให้ต้องกลับไปรับโทษทัณฑ์ในยมโลกอีกเหมือนเดิม
๓๓. เมื่อคุณพ่อของลูกได้ฟังโอวาทอันทรงคุณค่าจากพระธรรมกายแล้ว ตัวท่านก็รับปากว่าจะปฏิบัติตามโอวาททุกประการ และตัวท่านก็มีข้อความฝากมาถึงตัวลูกในทำนองที่ว่า ขอบคุณตัวลูกมาก ๆ เพราะบุญของตัวลูกจึงทำให้ท่านได้พ้นมาจากความทุกข์ทรมานในยมโลก ถ้าหากไม่ได้บุญของตัวลูกแล้ว ท่านคงจะต้องถูกลงทัณฑ์ทรมานไปอีกยาวนานตอนนี้ท่านเข็ดขยาดและกลัวผลของบาปแล้วเพราะความทุกข์ทรมานในยมโลกนั้นมันช่างสุดแสนสาหัสเสียเหลือเกิน
ตัวท่านสัญญาว่าจะตั้งใจนั่งธรรมะทุก ๆ วันตามโอวาทของพระธรรมกาย เพราะไม่อยากกลับไปที่เดิมอีกแล้ว ตัวท่านอยากอยู่ที่หมู่บ้านภุมเทวาแห่งนี้ไปอีกนาน ๆ และเวลาที่ตัวลูกสั่งสมบุญทุก ๆ บุญแล้ว ก็ขอให้อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งไปให้ท่านอีกบ่อย ๆ
๓๔. จากเรื่องราว Case Study ที่เราได้ศึกษาเรียนรู้กันมานี้ สอนให้เรารู้ว่า ทุก ๆชีวิตล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม (ซึ่งเป็นกฎสากลที่มวลมนุษยชาติทุกคนบนโลกใบนี้จะต้องเจอ) ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องศึกษาเรียนรู้เรื่องกฎแห่งกรรมให้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง เพื่อที่เราจะได้ดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องและดีงามด้วยความไม่ประมาทจะได้ปิดอบาย ไปสวรรค์ และมีความสุขในปัจจุบัน อีกทั้งยังดับทุกข์ได้อีกด้วย (ซึ่งความรู้นี้มีสอนเฉพาะในพระพุทธศาสนาเท่านั้น)
ดังนั้น เราจะต้องตั้งใจสั่งสมบุญสร้างบารมี ประพฤติดีปฏิบัติชอบตามหลักธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่น ทำทานรักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนา เป็นต้น ถ้าหากเราทำได้เช่นนี้ ชีวิตการสร้างบารมีของเราจะได้อยู่รอดปลอดภัย และมีชัยชนะในเส้นทางการสร้างบารมีไปตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม
บทสัมภาษณ์จากเจ้าของเคส
ได้ฟังเรื่องราวของตัวเองในอดีตชาติแล้ว สิ่งแรกที่รู้สึกก็คือ เรามีกรรมเป็นของตัวทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว เวลาในวัฏสงสารมันยาวนานมากแต่เวลาของชีวิตในแต่ละภพชาตินั้นสั้นจนเรามองไม่เห็นภาพรวมเรื่องราวทั้งหมดของตัวเอง ความรู้สึกที่ตามมา คือ การได้รู้ ได้เห็น ได้เข้าใจเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตหรือวิชชาชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ จะทำให้เราเดินทางไกลผ่านวัฏสงสารนี้ไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย
พระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่เป็นผู้มีเมตตาและเป็นผู้มีพระคุณเป็นอย่างสูง ที่ได้มอบความรู้ความเข้าใจในเรื่องของแผนผังชีวิตซึ่งเป็นเข็มทิศที่จะบอกทาง ที่มาที่ไปของกรรมและวิบากกรรมต่าง ๆ เพื่อที่เราจะได้ดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวัง ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งไม่ดีทั้งหลายในขณะเดียวกันก็กระตุ้นให้เราใส่ใจที่จะแสวงหาแต่ความดีอย่างยิ่งยวดในการตักตวงบุญ เพิ่มพูนบารมีให้แก่ตนเองด้วยการชี้อานิสงส์แห่งบุญที่เกิดขึ้นเมื่อทำอย่างถูกต้องตามหลักวิชชา
ตอนฟังเคสในโรงเรียน พุทธันดรที่แล้วตัวเองได้เกิดเป็นผู้ชาย ได้เป็นทั้งทหารพระราชาและได้บวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาตลอดชีวิต ทั้งยังศึกษาและประพฤติธรรมจนเข้าถึงธรรมภายใน แต่พอมาเกิดในชาตินี้รู้สึกว่า เราไปพลาดตรงไหนหนอ ถึงได้เกิดมาเป็นหญิง แม้ตั้งใจอุทิศชีวิตเข้ามาเป็นอุบาสิกา ตั้งใจประพฤติพรหมจรรย์ ช่วยงานวัด ศึกษาและปฏิบัติธรรมตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ก็ยังรู้สึกว่า บุญยังหย่อนกว่าการสร้างบารมีในเพศภาวะของพระภิกษุในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก รู้สึกเสียดายที่ชาตินี้ไม่ได้บวชเป็นพระต่อ เมื่อคุณครูไม่ใหญ่เมตตาเล่าถึงเรื่องราวในอดีตชาติย้อนไปอีกหลายพุทธันดร จึงได้รู้สาเหตุที่เกิดจากวิบากกรรมกาเมฯ ซึ่งเราได้กระทำผิดพลาดในครั้งนั้น และยังส่งผลให้มาเกิดเป็นหญิงถึงในปัจจุบันชาตินี้ ก็เกิดความสลดและมองเห็นภัยของอวิชชา คือ ความไม่รู้เรื่องราวของชีวิตในวัฏสงสาร และความไม่รู้เรื่องกฎแห่งกรรม ซึ่งจะทำให้เราผิดพลาดไปทำกรรมชั่ว โดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
แม้ได้มาศึกษาธรรมะ ได้เรียนรู้ และเข้าใจถึงธรรมในภายหลัง ก็ไม่อาจจะทำให้กรรมไม่ดีที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหยุดส่งผลได้ ถ้าไม่ส่งผลเร็วก็รอคอยส่งผลแก่เราอยู่ไม่ชาติใดก็ชาติหนึ่งเพราะเวลาในวัฏสงสารนั้นยาวนาน ไม่ใช่ระยะเวลาสั้น ๆ ทำให้รู้สึกว่า เราไม่ควรประมาทในการสั่งสมบุญ ในขณะเดียวกัน การได้รู้เรื่องราวการสั่งสมบุญของตัวเองในอดีต คือ การได้ไปฟังธรรมจากพระมหาเถระ พระราชาองค์ที่ออกบวช จากนั้นได้ศึกษาธรรมะ บวชเป็นพระภิกษุ ปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงพระธรรมกาย และการที่ได้เผยแผ่ธรรมเทศน์สอนให้แก่สาธุชนในอดีตชาติที่ผ่าน ๆ มา ก็เป็นต้นทุนของสิ่งดี ๆ ที่ทำให้เราได้เกิดมาเจอครูบาอาจารย์ ได้อยู่ในหมู่กัลยาณมิตร และได้สั่งสมบุญสร้างบารมีในปัจจุบันชาตินี้ ทำให้รู้สึกมีกำลังใจและอยากจะต่อยอดต้นทุนบุญของตัวเองที่เคยสั่งสมไว้ให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป อยากให้ชาวโลกทุกคนได้มารู้จักเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตและได้มาเรียนรู้ศึกษาธรรมะและปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงพระธรรมกายกันทุก ๆ คนเลยค่ะ และอยากให้ทุกคนช่วยกันเผยแพร่ความรู้เรื่องวิชชาชีวิตในวัฏสงสารและเรื่องของกฎแห่งกรรมให้คนในสังคมได้รับรู้และเข้าใจกันให้ได้มากที่สุด เพื่อจุดกระแสแห่งความดี กระแสสว่าง ๆ ใส ๆ ไปสู่สังคม แล้วปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้จะค่อย ๆ คลี่คลาย ด้วยกระแสแห่งบุญและความดีของคนดี ๆ ในสังคม