อานิสงส์แห่งบุญ
เรื่อง : ร.ลิ่วเฉลิมวงศ์
อานิสงส์การสร้างเจดีย์
บุญใหญ่ที่คาดไม่ถึง
หากลองศึกษาประวัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันต์ หรือมหาเศรษฐี ที่รวยมาก ๆ ในสมัยพุทธกาลจะพบว่า มักจะได้ทำบุญสร้างเจดีย์หรือทำบุญเกี่ยวเนื่องกับเจดีย์กันไว้ทั้งนั้น เพราะบุญนี้เป็นบุญที่ให้อานิสงส์แรง ส่งผลนับชาติไม่ถ้วน เช่น มีส่วนสำคัญในการทำให้...
• พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ
• ชฎิลเศรษฐี รวยถึงขนาดมีภูเขาทองคำสูง ๘๐ ศอก เพราะได้เอาหม้อทองคำไปบรรจุไว้ในเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
• พระปุฬินถูปิยเถระ ในชาติสุดท้ายท่านได้เกิดในครอบครัวที่เป็นสัมมาทิฐิ มีศรัทธาในพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาก และท่านได้บรรลุอรหัตผลตั้งแต่ ๗ ขวบ เพราะอดีตชาติก่อเจดีย์บูชาทุกเช้าเย็น
• พระมหากัจจายนะ มีผิวพรรณวรรณะผุดผ่องก็เพราะบุญสร้างเจดีย์
• อุบาสิกาเสสวดี หลังจากละโลกแล้วไปเกิดบนสวรรค์มีวิมานทองสว่างไสว ก็เพราะปลดเครื่องประดับทองคำเอาไปทำอิฐเพื่อสร้างเจดีย์อ
ฉะนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่บรรพบุรุษเราตั้งแต่สมัย ปู่ ย่า ตา ยาย นิยมสร้างเจดีย์กันมาก เพราะบุญนี้เป็นบุญที่ทำแล้วได้อานิสงส์มหาศาลอย่างคาดไม่ถึง
เหตุผลนี้เอง จึงทำให้คนในสมัยก่อนขวนขวายทำบุญสร้างพระเจดีย์กันมาก เนื่องจากบุญจากการสร้างเจดีย์ทำให้เกิดในตระกูลสูง ได้ความสมบูรณ์ของชีวิตในทุกด้าน และที่สำคัญยังเป็นบุญที่ทำให้มีบารมีเต็มเปี่ยมจนสามารถหมดกิเลสเข้านิพพานได้โดยง่าย จนเรามักจะได้ยินเรื่องราวการสร้างพระเจดีย์ถวายเป็นพุทธบูชาถึง ๘๔,๐๐๐ องค์บ่อย ๆ โดยกษัตริย์ยุคนั้นยุคนี้ เศรษฐีคนนั้น คนนี้… ซึ่งจะขอยกตัวอย่างมาเล่าให้ฟังสั้น ๆ สักเรื่อง
ย้อนไปในสมัยพุทธกาล ในครั้งที่พระเจ้าปเสนทิโกศลได้ทอดพระเนตรเห็นทรายขาวที่งดงามตระการตา จนเกิดพระทัยเลื่อมใสนึกถึงคุณของพระรัตนตรัยอย่างแรงกล้า จึงรีบชวนบริวารทุกคนช่วยกันก่อเจดีย์ทรายด้วยความปลื้มถึง ๘๔,๐๐๐ องค์ เพื่อบูชาพระรัตนตรัยจากนั้นก็เสด็จไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่วัดบุพพาราม แล้วได้ทูลถามถึงอานิสงส์การก่อเจดีย์
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงตรัสชื่นชมและอนุโมทนาที่พระเจ้าปเสนทิโกศลและทุกคนมีศรัทธาแรงกล้าในการก่อเจดีย์ทรายถึง ๘๔,๐๐๐ องค์ เพราะการก่อแค่องค์เดียวก็ได้รับอานิสงส์มากอย่างไม่มีประมาณแล้ว คือ จะไม่ตกนรกตลอดร้อยชาติ ถ้าเกิดเป็นมนุษย์ก็จะอุดมสมบูรณ์ทุกอย่าง มีชื่อเสียงเกียรติยศไปทั่วทุกทิศ เมื่อละจากโลกนี้แล้วก็จะได้ไปเสวยทิพยสมบัติบนสวรรค์
จากนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ตรัสถึงประวัติการก่อเจดีย์ของพระองค์เองในชาติที่เป็นพระโพธิ์สัตว์ว่า…
ในครั้งนั้นตถาคตยากจนมาก มีอาชีพตัดฝืนขาย วันหนึ่งได้พบทราบชาวสะอาดจนเกิดจิตศรัทธา จึงหยุดตัดฟืน แล้วก่อเจดีย์ทรายทั้งวันโดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก จากนั้นก็เปลื้องผ้าห่มฉีกทำเป็นธงประดับไว้ เพื่อบูชาพระติสสสัมมาสัมพุทธเจ้า พอเสร็จก็อธิษฐานจิตขอให้ผลบุญนี้เป็นเหตุเป็นปัจจัยแห่งพระโพธิญาณในอนาคตกาล
ด้วยบุญนี้ ครั้นเมื่อตายไปแล้ว ทำให้ได้ไปเกิดอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีวิมานสูง ๑๒โยชน์ เสวยทิพยสมบัติอยู่ถึง ๒,๐๐๐ ปีทิพย์ เมื่อสิ้นอายุขัยแล้วได้จุติมาเกิดเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าพาราณสี ได้เวียนว่ายตายเกิดอยู่บนมนุษยโลก จนบำเพ็ญบารมีเต็มเปี่ยมแล้วจึงอุบัติเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จะเห็นว่า..นี่ขนาดก่อเจดีย์ทรายยังได้อานิสงส์อันไม่มีประมาณขนาดนี้ อีกทั้งเป็นบุญที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเลือกทำ เพื่อให้บารมีเต็มเปี่ยมจนบรรลุพระโพธิญาณในที่สุด
ดังนั้น โอกาสทองมาถึงพวกเราทุกคนแล้ว ที่เราจะได้มาสร้างบุญใหญ่อันควรค่าในชีวิต เพราะว่าการสร้างเจดีย์แต่ละองค์ไม่ได้เป็นสิ่งที่สร้างได้ทุกวัน หรือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นง่าย ๆ เลย
ฉะนั้น ขอชวนผู้มีบุญทุกท่านมาร่วมกันสถาปนาและทำพิธีฉลอง เกาะแก้วเจดีย์สวรรค์ให้สำเร็จ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุถวายเป็นพุทธบูชา และเอาบุญใหญ่นี้ติดตัวไป…
เกาะแก้วเจดีย์สวรรค์แห่งแรกของโลก
การสร้างเกาะแก้วเจดีย์สวรรค์นั้น สร้างไว้เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และยังเป็นการระลึกถึงการสร้างวัดพระธรรมกายครบ ๔ รอบ (๔๘ ปี) ในวันมาฆบูชา พ.ศ. ๒๕๖๑
พระเจดีย์องค์นี้ประดิษฐานภายในอาณาเขตพื้นที่ ๑๙๖ ไร่ ของวัดพระธรรมกายแทนตำแหน่งหอเทียนเดิม ซึ่งอยู่ระหว่างอุโบสถและมหาวิหารคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง
สาเหตุที่ตั้งชื่อพระเจดีย์นี้ว่า “เกาะแก้วเจดีย์สวรรค์” เพราะอยากให้มีความหมายที่ทำให้ผู้ฟังนึกถึงธรรมะ เพราะมนุษย์มีชีวิตเหมือนการว่ายน้ำอยู่ในทะเลแห่งทุกข์ ซึ่งจำเป็นต้องมีที่เกาะเพื่อจะได้ว่ายหรือพยุงตัวขึ้นฝั่งให้พ้นภัยจากทะเลแห่งทุกข์ได้ จึงนำคำว่า “เกาะ” มาเป็นส่วนหนึ่งของชื่อเจดีย์
ส่วนคำว่า “แก้ว” ก็มีความหมายเหมือนคำว่า “รัตนะ” ซึ่งรัตนะเหล่าใดในโลกนี้และโลกอื่นสู้พระรัตนตรัยไม่ได้
ฉะนั้น “เกาะแก้ว” จึงหมายถึง การมีพระรัตนตรัยเป็นที่ยึดเกาะเพื่อให้พ้นจากทะเลแห่งทุกข์ในสังสารวัฏ
นอกจากนี้ คำว่า “เจดีย์สวรรค์” ก็หมายถึงพระเจดีย์นี้ได้จำลองแบบมาจากสวรรค์ เพื่อให้สูงส่งเหมาะสมกับการเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
ส่วนบนยอดองค์เจดีย์ประดับดัวย “สิริปทุมทิพย์” ซึ่งหมายถึงดอกบัวสวรรค์อันเป็นที่มานอนแห่งโภคทรัพย์
จะเห็นว่าคำที่เป็นส่วนประกอบชื่อพระเจดีย์ล้วนเป็นคำมงคลที่ทำให้ผู้ฟังฟังแล้วตามตรึกระลึกถึงบุญได้ และเกิดความสุขปลื้มอกปลื้มใจที่ได้สร้างเจดีย์ที่สวยงามมีนามไพเราะควรคู่กับการถวายเป็นพุทธบูชาอย่างแท้จริง...