ฝันในฝัน
เรื่อง : หัวหน้าชั้น วินิช พันธุ์วิริยรัตน์ [email protected]
Case Study กรณีศึกษา หมดแรงเดิน
วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๗
กราบนมัสการคุณครูไม่ใหญ่ด้วยความเคารพอย่างสูง
ลูกเป็นเด็กต่างจังหวัด อยู่ที่อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย เข้าวัดปฏิบัติธรรมตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๙ ขณะมีอายุได้ ๘ ขวบ จนปัจจุบันลูกอายุ ๒๕ ปีแล้ว ก็ยังมาวัดเป็นประจำ ทั้งยังเป็นผู้นำบุญ ผู้นำรถ ชักชวนคนมาทำบุญที่วัดด้วยค่ะ
ลูกเข้าวัดโดยการแนะนำของน้า ชีวิตของลูกเริ่มจำความได้ก็รู้ว่าเกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่นพอสมควร มีคุณตา คุณยาย คุณพ่อคุณแม่ และน้า ๆ อยู่รวมกันหลายคน คุณตาคุณยาย คุณพ่อ และคุณแม่ มีอาชีพทำไร่ทำนา
เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๔ ขณะที่ลูกเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี ๓ ช่วงเดือนเมษายน อยู่ดีๆ ลูกก็มีอาการปวดท้อง ปวดแสบปวดร้อนหายใจไม่ค่อยออก เหมือนมีอะไรวิ่งไปทั่วตัววิ่งไปตรงไหนก็ปวดแสบปวดร้อนไปตรงนั้นเวลาลูกท่อง “สัมมาอะระหัง” ก็รู้สึกหายเจ็บเป็นช่วง ๆ หมอตรวจทุกอย่างทั้งเอกซเรย์อัลตราซาวด์ แต่ก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ ลูกจึงได้ไปรักษาที่กรุงเทพฯ ต่อ ไปถึงโรงพยาบาลก็รู้สึกว่าเท้าชา ขาหมดแรง เดินไม่ได้ เอกซเรย์ทุกอย่างหมอก็บอกว่าไม่มีอะไร ขั้นสุดท้ายหมอเลยเจาะไขสันหลัง ผลออกมาว่าเป็นพยาธิตัวจี๊ดเข้าไขสันหลังไปทำลายเส้นประสาททำให้เดินไม่ได้ หมอบอกว่าไม่มีโอกาสเดินได้และไม่มียารักษา ลูกเดินไม่ได้ จึงต้องนั่งรถเข็นกลับมาบ้าน
จนกระทั่งมีคนบอกว่า ลูกอาจจะถูกคุณไสย เขาจึงแนะนำให้ลูกไปหาหมอไสยศาสตร์ ลูกจึงได้ไปหาหมอคนนั้น พอไปถึงเนื่องจากลูกขึ้นไปชั้นบนไม่ได้ จึงเอาแค่ชื่อและวันเดือนปีเกิดให้น้าเอาขึ้นไปให้หมอดูหมอบอกว่าลูกต้องไปขอขมาเจ้าที่ก่อน โดยให้เอาผลไม้ ๙ อย่าง อาหารหวานคาว ๙ อย่างหมาก ใบพลู จุดเทียน จุดธูป แล้วเอากระถางธูปมาให้หมอในเช้าอีกวันหนึ่ง พอถึงตอนเช้าลูกก็ไปหาหมอ หมอเริ่มทำพิธีโดยให้ทุกคนที่ไปจับเส้นสายสิญจน์เอาไว้ และให้น้องชายของลูกช่วยจับเทียนไว้ตรงศีรษะ แล้วหมอก็ให้ลูกปั้นเทียนเป็นก้อน ๆ และให้เคี้ยวเทียนนั้น พอเคี้ยวสักพักก็มีกลิ่นเหม็นหมอให้ลูกคายเทียนออกมา แล้วหมอก็เอามีดอาคมของเขาตัดครึ่ง ปรากฏว่า ในเทียนนั้นมีตอกขดอยู่ ๒ เส้น พอคลายออกแล้วยาวประมาณ ๑ ฟุต (ทั้ง ๆ ที่ตอนลูกปั้นเทียนก็ไม่เห็นมีตอกสักเส้น) เสร็จแล้วหมอก็ให้ลูกทำบุญสังฆทานแล้วเขาก็ให้น้ำมนต์มาอาบและดื่ม พอเอาของออกแล้วอาการเจ็บปวดก็หายไป และลูกก็ไปหาหมอนวดตามที่ต่าง ๆ จนกระทั่งจากเดินไม่ได้เลย ก็มาเดิน ๔ ขา คือ มีไม้เท้าค้ำ ๒ข้าง แล้วก็มาเดิน ๓ ขา ไม้เท้าลดเหลือ ๑ ข้าง(ปัจจุบัน ลูกเดิน ๒ ขาเหมือนเดิม พอจะพยุงตัวเองได้บ้าง จึงไม่ได้ใช้ไม้เท้าแล้ว)
จากนั้น ลูกก็กลับมาพักที่บ้าน แต่ขาก็ยังไม่มีแรงเหมือนเดิม เดินไปก็มีอาการเซอยู่บ้าง ไม่นานญาติของลูกพาไปหาหมอทรงเจ้าที่อยู่ปราจีนบุรี เขาเรียกกันว่าพ่อปู่ พ่อปู่คนนั้นให้ลูกนอนลง แล้วเอาใบพลูไล่ไปตามตัวลูกแล้วมาดูในน้ำมนต์ว่าลูกเป็นอะไร หมอบอกว่าลูกไปทำผิดเจ้าที่ที่หอพักที่ลูกไปอาศัยอยู่ขณะไปเรียน ลูกต้องไปขอขมาเขา ลูกก็ไปทำ แต่อาการก็ยังเหมือนเดิม
สุดท้ายลูกไปหาหมอทรงเจ้าอีกรอบหมอทักว่า พระภูมิเจ้าที่ที่บ้านแรงมาก เขาโกรธเพราะไปไถดินที่อยู่ของเขาออก ต้องไปตั้งศาลพระภูมิไว้ในที่นาซึ่งเป็นนาของตากับยายลูกก็ทำ แต่ก็ไม่หาย จนตอนนี้ลูกไม่รู้จะไปหาหมอที่ไหนดี ลูกจึงตั้งใจทำบุญและนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมเรื่อยไป
ปัจจุบันนี้ ขาทั้ง ๒ ข้างของลูกก็ยังไม่มีแรงเหมือนเดิม แต่ลูกทำบุญที่วัดพระธรรมกายทุก ๆ บุญที่ได้ทราบข่าว ไม่ว่าจะสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว ทอดกฐินคุณยาย ๘๐ ปี หล่อหลวงปู่วัดปากน้ำทองคำ ร่วมสร้างพระบรมพุทธเจ้า ร่วมสร้างมหาวิหารหลวงปู่วัดปากน้ำ ลานธรรม กฐินปี พ.ศ. ๒๕๔๕,๒๕๔๖ ทำบุญเลี้ยงพระ ๓,๐๐๐ วัด และเคยเข้าอบรมธรรมทายาทหญิง ปฏิบัติธรรมผู้นำรถที่สวนพนาวัฒน์ ปัจจุบันลูกอยู่กับคุณแม่และน้าๆ ทุกท่านดูแลลูกมาโดยตลอด ลูกมีพี่น้อง ๒ คน ลูกเป็นคนโต มีน้องชาย ๑ คน น้องเคยบวชสามเณรภาคฤดูร้อนหลายครั้ง
คุณตา เป็นสารวัตรกำนัน และเป็นคนที่ชาวบ้านเคารพนับหน้าถือตา คุณตาชอบช่วยเหลือรักษาคนป่วยด้วยวิธีเสกเป่า โดยอมเปลวเทียนร้อน ๆ แล้วเป่าให้คนป่วย บางคนถูกใส่ของถึงกับจะเป็นบ้า คุณตาก็รักษาให้หายเป็นปกติได้ คุณตาประสบอุบัติเหตุถูกรถชนเสียชีวิตเมื่ออายุ ๖๓ ปี
คุณยาย เป็นคนดี ใจบุญ ชอบทำบุญที่วัดใกล้บ้านอย่างสม่ำเสมอ วันพระก็รักษาอุโบสถศีลที่วัด แต่ก็เคยฆ่าสัตว์เพื่อนำมาเป็นอาหารเลี้ยงลูก ๆ คุณยายเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งหลอดอาหาร ขณะที่อายุเพียง ๕๒ ปี
คุณพ่อ มีอาชีพขับรถรับจ้าง ชอบดูดบุหรี่เป็นปกติ ประสบอุบัติเหตุรถชนและเสียชีวิตเมื่ออายุ ๓๓ ปี คุณพ่อเคยร่วมทำบุญสร้างพระมหาธรรมกายเจดีย์ แต่ยังไม่เคยมาวัด
คุณแม่ เป็นกัลยาณมิตรและผู้นำบุญผู้นำรถ พาสาธุชนมาร่วมงานที่วัดพระธรรมกายเสมอ แต่คุณแม่ของลูกหูไม่ค่อยได้ยินมาตั้งแต่กำเนิด ตอนนี้ก็ใช้เครื่องช่วยฟังแทน พอจะได้ยินอยู่บ้าง
หลังจากส่งคำถามไปกราบเรียนถามคุณครูไม่ใหญ่แล้ว
ก็มีคำตอบจากโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ดังนี้
๑. ลูกไม่ได้โดนคุณไสย แต่เป็นตัวจี๊ดจริง ๆ ตามที่คุณหมอท่านบอก ด้วยบุพกรรมในอดีต
๒. อดีตชาติลูกเคยเป็นราชบุรุษคอยควบคุมนักโทษ โดยจะต้องเอาโซ่ตรวนไปล่ามขาทั้ง ๒ ข้างของนักโทษ แม้เป็นหน้าที่แต่บางครั้ง ก็มีเจตนาจะบังคับให้นักโทษไปทำงานต่างๆให้เต็มที่ ไม่ให้บิดพลิ้ว ทำอย่างนี้เป็นอาจิณ จนนักโทษทรมานแล้วก็หมดแรง
ด้วยวิบากกรรมนี้ทำให้ตัวจี๊ดที่อยู่ในตัวสัตว์เข้าไปที่ไขสันหลัง และกินประสาทสั่งการอวัยวะต่าง ๆ โดยเฉพาะที่ขาให้หมดแรงหรือเดินไม่สะดวก ลูกต้องทำบุญทุกบุญ แล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้ที่เราเคยไปเบียดเบียนเขาไว้ ให้ทำบ่อย ๆ หนักก็จะเป็นเบา เบาก็จะหาย
หมอไสยศาสตร์คุ้นกับวิชาไสยศาสตร์ เขาก็ว่าของเขาไปตามหลักวิชาที่เรียนมา เพราะความจริงลูกไม่ได้โดนคุณไสย แต่ว่ามีวิบากกรรมดังกล่าว ส่วนสิ่งที่ลูกเห็นจากเทียนที่ปั้นเป็นก้อนนั้น เป็นเพราะอาจารย์วิทยาธร เขาเอามาใส่ตามหลักวิชา แต่ตามนุษย์มองไม่เห็นอาจารย์วิทยาธร เห็นแต่ของที่เอามาใส่ไว้ในก้อนเทียนที่ปั้น ด้วยมนต์ของเขา ถ้าลูกโดนไสยเวทหรือทำผิดเจ้าที่เจ้าทาง เมื่อของออกจากตัวหรือขมาแล้วก็ต้องหาย ไม่ใช่เป็นเรื้อรังจนถึงบัดนี้ พ่อปู่ที่คนทรงบอกมาเกี่ยวกับเรื่องเจ้าที่อะไรต่างๆ ก็เป็นเรื่องที่เขามั่วหลอกๆกันไป อย่าไปสนใจอะไรเลย ถ้าโดนอย่างนั้นจริง ๆ เมื่อลูกไปทำอย่างที่เขาแนะนำแล้ว ลูกก็ต้องหาย แต่นี่ยังไม่หาย ที่ดีขึ้นมาเรื่อย ๆ ก็เพราะบุญปัจจุบันที่ลูกทำช่วยแก้ไขไปเรื่อย ๆหนักก็จะเป็นเบา เบาก็จะค่อย ๆ หายไป
๓.ลูกเคยร่วมทำบุญกับหมู่คณะมาเคยเกิดในสังคมเกษตรกรรม ได้บวชเป็นเณรมากับหมู่คณะแต่พอโตขึ้นด้วยฤทธิ์หนุ่มก็ลาสิกขาออกไปเรียน แล้วไปรับราชการเป็นผู้คุมนักโทษ แต่มีนิสัยเจ้าชู้ แต่ภายหลังเมื่ออายุมากขึ้น เห็นทุกข์ของชีวิตเลย เริ่มกลับมาสร้างบารมีกับหมู่คณะใหม่แล้วอธิษฐานให้เจอหมู่คณะตั้งแต่เด็กๆแล้วก็อย่าให้หลุดไปจากหมู่คณะเลย
๔. ดังนั้น ชาตินี้ด้วยบุญที่ทำบ้างไม่ทำบ้าง จึงทำให้เกิดในสังคมเกษตรกรรม
๕. และกรรมเจ้าชู้ทำให้มาเป็นผู้หญิง
๖. กรรมที่ล่ามโซ่ตรวนนักโทษก็ทำให้ ขาไม่มีแรง และบุญที่ได้อธิษฐานอยากเข้าวัดตั้งแต่เด็กก็ได้มาเข้าวัดตั้งแต่เด็ก
๗. คุณตาไปเป็นภุมเทวดาสายวิทยาธรอยู่ป่าหิมพานต์
๘. เมื่อคุณยายตายแล้วก็ไปเป็นภุมเทวดาอยู่ในหมู่บ้านภุมเทวดาแห่งหนึ่ง ได้รับบุญทุกบุญที่ลูกอุทิศไปให้คุณตาและคุณยายท่านมีกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหาร คุณตาฆ่าสัตว์ใหญ่ เช่น วัว ควาย แต่คุณยายฆ่าสัตว์เล็ก ๆ
๙. คุณพ่อตายตั้งแต่อายุ ๓๓ ปี เพราะกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหาร ทั้งสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ตายแล้ววนเวียนอยู่กับครอบครัวระยะหนึ่ง แต่ขณะนี้ได้ไปเกิดเป็นเด็กผู้ชายแล้ว ด้วยบุญที่อุทิศไปให้
๑๐. คุณแม่หูไม่ได้ยิน เพราะกรรมในอดีตไม่ยอมฟังบิดามารดาสั่งสอน ทำเป็นไม่ได้ยินหรือบางทีทำเป็นอุดหูไม่ยอมฟังเมื่อท่านเรียกไปสั่งสอน ให้ทำบุญทุกบุญไปเรื่อยๆแล้วอธิษฐานให้บุญบันดาล หนักก็จะเป็นเบา เบาก็จะหาย
บทสัมภาษณ์จากเจ้าของเคส
เจ้าของเคส : ก่อนที่จะได้ฟังฝันในฝันรู้สึกน้อยใจ ท้อใจ ว่าทำไมเราเข้าวัดปฏิบัติธรรมตั้งแต่เล็ก ๆ ต้องมามีสภาพเช่นนี้ คนอื่นเขาไม่เข้าวัดอย่างเราเขาแข็งแรงดี พอฟังฝันในฝันแล้วมีกำลังใจขึ้นเยอะ ว่านี่คือกรรมของเราที่ในอดีตชาติเป็นราชบุรุษคุมนักโทษล่ามโซ่จนเขาหมดแรงบ่อย ๆ เป็นเหตุให้เราหมดแรงเหมือนกัน
เจ้าของเคส : นับเป็นความโชคดีที่รู้เหตุในอดีต แล้วฝันในฝันยังแนะนำวิธีแก้ไข คือให้ทำบุญทุกบุญแล้วอุทิศบุญให้คู่เวรคู่กรรมที่เราเคยไปเบียดเบียนเขา เราทำตามหลักวิชชานี้อย่างเข้มข้น ตั้งใจสวดมนต์รักษาศีล ๕, ศีล ๘ นั่งสมาธิมากขึ้น เคยนั่งแค่ ๕-๑๐ นาที เพราะมันปวด ก็นั่งถึง ๓๐ นาที ทำบุญทุกบุญมาวัดทุกต้นเดือน งานบุญใหญ่ไม่เคยพลาด ปรากฏว่าอาการของเราดีขึ้นไม่มีทรุดลง อย่างมากก็คงที่ ไปหาคุณหมอที่เคยรักษาเรา คุณหมอเห็นเราก็ตกใจ คุณเดินมาได้อย่างไร ? อาการคุณต้องเดินไม่ได้แล้ว สรุปว่าสู้ด้วยบุญกินยาก็ไม่หาย ที่ผ่านมากินยามาตลอดไม่เคยหาย แต่พอทำตามหลักวิชชา ทาน ศีล ภาวนา ก็ดีขึ้นจนสามารถเดินได้
เจ้าของเคส : มีเรื่องอัศจรรย์ใจว่าฝันในฝันรู้ได้อย่างไร ? เพราะไม่ได้เขียนบอกไป คือเรื่องของคุณตาที่เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต ฝันในฝันบอกว่าเป็นเพราะฆ่าสัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่ เราไม่เคยเห็นคุณตาฆ่าสัตว์ ก็ไปถามคุณแม่กับคุณน้า ได้คำตอบว่าก่อนที่คุณตาจะมาเป็นสารวัตรกำนัน ท่านเคยเป็นนายพรานล่าสัตว์ในป่ามาก่อน อีกเรื่องก็คือ คุณพ่อมีฐานะลำบาก ต้องเข้าป่าหาพืชผักและล่าสัตว์ เพราะกรรมนี้ทำให้เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต แม้เราไม่ได้เขียนเล่าไป แต่ฝันในฝันก็รู้
เจ้าของเคส : ส่วนคุณแม่ซึ่งเป็นผู้นำบุญ หูท่านไม่ค่อยได้ยิน ได้รู้วิบากกรรมและมีความหวังเพราะมีทางแก้แต่การที่หูไม่ค่อยได้ยินนี้แหละ ทำให้คุณแม่นั่งธรรมะดีกว่าคนอื่นเขา ใครเขาร้องคาราโอเกะข้างบ้านคุณแม่ก็ไม่ได้ยิน ท่านเลยนั่งดี
เจ้าของเคส : กราบขอบพระคุณคุณครูไม่ใหญ่ จากการเป็นนักเรียนอนุบาล ฯ ทำให้เรารู้ว่าวิบากกรรมมีจริงสามารถแก้ไขได้ด้วยทาน ศีล ภาวนา ตอนนี้สวดธรรมจักรวันละ ๕-๑๐ จบและร่วมฉลองชัยชิตังเม!ในการสธรรมจักรทุกครั้ง ทำให้สบายใจ มีความสุข การงานก็ราบรื่น ขณะสวดก็นึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อธิษฐานขอพรให้สุขภาพแข็งแรง เดินทางไปมาสะดวกสบาย ตอนนี้ชีวิตก็ดีขึ้นเรื่อยๆได้มาทำงานใกล้วัด และมาเจอนายก อบต. ที่ใจบุญ พาเข้าวัดทำบุญตลอด ส่วนคุณแม่ที่อยู่ต่างจังหวัดก็สวดธรรมจักรตลอดทั้งวัน มาวัดทุกงานบุญ ค้าขายก็กำไรดี