หลวงพี่ได้มีโอกาสมาวัดครั้งแรก สิ่งที่ประทับใจอย่างแรกก็คือบรรยากาศและความร่มรื่น ความเรียบร้อย ความเป็นระเบียบ โดยเฉพาะเรื่องรองเท้า ความเป็นระเบียบของรองเท้า เมื่อเห็นรองเท้า รู้สึกแม้กระทั่งรองเท้ายังเข้าแถวกันเลย รู้สึกประทับใจในสิ่งนี้ มาทราบภายหลังว่าในสมัยหลวงพ่อทัตตชีโวของเราอยู่ที่บ้านธรรมประสิทธิ์ ได้ไปจัดรองเท้าให้เป็นระเบียบ ท่านเป็นเจ้าหน้าที่รักษาระเบียบคนแรก ต้นแบบต้นบุญท่าน ได้จากคุณยายของเรานี่
คุณยายท่านเป็นผู้ที่รักความสะอาดเป็นชีวิตจิตใจ ทั้งสถานที่ อาคาร ห้องน้ำ โรงครัว จะเห็นคุณยายเป็นปกติ ตอนเช้าท่านจะตรวจวัดประมาณ ๘ โมง ตอนเย็น ๕ โมง ท่านจะไปตรวจเรื่องความสะอาด สิ่งที่อุบาสกจะ ได้ยินเสมอๆ จากคุณยายว่าใครที่ทำวัดยายเลอะๆ เทอะๆ คือสกปรก รก คุณยายบอกว่ายายตายไป ยายจะมาดึงขา ใครที่ทำวัดยายสกปรก รกนี่
คุณยายท่านเป็นต้นแบบต้นบุญของการบำเพ็ญเนกขัมมบารมี คือ การประพฤติพรหมจรรย์ให้กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยของเรา หลวงพ่อทัตตชีโว ให้กับพระภิกษุทุกรูปที่ได้มาอยู่วัด
คุณยายได้สอนอุบาสกรุ่นพี่ที่เตรียมบวช ให้เป็นแบบอย่างที่ดีให้อุบาสกรุ่นหลังๆ ได้เอาแบบอย่างตามที่คุณยายท่านสอน ท่านได้สอนอุบาสกรุ่นพี่ ที่เตรียมบวชเอาไว้ว่า ยายอยากให้ทุกคนไปได้ตลอดรอดฝั่ง จะไปได้หรือไม่ก็ขึ้นกับตัวเรา ที่ต้องระวังก็คือเรื่องผู้หญิง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก อย่าเอาความ สงสารเดินหน้า ต้องเอาปัญญาและอุเบกขาเดินหน้า ถ้าเรามีความสงสารเดินหน้าแล้วเราจะตกกระป๋อง เรื่องนี้ยายเห็นมาแล้วหลายคน เพราะฉะนั้นเราต้องระวังใจของเราให้ดี อย่าเชื่อมสะพาน อย่าทอดสะพานให้เขาเป็นอันขาด เพราะถ้าใกล้ชิดกันแล้วจะเลิกได้ยาก นี้เป็นคำสอนที่คุณยายได้สอนพี่ๆ อุบาสกก่อนบวช นักปฏิบัติธรรมจะเสียในเรื่องนี้มากที่สุด เป็นเรื่องที่ตัดทอนบารมี ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย คนที่สร้างบารมีไป ไม่ได้ตลอดก็เพราะเรื่องนี้ ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ทีหลัง ไม่มีได้จะดีที่สุด จะได้สร้างบารมีไปได้ตลอด มีบารมีมาก บริสุทธิ์ สะอาดมาก รู้เห็นวิชชาได้มาก เอาชนะทุกอย่างได้หมด
นี้เป็นสิ่งที่คุณยายท่านได้ปลูกฝังพระรุ่นพี่ๆ แล้วก็อุบาสกที่จะบวช ท่านปรารถนาที่จะสร้างวัดให้เป็นวัด สร้างพระให้เป็นพระ สร้างคนให้เป็นคนดี ซึ่งคุณยายท่านได้วางระเบียบวินัยที่เป็นประโยชน์มากกับวัด จนกระทั่งทุกวันนี้ ตอนแรกหลวงพี่ฟังคุณยายพูดก็ยังมองไม่ออก แต่มาปัจจุบันก็เริ่มมองเห็น หลายๆ อย่าง หลวงพี่มีเสียงเทปของคุณยายที่ได้พูดถึงเรื่องนี้ ลองฟังดู
เสียงเทปคุณยายอาจารย์ :
"๑. ให้ปิดประตู ๖ โมง
๒. พระทุกองค์ไม่ให้รับแขกในกุฏิ
ยายวางแผนนะ กฎวินัยน่ะ ให้ปิดประตู ๖ โมง แล้วไม่ให้รับแขก ไม่ให้เอาผู้หญิงเข้ากุฏิ ไม่ให้รับแขกในกุฏิ ยายวางกฎ กฎวินัยที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ยายเป็นคนวางกฎ"
มีอยู่สิ่งหนึ่งที่คุณยายท่านได้พูดถึงคำอธิษฐานของยายเอาไว้ หลวงพี่จะให้พวกเราได้มีโอกาสฟังคำอธิษฐานของยาย
เสียงเทปของคุณยายอาจารย์ :
"ยายก็นั่งสมาธิตามคนบ้าง ตามสมบัติบ้าง มาให้เขากินให้เขาใช้ เวลานั่งธรรมะนะ ไปเรียกบุญนี่ เรียกบุญช่วย เจ้าประคู๊ณ ข้าพเจ้าจะมีข้าทาส มีบริพารหญิงชาย จะมากมายแค่ไหนก็ช่างมันเถอะ ขอให้ข้าพเจ้ามีสมบัติให้เขากินให้เขาใช้ไม่รู้จักหมดจักสิ้น คำว่าไม่มีอย่าได้เกิดแก่ข้าพเจ้าเลย เลี้ยงได้ทั้งนั้น มาแล้ว ขอให้ข้าพเจ้าเลี้ยงได้ทั้งหมด ทุกวันนี้ยายต้องนั่งธรรมะอธิษฐานไว้ เพราะงั้นทุกวันที่เลี้ยงได้ทุกวันเพราะว่าอำนาจบุญ อำนาจบุญความบริสุทธิ์ของยาย"
พระนิรันดร์ : ที่คุณยายได้เลี้ยงพระ ผู้ที่มาวัดได้ทุกวันก็เพราะอำนาจบุญ ความบริสุทธิ์ของคุณยายที่ท่านได้ประพฤติปฏิบัติธรรม ตามทั้งสมบัติ ตามทั้งคนมาร่วมกันสร้างบุญสร้างบารมี
ในสมัยที่หลวงพี่ได้มีโอกาสมาเป็นอาสาสมัครในตอนนั้น จำได้ว่ามาช่วยตอนกลางคืนวันเสาร์ ประมาณปี ๒๕๒๕-๒๖-๒๗ คืนวันเสาร์จะมาค้างวัด มาช่วยรุ่นพี่ๆ เขาหุงข้าว ตอนสายก็ไปเตรียมที่ปฏิบัติธรรมที่ศาลาจาตุมหาราช จากนั้นก็มาทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาระเบียบ รักษาความสงบของวัด จัดรองเท้าให้เป็นระเบียบ ดูแลความเรียบร้อยของวัด
จากจุดเริ่มต้นที่หลวงพี่ได้มีโอกาสไปช่วยหุงข้าวในตอนนั้น ปรากฏว่าข้าวที่หุง ตอนนั้นวันอาทิตย์ตอนเช้าไม่ถึงครึ่งกระสอบที่เลี้ยงพระเลี้ยงคนในวันอาทิตย์ แต่ปัจจุบันหลวงพี่ได้ไปถามข้อมูลจากที่โรงหุงข้าว คุณยายท่านอธิษฐานเอาไว้ มาเท่าไรเลี้ยงได้หมดเลย เลี้ยงได้ไม่รู้จักหมดจักสิ้น ปัจจุบันวันธรรมดา หุงข้าววันละ ๘ กระสอบ เฉพาะวันธรรมดานะ เลี้ยงพระอย่างเดียว แต่ก่อนมีพระอยู่ประจำสิบกว่ารูป ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพิ่มจากเป็นร้อย ปัจจุบันพันกว่ารูปที่อยู่จำพรรษา เมื่อปีนี้ ๑,๐๓๘ รูป