ธชัคคสูตร สูตรว่าด้วยธงรบในสงคราม นิยมสวดโนงานฉลองธงพระราชทาน

วันที่ 11 มค. พ.ศ.2564

ธชัคคสูตร (ย่อ) สูตรว่าด้วยธงรบในสงคราม นิยมสวดโนงานฉลองธงพระราชทาน

ธชัคคสูตร (ย่อ)
สูตรว่าด้วยธงรบในสงคราม นิยมสวดโนงานฉลองธงพระราชทาน

อะรัญเญ รุกขะมูเล วา สุญญาคาเร วะ ภิกขะโว, ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อท่านทั้งหลายอยู่ในป่า หรืออยู่โคนไม้ หรืออยู่ในเรือนว่างเปล่าก็ตาม ;

มาระเสนัปปะมัททิโน. ผู้ทรงย่ำยีเสียได้ ซึ่งมารและเหล่าเสนาทั้งหลาย.

โกนาคะมะนัสสะ นะมัถถุ, ความนอบน้อมจงมี แด่พระโกนาคมนะสัมมาสัมพุทธเจ้า ;

พ๎ราห๎มะณัสสะ วุสีมะโต, ผู้ทรงลอยบาปเสียได้ ผู้ทรงอยู่จบพรหมจรรย์แล้ว ;

กัสสะปัสสะ (จะ) * นะมัตถุ, ความนอบน้อมจงมี แด่พระกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้า ;

วิปปะมุตตัสสะ สัพพะธิ. ผู้ทรงพ้นแล้วจากกิเลสทั้งปวง.

อังคีระสัสสะ นะมัตถุ, ความนอบน้อมจงมี แด่พระอังคีรสะสัมมาสัมพุทธเจ้า ;

สัก๎ยะปุตตัสสะ สิรีมะโต, ผู้ทรงเป็นโอรสแห่งศากยราซ ผู้ทรงไว้ซึ่งพระสิริ ;

โย อิมัง ธัมมะมะเทเสสิ, ซึ่งได้ทรงแสดงธรรมนี้ไว้ ;

สัพพะทุกขาปะนูทะนัง. อันเป็นเครื่องบรรเทาเสีย ซึ่งทุกข์ทั้งปวง.

เย จาปิ นิพพุตา โลเก ยะลาภูตัง วิปัสสิสุง, อนึ่ง แม้ชนเหล่าใดโนโลก เห็นแจ้งธรรมตามความเป็นจริงดับกิเลสได้แล้ว ;

เต ชะนา อะปิสุณา มะหันตา วีตะสาระทา, ชนเหล่านั้น ไม่มีความส่อเสียด เป็นผู้ใหญ่โดยคุณธรรมปราศจากความครั่นคร้ามแล้ว ;

หิตัง เทวะมะนุสสานัง ยัง นะมัสสันติ โคตะมัง, พากันนอบน้อมอยู่ ซึ่งพระพุทธเจ้าพระองค์โด ผู้ทรงเป็นโคตมโคตร ผู้ทรงเกื้อกูลแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ;

วิชชาจะระณะสัมปันนัง, ผู้ทรงถึงพร้อมแล้ว ด้วยวิชชาและจรณะ ;

มะหันตัง วีตะสาระทัง, ผู้ทรงถึงความเป็นใหญ่ ปราศจากความครั่นคร้ามใด ๆ แล้ว ;

วิชชาจะระณะสัมปันนัง พุทธัง วันทามะ โคตะนันติ, ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอนมัสการพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นผู้ทรงเป็นโคตมโคตร ผู้ทรงถึงพร้อมแล้วด้วยวิชชาและจรณะดังนี้ ;

นะโม เม สัพพะพุทธานัง, ข้าพเจ้าขอนอบน้อม แด่พระพุทธเจ้าทั้งปวง ;

อุปปนนานัง มะเหสินัง, ผู้ทรงแสวงหาคุณอันใหญ่ ซึ่งทรงบังเกิดขึ้นแล้ว ;

ตัณหังกะโร มะหาวีโร, คือ พระตัณหังกร ผู้ทรงกล้าหาญ ;

เมธังกะโร มะหายะโส, พระเมธังกร ผู้ทรงมียศใหญ่ ;

สะระณังกะโร โลกะหิโต, พระสรณังกร ผู้ทรงเกื้อกูลแก่โลก ;

ทีปังกะโร ชุตินธะโร, พระทีปังกร ผู้ทรงไว้ซึ่งปัญญา ;

โกณฑัญโญ ชะนะปาโมกโข, พระโกณฑัญญะ ผู้ทรงเป็นประมุขแห่งหมู่ชน ;

มังคะโล ปุริสาสะโภ, พระมังคละ ผู้ทรงเป็นบุรุษประเสริฐ ;

สุมะโน สุมะโน ธีโร, พระสุมนะ ผู้ทรงเป็นปราชญ์ มีพระหฤทัยงดงาม ;

เรวะโต ระติวัฑฒะโน, พระเรวตะ ผู้ทรงเพิ่มพูนความยินดี ;

โสภิโต คุณะสัมปันโน, พระโสภิตะ ผู้ทรงสมบูรณ์ด้วยพระคุณ ;

อะโนมะทัสสี ชะนุตตะโม, พระอโนมทัสสี ผู้ทรงอุดมในหมู่ชน ;

ปะทุโม โลกะปัชโชโต, พระปทุมะ ผู้ทรงทำโลกให้สว่าง ;

นาระโท วะระสาระถี, พระนารทะ ผู้ทรงเป็นสารถีผู้ประเสริฐ ;

ปะทุมุตตะโร สัตตะสาโร, พระปทุมุตตระ ผู้ทรงเป็นที่พึ่งของหมู่สัตว์ ;

สุเมโธ อัปปะฏิปุคคะโล, พระสุเมธะ ผู้ทรงหาบุคคลเปรียบมิได้ ;

สุชาโต สัพพะโลกัคโค, พระสุชาตะ ผู้ทรงเลิศกว่าสัตว์โลกทั้งปวง ;

ปิยะทัสสี นะราสะโภ, พระปิยทัสสี ผู้ทรงเป็นนรชนประเสริฐ ;

อัตถะทัสสี การุณิโก, พระอัตถทัสสี ผู้ทรงมีพระกรุณา ;

ธัมมะทัสสี ตะโมนุโท, พระธรรมะทัสสี ผู้ทรงบรรเทาความมืดคืออวิชชา ;

สิทธัตโถ อะสะโม โลเก, พระสิทธัตถะ ผู้ทรงหาบุคคลเสมอมิได้ในโลก ;

ติสโส จะ วะทะตัง วะโร, พระติสสะ ผู้ทรงประเสริฐกว่านักปราชญ์ทั้งหลาย ;

ปุสโส จะ วะระโท พุทโธ, พระปุสสพุทธเจ้า ผู้ทรงประทานธรรมอันประเสริฐ ;

วิปัสสี จะ อะนูปะโม, พระวิปัสสี ผู้ทรงหาที่เปรียบมิได้ ;

สิขี สัพพะหิโต สัตถา, พระสิขี ผู้ทรงเป็นพระศาสดา เกื้อกูลแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ;

เวสสะภู สุขะทายะโก, พระเวสสภู ผู้ทรงประทานความสุข ;

กะกุสันโธ สัตถะวาโห, พระกกุสันธะ ผู้ทรงนำสัตว์ออกจากกันดาร คือ กิเลส ;

โกนาคะมะโน ระณัญชะโห, พระโกนาคมนะ ผู้ทรงกำจัดเสียซึ่งข้าศึก คือ กิเลส ;

กัสสะโป สิริสัมปันโน, พระกัสสปะ ผู้ทรงสมบูรณ์ด้วยพระสิริ ;

โคตะโม สัก๎ยะปุงคะโว, พระโคตมะ ผู้ทรงประเสริฐแห่งหมู่ศากยราชทั้งหลาย ;

เอเต จัญเญ จะ สัมพุทธา, พระสัมพุทธเจ้าเหล่านี้ก็ดี เหล่าอื่นก็ดี ;

อะเนกะสะตะโกฏะโย, ซึ่งนับจำนวนได้หลายร้อยโกฏิ ;

สัพเพ พุทธา อะสะมะสะมา, พระพุทธเจ้าเหล่านั้นทั้งหมด เป็นผู้ทรงเสมอกันกับพระพุทธเจ้า ผู้ทรงหาใครเสมอมิได้ ;

สัพเพ พุทธา มะหิทธิกา, พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ทรงมีมหิทธิฤทธิ์ ;

สัพเพ ทะสะพะลูเปตา, ทุก ๆ พระองค์ ทรงประกอบด้วยทศพลญาณ ;

เวสารัชเชหูปาคะตา, ทรงประกอบด้วยเวสารัชชญาณ ;

สัพเพ เต ปะฏิชานันติ อาสะภัณฐานะมุตตะมัง, ทุก ๆ พระองค์นั้น ทรงปฏิญญาพระองค์ ในฐานะผู้มีคุณธรรมอันสูงสุด ;

สีหะนาทัง นะทันเต เต ปะริสาสุ วิสาระทา, ทรงเป็นผู้องอาจ บันลือกระแสธรรมดุจสีหนาท ท่ามกลางพุทธบริษัท ;

พ๎รัห๎มะจักกัง ปะวัตเตนติ, ยังพรหมจักรให้เป็นไป ;

โลเก อัปปะฏิวัตติยัง, ไม่มีใครคัดด้านได้ในโลก ;

อุเปตา พุทธะธัมเมหิ อัฏฐาระสะหิ นายะกา, ทรงเป็นผู้นำหมู่ชน เพราะประกอบด้วยพุทธธรรม ๑๘ ประการ ;

ท๎วัตติงสะลักขะณูเปตาสีต๎ยานุพ๎ยัญชะนาธะรา, ทรงประกอบด้วยมหาบุรุษลักษณะ ๓๒ ประการ และ อนุพยัญชนะ ๘๐ ประการ ;

พ๎ยามัปปะภายะ สุปปะภา, ทรงมีพระรัศมีอันงดงาม แผ่ออกจากพระวรกายโดยรอบข้างละวา ;

สัพเพ เต มุนิกุญชะรา, ทุก ๆ พระองค์ ทรงเป็นพระมุนีผู้ประเสริฐ ;

พุทธา สัพพัญณุโน เอเต สัพเพ ขีณาสะวา ชินา, ทุก ๆ พระองค์ ทรงเป็นพระสัพพัญญู เป็นพระขีณาสพเป็นผู้ชำนะซึ่งพญามาร ;

มะหัปปะภา มะหาเตชา, ทรงมีพระรัศมี และพระเดชมาก ;

มะหาปัญญา มะหัพพะลา, ทรงมีพระปัญญา และพระกำลังมาก ;

มะหาการุณิกา ธีรา, ทรงมีพระมหากรุณา และทรงเป็นจอมปราชญ์ ;

สัพเพสานัง สุขาวะหา, ทรงนำความสุขมาให้ แก่สัตว์ทั้งปวง ;

ทีปา นาถา ปะติฏฐา จะ, ทรงเป็นดุจเกาะ เป็นดุจที่พึ่ง และเป็นดุจที่พำนักอาศัย ;

ตาณา เลณา จะ ปาณินัง, ทรงเป็นดุจที่ต้านทาน ซึ่งภัยทั้งปวง เป็นดุจที่หลีกเร้นของสัตว์ทั้งหลาย ;

คะตี พันธู มะหัสสาสา, ทรงเป็นที่ส่งใจถึง ทรงเป็นพวกพ้อง ทรงเป็นที่อุ่นใจอย่างยิ่ง ;

สะระณา จะ หิเตสิโน, ทรงเป็นสรณะ และเป็นผู้ทรงแสวงสิ่งเอื้อเกื้อกูล ;

สะเทวะกัสสะ โลกัสสะ สัพเพ เอเต ปะรายะนา, ทุก ๆ พระองค์ ทรงเป็นที่มุ่งหวังแม้ในเบื้องหน้าแก่ประชาชาวโลก พร้อมทั้งเทวดา ;

เตสาหัง สิระสา ปาเท วันทามิ ปุริสุตตะเม, ข้าพระพุทธองค์ ขออภิวาทพระบาทยุคล ของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่านั้น ด้วยเศียรเกล้า ;

วะจะสา มะนะสา เจวะ วันทาเมเต ตะถาคะเต, และขออภิวาท ซึ่งพระตถาคตเจ้าทั้งหลายเหล่านั้น ผู้ทรงเป็นอุดมบุรุษ พร้อมทั้งวาจา และทางใจด้วย ;

สะยะเน อาสะเน ฐาเน คะมะเน จาปิ สัพพะทา, ทั้งในที่นอน ในที่นั่ง ในที่ยืน แม้ในที่เดินด้วย ในกาลทุกเมื่อ ;

สะทา สุเขนะ รักขันตุ พุทธา สันติกะรา ตุวัง, ขอพระพุทธเจ้า ผู้ทรงสร้างสันติ จงรักษาท่านให้มีความสุขตลอดกาลทุกเมื่อเถิด ;

เตหิ ต๎วัง รักขิโต สันโต, ท่านเป็นผู้ที่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ทรงรักษาแล้ว ;

มุตโต สัพพะภะเยนะ จะ, จงเป็นผู้พ้นจากภัยทั้งปวง ;

สัพพะโรคะวินิมุตโต, พ้นจากโรคทั้งปวง ;

สัพพะสันตาปะวัชชิโต, หายจากความเดือดร้อนทั้งปวง ;

สัพพะเวระมะติกกันโต, ล่วงเสียซึ่งเวรทั้งปวง ;

นิพพุโต จะ ตุวัง ภะวะ, และดับทุกข์ทั้งปวงได้เถิด ;

เตสัง สัจเจนะ สีเสนะ ขันติเมตตาพะเลนะ จะ, ด้วยสัจจะ ด้วยศีล และด้วยกำลังแห่งขันติ และเมตตาของพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ;

เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ, ขอพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ จงตามรักษาซึ่งท่านทั้งหลาย ;

อาโรค๎เยนะ สุเขนะ จะ. ให้เป็นผู้มีความสุข ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน.

ปุรัตถิมัส๎มิง ทิสาภาเค สันติ ภูฅา มะหิทธิกา, เหล่าภูตทั้งหลาย ผู้มีฤทธิ์มาก ที่สถิตอยู่ในทิศบูรพา ;

เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ, แม้ภูตเหล่านั้น จงตามรักษาซึ่งท่านทั้งหลาย ;

อาโรค๎เยนะ สุเขนะ จะ. ให้เป็นผู้มีความสุข ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน. 

ทักขิณัส๎มิง ทิสาภาเค สันติ เทวา มะหิทธิกา, เทวดาทั้งหลาย ผู้มีฤทธิ์มาก ที่สถิตอยู่ในทิศทักษิณ ;

เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ, แม้เทวดาทั้งหลายเหล่านั้น จงตามรักษาซึ่งท่านทั้งหลาย ;

อาโรค๎เยนะ สุเขนะ จะ. ให้เป็นผู้มีความสุข ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน.

ปัจฉิมัส๎มิง ทิสาภาเค สันติ นาคา มะหิทธิกา, พญานาคทั้งหลาย ผู้มีฤทธิ์มาก ที่สถิตอยู่ในทิศปัจฉิม ;

เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ, แม้พญานาคเหล่านั้น จงตามรักษาซึ่งท่านทั้งหลาย ;

อาโรค๎เยนะ สุเขนะ จะ. ให้เป็นผู้มีความสุข ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน.

อุตตะรัส๎มิง ทิสาภาเค สันติ ยักขา มะหิทธิกา, ยักษ์ทั้งหลาย ผู้มีฤหธิ์มาก ที่สถิตอยู่ในทิศอุดร ;

เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ, แม้ยักษ์เหล่านั้น จงตามรักษาซึ่งท่านทั้งหลาย ;

อาโรค๎เยนะ สุเขนะ จะ, ให้เป็นผู้มีความสุข ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน ;

ปุริมะทิสัง ธะฅะรัฏโฐ, ท้าวธตรฐ อยู่ประจำทิศบูรพา ;

ทักขิเณนะ วิรุฬหะโก, ท้าววิรุฬหก อยู่ประจำทิศทักษิณ ;

ปัจฉิเมนะ วิรูปักโข, ท้าววิรูปักษ์ อยู่ประจำทิศปัจฉิม ;

กุเวโร อุตตะรัง ทิสัง, ท้าวกุเวร อยู่ประจำทิศอุดร ;

จัตตาโร เต มะหาราชา, ท้าวมหาราชทั้ง ๔ นั้น ;

โลกะปาลา ยะสัสสิโน, เป็นผู้มียศ คุ้มครองรักษาโลกอยู่ ;

เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ, แม้ท้าวมหาราชทั้ง ๔ นั้น จงตามรักษาซึ่งท่านทั้งหลาย ;

อาโรค๎เยนะ สุเขนะ จะ. ให้เป็นผู้มีความสุข ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน.

อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวา นาคา มะหิทธิกา, เทวดาผู้ประเสริฐทั้งหลาย ผู้มีฤทธิ์มาก ที่สถิตอยู่โนอากาศก็ดี สถิตอยู่บนภาคพื้นก็ดี ;

เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ, แม้เทวดาเหล่านั้น จงตามรักษาซึ่งท่านทั้งหลาย ;

อาโรค๎เยนะ สุเขนะ จะ. ให้เป็นผู้มีความสุข ปราศจากโรคภัยเบียดเบียนเทอญ.

 

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0016832669576009 Mins