เรื่องที่ ๑๔๕พลิกใจแม่
เมื่อเดินกลับเข้าบ้าน พบคุณแม่คราวนี้รู้สึกแปลกใจเป็นที่สุด แม่เดินยิ้มออกมาต้อนรับ
ดูแจ่มใสมาก ชั่วเวลาเพียง ๑๐ นาที คุณแม่เปลี่ยนไปได้อย่างไร
คุณสุมิตร สายใยทอง อยู่ที่เกียรติงามวงศ์อพาทเม้นท์ ถนนงามวงศ์วาน จ.นนทบุรี เล่าว่า เข้าวัดมาราว ๕ ปีแล้ว เคยบวชธรรมทายาทอยู่ครั้งหนึ่ง ไม่เคยชวนใครทำบุญ เพราะที่บ้านมีคุณแม่ต่อต้านวัดพระธรรมกายมาก
เมื่อวันที่ ๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ คุณสุมิตรได้เห็นปรากฏการณ์อัศจรรย์ตะวันแก้ว ทำให้ใจมีพลังศรัทธาเกิดขึ้นอย่างเต็มเปี่ยม ตั้งใจชักชวนผู้คนทำบุญสร้างองค์พระให้เต็มกำลังความสามารถ จึงเริ่มออกชวนคนทำบุญ
วันหนึ่งกลับมาถึงบ้านตอนค่ำ บอกคุณแม่ว่า "วันนี้ผมชวนคนทำบุญสร้างองค์พระได้ ๔ องค์ แม่อนุโมทนากับเขาด้วยนะครับ" แทนที่จะได้ยินคำอนุโมทนาว่า สาธุ กลับได้ยินคำติเตียนค่อนขอดอย่างรุนแรง คุณสุมิตรเหน็ดเหนื่อยในการเดินทางมาทั้งวัน พบความผิดหวังจากมารดาซ้ำสอง ทำให้รู้สึกเสียใจมากที่สุด จึงเดินออกไปสงบสติอารมณ์นอกบ้าน พูดกับรูปภาพพระมหาสิริราชธาตุว่า "ลูกไม่เคยย่อท้อในการทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้ผู้อื่น แต่มาหมดกำลังใจท้อแท้ก็ที่แม่ผู้เป็นบุพการีเพียงคนเดียวนี่เอง แม่ไม่ยอมเข้าใจผมเลย ขออำนาจอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุช่วยให้แม่ของผม ผู้ที่รักที่สุดคนนี้ ยอมเข้าใจในสิ่งที่ผมทำด้วยเถิด"
เมื่อใจสงบได้พอสมควร คุณสุมิตรเดินกลับเข้าบ้าน พบคุณแม่คราวนี้รู้สึกแปลกใจเป็นที่สุด คุณแม่เดินยิ้มต้อนรับ ดูแจ่มใสมาก ชั่วเวลาเพียง ๑๐ นาที คุณแม่เปลี่ยนไปได้อย่างไร เมื่อลองเลียบเคียงไต่ถามจึงทราบว่า ขณะคุณสุมิตรเดินออกไป เจ้าหน้าที่ทางวัดชื่อคุณพรพิมล โทรศัพท์มาหาคุณสุมิตร แต่คุณสุมิตรไม่อยู่ เธอจึงพูดสายกับคุณแม่ โดยไม่ทราบว่าแม่ลูกกำลังขัดใจกัน และได้พูดชักชวนให้คุณแม่ไปปฏิบัติธรรม ได้อธิบายประโยชน์ต่างๆ ทำให้คุณแม่เข้าใจ ทั้งยังต่อว่าลูกชายด้วยว่า "ทำไมชวนแต่คนอื่นสร้างพระ ไม่ชวนแม่บ้าง"
ปัจจุบันนี้คุณแม่ของคุณสุมิตร ได้สร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวแล้ว และสวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น เป็นประจำ อีกทั้งก็สามารถจำบทสวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุได้ภายในวันเดียว นั่งสมาธิก็ได้ผลดีมาก สุขภาพแข็งแรงขึ้นทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ท่านป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเส้นเลือดสูง หมอนหนุนกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท ทำให้มีอาการเจ็บปวดตามร่างกายมาก