เรื่องที่ ๑๓๘ขายดีจัง
ของในร้านขายดีมาก กระทั่งร้านอื่นๆ ต้องมาพูดทุกวันว่า...
คุณอุทัยวรรณ จันทร์พัฒนโชติ อาชีพค้าขาย เล่าว่าแต่เดิมไม่เคยมาวัดพระธรรมกายเลย ฝากแต่เงินทำบุญมากับผู้อื่น เพิ่งมาวัดครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๑ ได้เห็นปรากฏการณ์อัศจรรย์ตะวันแก้วพอดี รู้สึกปีติมากและมีศรัทธาในพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น
ก่อนเข้าวัด ราวเดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ เพื่อนชวนสร้างองค์พระที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์ ก็ยังไม่มีเงิน เพื่อนจึงชวนสร้างองค์พระ ๑ หมื่นบาท ยังขาดเงินอยู่อีก ๔ พันบาท จึงนำทองที่มีอยู่ ๑ บาทไปขาย มีบางคนตำหนิ
ก็ชี้แจงตอบไปว่า ทองคำนั้นมีเงินเมื่อใดก็ซื้อใส่ใหม่ได้ แต่ทำบุญสร้างองค์พระ มีจำนวนจำกัด หมดแล้วหมดเลย รวมทั้งพระของขวัญพระมหาสิริราชธาตุก็ทำนองเดียวกัน เป็นของล้ำค่า หายาก หมดแล้วหมดเลย ไม่ใช่ของหาซื้อได้ อีกประการหนึ่งคนบางคนหาความสุขใส่ตัวด้วยการซื้อของ ด้วยการไปเที่ยว ด้วยการเก็บเงินไว้ในธนาคาร แต่คุณอุทัยวรรณยืนยันว่า ถ้าได้ทำบุญแล้วเป็นความสุขของเธอ สุขยิ่งกว่าการเก็บทอง ดังนั้นจึงไม่ควรตำหนิกัน
เมื่อทำบุญสร้างองค์พระไปแล้ว ถึงแม้ยังไม่ได้รับพระมหาสิริราชธาตุมา แต่เธอก็รำลึกถึงท่านเสมอๆ หมั่นนึกอาราธนาท่านจากในรูปภาพมาตั้งไว้ที่ศูนย์กลางกายด้วยความเคารพรักและศรัทธาอย่างเปี่ยมล้น
ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ คุณอุทัยวรรณนำสินค้าไปขายยังสถานที่ของหน่วยงานแห่งหนึ่ง มีรองเท้าเกือบ ๑๐๐ คู่ ผ้าบาติค ๓๐ ชุด ก่อนไปก็ได้ทำใจไว้แล้ว เพราะเป็นเวลาใกล้ปลายเดือน คนคงไม่ใคร่มีเงินซื้อ แต่ก็ไม่ลืมอธิษฐานขอพรพระมหาสิริราชธาตุ ขอให้ขายสินค้าดีมีกำไร ขอพรทั้งๆ ที่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นผลสำเร็จ เพราะไม่ใช่สินค้าจำเป็นรีบด่วนที่จะต้องรีบซื้อรีบใช้แต่อย่างใด
แต่เรื่องแปลกประหลาดอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น เริ่มขาย ๗ โมงเช้า ยังไม่ถึงเที่ยง รองเท้าไม่มีเหลือแม้แต่คู่เดียว ผ้าบาติคเหลืออยู่ ๔ ตัว คนขายของที่อยู่ใกล้เคียงมามุงด้วยความฉงนสนเท่ห์ ถามคุณอุทัยวรรณว่า มีคาถาอะไร
เมื่อพบความศักดิ์สิทธิ์เป็นครั้งแรกดังนี้ คุณอุทัยวรรณจึงตั้งใจจะไปวัดสักครั้ง จึงได้เดินทางมาวัดในวันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๑ และก็ได้เห็นอัศจรรย์ตะวันแก้ว มีดวงแก้วใสซ้อนดวงอาทิตย์ ทำให้เกิดวงแหวนเหมือนสุริยคราส แต่เป็นดวงขาวใสบังพระอาทิตย์ มีรัศมีสีชมพูเปล่งประกายออกมารอบดวงสวยงามมาก จ้องดูได้ไม่แสบตา เหตุการณ์นั้นทำให้คุณอุทัยวรรณเกิดความปีติและประทับใจมากจากวันนั้นเป็นต้นมา คุณอุทัยวรรณพยายามไปที่วัดทุกวันอาทิตย์ ฟังธรรม ปฏิบัติธรรม ครั้งแรกๆ รู้สึกแปลกใจมากว่า ทำไมหลวงพ่อที่วัดนี้ไม่พูดสอนมากๆ เหมือนกับวัดอื่น ท่านสอนน้อย แต่ให้นั่งสมาธิมากๆ กลับไปบ้านได้ฝึกนั่งสมาธิเป็นประจำสม่ำเสมอ จึงได้ทราบว่า ทำตามคำสอนของท่านแล้ว รู้ว่าความดีเป็นอย่างไร ทำอย่างไรความดีถึงจะเกิด รู้ได้โดยไม่ต้องให้หลวงพ่อนั่งพูดแจกแจงรายละเอียดปลีกย่อย การรู้ได้เองนั้น ทำให้เข้าใจอะไรๆ ได้ลึกซึ้งแจ่มแจ้ง สอนตนเองเป็น
คุณอุทัยวรรณได้พบอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุอีกเรื่องหนึ่ง คือคืนหนึ่งขณะนอนอยู่ สายสร้อยห้อยพระไพล่ไปอยู่ด้านหลัง เกรงว่าองค์พระจะถูกทับแตก จึงจับหมุนให้องค์พระมาอยู่ด้านหน้า บังเอิญนิ้วมือจับถูกองค์ท่านด้านหน้าที่เป็นหิน รู้สึกนิ่มๆ หนืดๆ เหมือนจับหมากฝรั่ง รู้สึกตกใจมากคิดว่านอนทับพระแตกไปแล้ว รีบลุกขึ้นถอดออกมาดู องค์พระเป็นปกติ ไม่มีอะไรเสียหาย คิดว่าท่านคงทำปาฏิหาริย์ให้ดู
เธอได้หมั่นสวดสรรเสริญ ทำสมาธิอธิษฐานจิตทุกวัน ของในร้านขายดีมาก กระทั่งร้านอื่นๆ ต้องมาพูดทุกวันว่า
"ขายดีจังนะ" คุณอุทัยวรรณก็ตอบอย่างเดิมทุกวันว่า
ขายดีเพราะไปวัดพระธรรมกาย ได้เห็นอัศจรรย์ตะวันแก้ว ได้ทำบุญสร้างองค์พระ และได้รับพระของขวัญพระมหาสิริราชธาตุ ได้ฟังธรรมล้วนๆ และปฏิบัติธรรม ตอบแล้วก็ชักชวนให้ไปวัดพระธรรมกายด้วยกัน
มีอยู่วันหนึ่ง คนในร้านซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างกันนัก ได้อ่านหนังสือพิมพ์ที่มีข่าวโจมตีวัด คุณอุทัยวรรณเปิดร้านแล้วไม่ยอมนั่งขายเอง กลับไปอธิบายชี้แจงให้คนผู้นั้นเข้าใจวัดให้ถูกต้อง ตั้งแต่ ๑๐ โมงเช้าจนถึงบ่าย ๒ โมง กระทั่งฝ่ายนั้นเข้าใจถูกต้อง บอกว่าเย็นนี้จะลองหัดนั่งสมาธิบ้าง และขอบใจที่เสียเวลาอธิบาย จนไม่ได้ขายของเลย
คุณอุทัยวรรณไม่รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ขายของ กลับพอใจที่ได้ทำหน้าที่ช่วยงานวัด อธิบายให้คนเข้าใจถูกต้อง
กำลังจะปิดประตูร้านเลิกขาย ปรากฏว่ามีลูกค้าเดินมาซื้อเหมาสินค้าหมดเลยทีเดียว คนแถวนั้นแปลกใจไปตามๆ กัน บุญทันตาเห็นอะไรเช่นนั้น
วันนั้นรู้สึกมีปีติมาก ขณะเดินทางกลับบ้านกำลังจะต่อรถเมล์ไปบ้านเพื่อน เพื่อนำหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุไปมอบให้ รู้สึกปวดศีรษะจนปวดร้าวไปทั้งศีรษะ แต่เมื่อได้คิดว่าสมัยหลวงพ่อวัดปากน้ำมีชีวิตอยู่ สุขภาพท่านไม่ดี ท่านยังไม่ยอมหยุดสั่งสอนอบรมผู้คน เมื่อเร็วๆ นี้ หลวงพ่อธัมมชโยเป็นไข้หวัด ทั้งไอ และเสียงแหบ ท่านก็ยังอดทนสอนผู้คนในสภาธรรมกายสากล ทำให้เธอมีกำลังใจเดินทาง ทั้งๆ ที่เริ่มไม่สบาย
พอตัดใจทำหน้าที่เท่านั้นเอง เหมือนบุญบันดาล หายปวดศีรษะเป็นปลิดทิ้ง
วันรุ่งขึ้น เพืิ่อนบ้านที่คุณอุทัยวรรณไปอธิบายเรื่องสื่อหนังสือพิมพ์มาหาที่ร้าน เพื่อสอบถามว่าเขาได้นั่งสมาธิเมื่อคืนอย่างนั้นๆ ถูกต้องหรือไม่ คุณอุทัยวรรณยืนยันว่าถูกต้อง ฝ่ายนั้นได้ถามต่อว่า ทำไมขายของดี คุณอุทัยวรรณก็อธิบายอย่างที่เคยอธิบายต่อผู้อื่น
คือไปทำบุญที่วัดพระธรรมกาย ทางวัดยินดีต้อนรับให้ทุกคนไปปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านก็สอนให้ทำสมาธิ สอนตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เธอย้ำว่า
"ดิฉันรู้สึกซาบซึ้งในบุญมากๆ และตั้งใจจะตอบแทนพระเดชพระคุณหลวงพ่อให้ถึงที่สุดด้วยการตั้งใจทำความดี สร้างบารมีต่อไป โดยไม่มีข้อแม้และเงื่อนไข"