เรื่องที่ ๑๖๓ช่วยได้ทันการณ์
ทันใดนั้นมีรถมอเตอร์ไซค์วิ่งมาด้วยความเร็วสูงเฉี่ยวตัวเธอล้ม สามีหันกลับมาเห็นพอดี
จึงรีบคว้าแขนภรรยา ฉุดให้ลุกขึ้นจากพื้นถนน
คุณกรจิรวัฒน์ แสงทอง และคุณยุพานิส แสงทอง อยู่ที่ ซอยสุทธิสาร กทม. เล่าว่า ได้มาทำบุญสร้างองค์พระไว้ ๓ องค์ แต่ยังไม่ถึงกำหนดรับพระของขวัญ จึงตัดเอารูปภาพพระมหาสิริราชธาตุไปเลี่ยมกรอบพลาสติก แขวนคอไว้บูชา ทั้งสามีภรรยา หมั่นสวดสรรเสริญอยู่เสมอทุกวันเช้าวันหนึ่งทั้งคู่พากันไปออกกำลังกายที่สวนลุมพินี ขากลับกำลังเดินข้ามถนนก็พากันสวดสรรเสริญอยู่เรื่อยมา สามีสวดจบก่อน ภรรยากำลังจะจบ สามีข้ามถนนพ้นแล้ว ภรรยายังไม่ทันพ้นดี ทันใดนั้นมีรถมอเตอร์ไซค์วิ่งมาด้วยความเร็วสูงเฉี่ยวตัวเธอล้ม สามีหันกลับมาเห็นพอดี จึงรีบคว้าแขนภรรยา ฉุดให้ลุกขึ้นจากพื้นถนน ออกมานั่งพับเพียบอยู่ที่ทางเท้า ส่วนรถมอเตอร์ไซค์ก็ล้มลง คนขับถูกรถเหวี่ยงกระเด็น แล้วตัวเขาก็ครูดไปกับถนนบาดเจ็บถลอก รถกระเด็นกระดอนพังเสียหายภรรยาพูดกับคุณกรจิรวัฒน์ว่า โชคดีที่หันไปคว้าตัวออกจากพื้นถนนทัน มิฉะนั้นรถมอเตอร์ไซค์ต้องชนเข้ากลางลำตัวไม่ตายก็อาการหนัก ยืนยันด้วยว่าตอนฉุดตัวนั้น ร่างกายของภรรยาเบามากเหมือนปลิวลมได้ราวกับว่ามีคนช่วยผลักอีกแรงหนึ่ง สามีชี้แจงว่าต้องเป็นเพราะใจที่ยึดมั่นในอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุแท้ ๆ ทำให้เกิดอานุภาพแห่งพุทธานุภาพขึ้นสำหรับอีกเรื่องที่พบคือ ในคราวไปเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่กับญาติๆ ขณะที่ขับรถขึ้นดอยบุษราคัม ปรากฏว่ารถขับไม่ขึ้น เครื่องเกิดดับกระทันหัน สตาร์ทเครื่องเท่าไรก็ไม่ยอมติด รถก็คอยถอยหลังอยู่เรื่อยๆ ทุกคนเกรงจะถอยไปชนรถคันหลังที่ขับตามมา จึงพากันลงจากรถ เหลือแต่เพียงสามีภรรยา เพราะฝ่ายภรรยาคิดว่า ถ้าจะเกิดอุบัติเหตุเป็นอันตรายอะไรก็ขอเป็นพร้อมกับสามีพร้อมกับนึกถึงพระมหาสิริราชธาตุ มองดูที่หน้าอกของสามี ไม่เห็นภาพพระห้อยอยู่ที่คอ จึงถามถึงสามีฟังแล้วสะดุ้งนึกขึ้นได้และนึกถึงองค์พระทันทีแล้วรีบคว้าจากด้านหลังนำมาไว้ด้านหน้า เพราะเมื่อจอดพักรถเพื่อล้างหน้า ด้วยเกรงองค์พระจะเปียกจึงไพล่ท่านไปไว้ข้างหลังแล้วลืม และจากนั้นเป็นเรื่องที่น่าแปลก พอนึกถึงองค์พระไว้ในใจตลอดเวลา แล้วลองสตาร์ทเครื่อง อีกครั้งก็ติดขึ้นมาอย่างง่ายๆ จึงทำให้รถสามารถขับขึ้นไปสูู่่ยอดดอยได้โดยที่ไม่ต้องไหลชนกับรถคันที่อยู่ด้านหลังที่กำลังขับตามมาติดๆดอยแห่งนี้ คุณกรจิรวัฒน์เคยมาบ่อยและจำทางได้แม่น แต่มาคราวนี้รู้สึกงงๆ เพราะในตอนนั้นมืดมากและรู้สึกว่ากำลังหลงทาง แต่พอนึกถึงพระไว้ในใจและห้อยภาพพระไว้ด้านหน้าเป็นปกติ ความจำก็แจ่มใสและสดชื่นขึ้น ทั้งยังนึกถึงหนทางที่ตนเองเคยมาได้ทันที จึงเล่าอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุที่ตนเองได้ประสบให้หมู่ญาติที่ไปด้วยฟัง ต่างพากันเลื่อมใสศรัทธา และยังสร้างพระธรรมกายประจำตัวเพิ่มอีกรวมเป็น ๙ องค์การสวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุอยู่เสมอนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นในจิตใจแน่นอนคือ ความมีสติเมื่อเกิดอุบัติเหตุในครั้งแรก สามีเพิ่งสวดจบ ด้วยสัญชาติญาณเมื่อตนเองข้ามถนนพ้นแล้ว จึงหันกลับไปดูภรรยา ทำให้ทันเห็นเหตุการณ์ เมื่อมีสติบริบูรณ์ย่อมสามารถตัดสินใจช่วยลากแขนภรรยาให้ลุกจากพื้นถนนทันเวลา ก่อนที่รถมอเตอร์ไซค์จะพุ่งเข้าชนกลางตัวส่วนครั้งหลังนั้น เมื่อนึกได้ถึงภาพพระมหาสิริราชธาตุ นำท่านมาแขวนไว้ด้านหน้าตามเดิม รถก็สามารถสตาร์ทติดได้อย่างอัศจรรย์ย่อมทำให้เกิดรู้สึกสบายใจ ดีใจ ใจที่รู้สึกสบายทำให้คลายความวิตกกังวลได้เป็นอย่างดี ความจำย่อมพลันแจ่มใสนึกอะไร ๆ ออก จำหนทางได้ 
