อ่านอดีต ขีดอนาคต
เรื่อง : พระมหาพงศ์ศักดิ์ ฐานิโย, ดร.
ย้อนอดีต...ท่องประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา
ตอนที่ ๑๖ : สิ่งที่ปรากฏในฉากหน้า...ล้วนมีฉากหลังอยู่ทั้งสิ้น
มาร...ผู้ไม่ลดละในการขวางความดี
ภายหลังจากพระพุทธองค์มีพระดำรัสเพื่อส่งพระอรหันต์ชุดแรก ๖๐ รูปออกไปประกาศพระสัทธรรม ลำดับนั้น “มารผู้มีบาป” ได้ปรากฏขึ้นและกล่าวกับพระพุทธองค์ในเชิงถากถาง เพื่อหวังให้พระพุทธองค์ทรงละความพยายามในการประกาศพระสัทธรรมอันบริสุทธิ์ แต่คำพูดเหล่านั้น หาได้มีความหมายต่อพระองค์ไม่ อีกทั้งยังตรัสตอบกลับมารผู้มีบาป ด้วยพระดำรัสที่ว่า
“เราได้พ้นแล้วจากบ่วงมาร ทั้งที่เป็นของทิพย์ ทั้งที่เป็นของมนุษย์ เราได้พ้นแล้วจากเครื่องผูกหลายประการ ดูก่อนมารผู้กระทำซึ่งที่สุด (แห่งบาป) เราได้กำจัด (บ่วงของ) ท่านเสียแล้ว”
ด้วยพระดำรัสนี้แสดงให้เห็นถึง “ความดำรงอยู่ของมาร” แม้พระพุทธองค์และพระสาวกส่วนหนึ่งจะหมดกิเลสไปแล้วก็ตาม แต่มารผู้มีบาปก็ไม่เคยที่จะละความพยายามในการขัดขวางผู้ทำความดี แม้ในกาลปัจจุบัน
พระ...ผู้ไม่ย่อท้อต่อการทำความดี
ด้วยพระพุทธดำรัสดังกล่าว ทำให้มารได้ล่าถอยกลับไป แล้วพระพุทธองค์ก็เสด็จดำเนินไปยังอุรุเวลาเสนานิคมเพื่อโปรดเหล่าชฎิล ในลำดับนั้น พระพุทธองค์ทรงพบกับราชกุมารทั้ง ๓๐ ที่เรามักเรียกขานว่า “ภัททวัคคีย์ ๓๐” ซึ่งได้มาท่องเที่ยวกันในสวนป่าที่พระองค์ประทับในขณะนั้น และ ๑ ในราชกุมารนั้น ได้ถูกหญิงผู้ถูกว่าจ้างมาให้เป็นคู่ขโมยของหนีไป หลังจากทั้งหมดได้ทราบความนั้นแล้ว จึงได้ออกตามหามาตามลำดับ จนถึงที่ประทับของพระพุทธองค์ และเมื่อทั้งหมดได้ฟังธรรมจากพระพุทธองค์ จึงได้บรรลุธรรมเป็นพระอริยบุคคล มีพระโสดาบัน เป็นต้น ครั้นเมื่อล่วงกาลผ่านไป “พระภัททวัคคีย์” เหล่านี้ได้กลับมาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์อีกครั้ง และเป็นผู้ที่ทำให้เราได้มีประเพณี “ทอดกฐิน” มาจนถึงทุกวันนี้
จากเสี้ยวหนึ่งของประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา ที่ปรากฏในพระวินัยปิฎก มหาวรรค ทำให้เราเห็นว่า ไม่ว่ายุคสมัยหรืออารยธรรมจะแปรเปลี่ยนไปเพียงใดก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่ยังดำรงคงอยู่ คือการเผชิญหน้าของพระกับมาร สิ่งที่ปรากฏในฉากหน้า...ล้วนมีฉากหลังอยู่ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นความคิด คำพูด หรือการกระทำของเรา ล้วนสะท้อนถึงปรากฏการณ์นี้ทั้งสิ้น แล้วเราต้องการให้ประวัติศาสตร์ชีวิตของเรามีใครเป็นฉากหลัง ระหว่าง “มาร...ผู้ไม่ลดละในการขวางความดี” หรือ “พระ...ผู้ไม่ย่อท้อต่อการทำความดี”