หลวงพ่อตอบปัญหา
เรื่อง : หลวงพ่อทัตตชีโว
หลวงพ่อตอบปัญหา
คำถาม : ทำอย่างไร เมื่ออยากให้สิ่งดี ๆ เกิดกับตัวเอง ?
ตอบ : ในกรณีที่อยากจะให้สิ่งที่ดี ๆ เกิดกับตัวเอง เกิดกับธุรกิจการงาน เกิดกับที่ไร่ที่นาของตัวเอง แม้ที่สุดแล้วเกิดกับบ้านเมืองของตัวเอง ตั้งแต่โบราณมาแล้วท่านใช้วิธีอะไรท่านก็ใช้วิธี “เติมบุญ” ให้แก่ตัวเอง เติมบุญให้แก่ไร่กับนา เติมบุญให้แก่ลูกกับหลาน เติมบุญให้แก่แว่นแคว้นของตัวเอง พระราชาในอดีต เวลาบ้านเมืองเกิดฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาลหรือมีโรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้น พระองค์ทรงแก้ไขปัญหากันอย่างไร ก็อาศัยการเติมบุญแบบนี้เช่นกัน
สมัยพุทธกาล พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เสด็จไปเมืองไพสาลี ขณะที่โรคกำลังระบาดอยู่พระองค์ก็เจริญภาวนาแผ่เมตตาแล้วก็ทำน้ำมนต์ให้พระอานนท์นำไปพรมทั่วเมืองไพสาลีก็ปรากฏว่าโรคห่าที่ระบาดทั้งเมืองหายไปเป็นปลิดทิ้งในวันนั้น ด้วยอำนาจพุทธมนต์ ด้วยอำนาจบุญของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และก็ด้วยอำนาจบุญของประชาชนทั้งไพสาลีด้วย เพราะแต่ละท่านก็เป็นลูกศิษย์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งนั้น เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเจริญพุทธมนต์ก็ทรงนำมหาชนนั่งสมาธิไปด้วย ประชาชนก็นั่งสมาธิตาม เป็นวิธีที่พระองค์เติมบุญให้ ส่วนประชาชนก็หัดพึ่งตัวเองคือสร้างบุญให้ตัวเอง แล้วบุญของประชาชนเหล่านั้น ไปรวมกับบุญของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็แก้ไขให้เมืองไพสาลีพ้นโรคระบาดได้ นี่คือวิธีที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงใช้มาในอดีต
หลวงพ่อเคยเห็นเมื่อตอนเด็ก ๆ เวลาบางคนทำงานแล้วแดดมันร้อนเชียว ร้อนแล้วเขาทำอย่างไร เขาก็ด่าดวงอาทิตย์ ด่าแดด ด่าลม ว่ากันเรื่อยไป บางแห่งน้ำท่วมก็ด่าฟ้า ด่าฝนอย่างนี้ทำผิดวิธี
หลวงพ่อเคยถามคุณยายว่า เขาด่าลม ด่าฝน ด่าดวงอาทิตย์ ดวงดาว ดวงจันทร์ ด่าอะไรไป พวกนี้จะเป็นอย่างไร คุณยายบอกว่า ก็เพิ่มบาปให้แก่ตัวเองน่ะสิ อย่างนี้ล่ะก็เดี๋ยวได้ร้อนข้ามชาติหรอกนะ
หลวงพ่อก็ถามคุณยายต่อ แล้วทำอย่างไรถึงจะถูกต้อง คุณยายบอกว่า ให้ภาวนาในใจ “สัมมาอะระหัง” ไปสิ ทำตามอย่างที่หลวงปู่ท่านเคยสอนนั่นแหละ เพราะเราภาวนา “สัมมาอะระหัง” ไป ก็ช่วยให้ใจเย็นอยู่ภายในไป แล้วบุญก็เกิด บุญนั้นแหละถ้ามากพอ ห้ามดวงอาทิตย์ ห้ามดวงดาว ดวงจันทร์ได้ทีเดียว ถ้าไม่มากพอเพราะเราฝึกใหม่ก็ไม่เป็นไรถึงบุญไม่มากพอขนาดไปห้ามดวงอาทิตย์ได้ แต่บุญที่เกิดขึ้นจากภายใน ก็สร้างความชุ่มเย็นให้แก่กายกับใจของผู้นั้นได้
หลวงพ่อก็เคยทดลองก่อนจะบวช เมื่อเริ่มสร้างวัดพระธรรมกายยุคบุกเบิกท้องนา ๑๙๖ ไร่ ของวัดพระธรรมกาย จะหาต้นไม้ขึ้นสักต้นก็ยาก อยู่กันกลางแดดร่วมกับธรรมทายาท เวลาทำงานกันกลางแดด ช่วยกัน “สัมมาอะระหัง” ไป อธิษฐานจิตไป มันก็แปลกนะ พอได้ส่วนเข้าธรรมทายาทเป็นร้อย ๆ ช่วยกัน “สัมมาอะระหัง” ไป กำหนดองค์พระชัดบ้าง ไม่ชัดบ้าง ก็ตามประสาฝึกใหม่เพิ่งหัดนี่นะ ทั้งอาจารย์ทั้งลูกศิษย์ องค์พระชัดบ้าง ไม่ชัดบ้าง ดวงแก้วชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ก็แปลก สักครู่เดียวเมฆตั้งขึ้นมาอย่างไรก็ไม่รู้ ก็พอได้เย็นกันทีเดียว
ตรงกับที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่า ขอให้ประพฤติปฏิบัติธรรมเถิด เมื่อประพฤติได้ถูกส่วนแล้ว ก็เป็นอกาลิโก ไม่ถูกบังคับด้วยกาลเวลา ว่าต้องเมื่อนั้นเมื่อนี้ถึงจะทำได้ ไม่ต้องพุทธกาลเท่านั้นที่จะทำได้ เวลาไหนก็เป็นไปได้ตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัส
แม้ในกาลไหน ๆ หากว่าประพฤติปฏิบัติธรรม โอกาสที่ผลการปฏิบัติธรรมจะแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ขึ้นมาพร้อมที่จะเกิดได้ทุกครั้งหากเราทำได้ถูกส่วน ก็อย่างที่หลวงปู่ท่านสอนเอาไว้ ชาวนาไถนาไปก็ “สัมมาอะระหัง” ไป ก็เป็นการปฏิบัติธรรม บุญเกิดตามส่วนของท่านผู้นั้นที่ปฏิบัติ ถึงแม้ยังไม่บรรลุธรรมแต่บุญก็เกิด บุญที่เกิดนั้นพอทำให้ไร่นาของตัวเองเจริญงอกงามขึ้นมาได้
แม่บ้านต้มผักต้มแกงหุงข้าวไป “สัมมา อะระหัง” ไป ใจก็หยุดนิ่งตามส่วนของแม่บ้านบุญก็เกิดตามส่วน กับข้าวกับปลาที่ทำก็กลายเป็นกับข้าวกับปลาที่เติมบุญ กับข้าวกับปลากลายเป็นกับข้าวทิพย์ กับข้าวบุญ เหมาะจะบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เหมาะจะเป็นทั้งอาหารเหมาะทั้งที่จะเป็นยาอายุวัฒนะให้แก่ครอบครัวทั้งครอบครัว หลวงปู่สอนอย่างนี้ ใครทำตามก็เจริญงอกงามทั้งนั้น
ในสมัยพุทธกาลก็อย่างที่เล่ามา เมืองไพสาลีเกิดโรคระบาด พระพุทธองค์ทรงสอนให้ประชาชนทั้งเมืองเพิ่มบุญเติมบุญให้ตัวเองอย่างนี้ พลิกในชาดกก็พบเหมือนกันว่า เวลาบ้านเมืองเกิดฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล มีแคว้นหนึ่ง พระราชาได้ทราบข่าวว่า แคว้นข้างเคียงของตนฝนตกต้องตามฤดูกาลดี แคว้นของตนฝนไม่ตกสักที แล้งเอย ห่าเอยจะระบาดเมืองตนเองตาย คิดว่าช้างทรงของพระราชาแคว้นโน้นคงจะมีอิทธิฤทธิ์ทำให้ฝนตกได้ ก็รีบส่งทูตไปขอ พระราชาแคว้นนั้นยิ้มแล้วบอกว่า “ช้างน่ะให้ได้ แต่มันช่วยอะไรไม่ได้หรอก ถ้าทั้งพระราชาและชาวพาราทั้งแคว้นไปตั้งใจรักษาศีลเหมือนอย่างที่แคว้นเราทำ แล้วก็ตั้งใจทำภาวนาอย่างที่เราและคนในแว่นแคว้นของเราทำ เดี๋ยวฝนก็ตกต้องตามฤดูกาลเอง” เมื่อได้รับทราบอย่างนั้นแล้ว พระราชาแคว้นที่ฝนฟ้าไม่ตกนั้นก็ทำตาม ปรากฏว่าฝนฟ้าก็ตกต้องตามฤดูกาลดี
การรักษาศีลคือหยุดทำบาป แล้วก็ทำบุญกันทั้งเมือง แล้วก็ทำภาวนากันไป ปิดตาแล้วก็เปิดใจกัน เปิดใจทำอะไร เปิดใจสำรวจข้อบกพร่องของตัวเอง ฟังให้ดีนะ เวลาเกิดเรื่องร้ายไม่เหมาะไม่ควรอะไร ไม่ต้องไปโทษคนอื่น ให้รีบหลับตาแล้วก็ทำสมาธิ “สัมมาอะระหัง” ก็ได้ “พุทโธ” ก็ได้ “ยุบหนอ พองหนอ” ก็ได้ ให้ถูกส่วนเถอะ เดี๋ยวใจจะเปิดออกมาเอง พอใจหยุดนิ่งถูกส่วนล่ะก็ เดี๋ยวจะเปิดใจออกมาเอง ทำให้เห็นทั้งข้อบกพร่องและข้อดีของตัวเองชัดขึ้นมา ที่บกพร่องก็แก้ไขเสีย ที่ถูกต้องดีแล้วก็พัฒนาทำให้มันยิ่งขึ้นไป บุญใหม่ก็เกิดวิธีการอะไรที่ถูกต้องก็เอามาใช้งาน เดี๋ยวก็จะทำให้อุปสรรคต่าง ๆ ทั้งหลายมลายหายไปโดยอัตโนมัติ ไปค้นดูได้ในพระไตรปิฎกมีแต่อย่างนี้ ถ้าต่อไปในภายภาคหน้า
๑. ประสบเหตุเภทภัยอะไรก็ไม่ต้องไปโวยวายอะไรกับใคร ปิดตาเปิดใจ “สัมมาอะระหัง” สร้างบุญเพิ่มบุญให้แก่ตัวเองและหมู่คณะยิ่ง ๆ ขึ้นไป
๒. แม้ประสบสุขความสำเร็จอะไรแล้ว ก็พึงทำ “สัมมาอะระหัง” ปิดตาเปิดใจ เพิ่มบุญทับทวีบุญ ให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ตัวของเรา กิจการของเรา บริษัทของเรา แม้ประเทศชาติของเรา ก็มีแต่จะเจริญรุ่งเรืองยิ่ง ๆ ขึ้นไปเช่นกัน
เมื่อรู้วิธีที่ถูกต้อง คือการเติมบุญให้ตัวเองแล้ว ก็หัดนั่งสมาธิกัน ปิดตาแล้วก็เปิดใจ ให้บุญเกิดข้างในเยอะ ๆ เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีเอง