เรื่องที่ ๑๖๔พระทำหน้าที่แทน
พระที่ห้อยอยู่เป็นพระอะไรสวยจัง เห็นเป็นแสงเปล่งประกายออกมาจากองค์ท่านเลย ขอดูหน่อยสิ
คุณวิสุทธิ์ พึ่งประดิษฐ์ อาชีพนักธุรกิจ ในยุคนี้การงานไม่ราบรื่น แม้ได้งานมา การเงินก็สะดุด มีปัญหากับผู้ว่าจ้างเสมอ คุณวิสุทธิ์ได้ทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวประดิษฐานที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์ และได้รับพระของขวัญพระมหาสิริราชธาตุกรอบพญานาคไปแล้ว แต่ยังไม่เคยได้อธิษฐานขอพรอะไร เมื่อการเงินสะดุดมาก จึงตั้งจิตอธิษฐานขอพร อธิษฐานไปแล้วก็ยังไม่แน่ใจ คิดเกรงไปต่างๆ ทำนองไม่เชื่อว่าจะได้สำเร็จตามที่อธิษฐาน ซึ่งในที่สุดฝ่ายผู้ว่าจ้างก็ขอเลื่อนการจ่ายเงินออกไปจริงๆคุณวิสุทธิ์จึงอธิษฐานใหม่ โดยคิดว่าต้องสำเร็จๆ ทำบ่อยๆ โดยไม่ต้องทวงถามกับผู้ว่าจ้างอีกเลย แกล้งลืมเวลาไปชั่วคราว แล้วจึงไปถามกับธนาคาร ปรากฏว่ามีเงินโอนเข้าบัญชีมาแล้วสมดังคำอธิษฐานจริงๆจากนั้นคุณวิสุทธิ์ก็อธิษฐานขอให้มีทรัพย์สินเข้ามาเพื่อจะได้นำเงินไปทำบุญ รวมทั้งจะชวนผู้อื่นมาร่วมทำบุญด้วย โดยตั้งใจจะสร้างองค์พระบูชาคุณครูบาอาจารย์ให้ครบ และสร้างให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวด้วย ก็สามารถทำได้สำเร็จ สร้างองค์พระธรรมกายที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์ไปถึง ๗ องค์ และแม้กระทั่งมอบภาพองค์พระมหาสิริราชธาตุให้กับเพื่อนนำไปลองอธิษฐานจิตดู ก็ปรากฏว่าสำเร็จเป็นอัศจรรย์ไปตามๆ กันต่อมามีบริษัทจากต่างประเทศแห่งหนึ่ง สนใจจะนำสินค้างานหัตถกรรมที่ จ.เชียงใหม่ ไปเปิดแสดงในแถบประเทศทางยุโรป จึงขอให้ช่วยจัดประชุมผู้ที่ประกอบการที่ทำอาชีพนี้ขึ้นที่เชียงใหม่ คุณวิสุทธิ์ไม่เคยทำมาก่อนเลย แต่เมื่อนึกถึงคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่ว่า"อย่าปฏิเสธงานที่ไม่เคยทำมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กหรืองานใหญ่ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับใจของเรา ถ้าใจสู้ซะอย่าง ก็จะสำเร็จทุกเรื่อง" คุณวิสุทธิ์จึงรับทำงานนี้ทางบริษัทขอให้จัดประชุมให้ได้ประมาณ ๔๐๐ คน โดยเช่าห้องประชุมให้มีขนาดใหญ่กะคนได้ประมาณ ๖๐๐-๑๐๐๐ คน เป็นงานที่คุณวิสุทธิ์ต้องขอความร่วมมือจากเพื่อนๆ หลายคน เพื่อนบางคนที่คุ้นเคยกับงานประเภทนี้ถึงกับออกปากว่า "ไม่มีทางสำเร็จ คนทางเชียงใหม่เป็นคนขี้เกรงใจคน ใครมาขอความร่วมมือก็จะรับปากไว้หมด เมื่อถึงเวลาอาจจะมาหรือไม่มาเป็นอีกเรื่องหนึ่งคุณวิสุทธิ์รู้สึกกังวลใจอยู่ไม่น้อย จึงอธิษฐานขอพรพระมหาสิริราชธาตุอยู่เสมอ ในที่สุดการประชุมก็สำเร็จไปได้ด้วยดี มีคนมาเข้าประชุมถึง ๖๔๐ คนหลังจากงานประชุมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้มาช่วยงานบอกบุญสร้างองค์พระ ปิดยอดจำนวนองค์พระธรรมกายประจำตัวภายนอกมหาธรรมกายเจดีย์ ซึ่งมีกำหนดให้เสร็จภายในวันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๑ คุณวิสุทธิ์และภรรยาช่วยกันชวนผู้คนทำบุญเต็มที่ ใครไม่สะดวกในการจ่ายเงินสด ก็จะช่วยเซ็นต์เช็คให้วันที่ ๒๑ กันยายน มีธุระต้องติดต่อกับคุณประสาน และคุณสำรวย เรื่องที่ดินที่จังหวัดเชียงใหม่ คุณวิสุทธิ์คิดจะบอกบุญสร้างองค์พระด้วย แต่เมื่อพบกันพูดธุระกันแล้ว ยังไม่ได้มีโอกาสชวน ใจของคุณวิสุทธิ์มัวคิดลังเลว่า "จะชวนดีไหม"ในที่สุดก่อนจะลากลับก็ยังไม่กล้าชวนทำบุญ กระทั่งคุณสำรวยถามขึ้นว่า "พระที่ห้อยอยู่เป็นพระอะไรสวยจัง เห็นเป็นแสงเปล่งประกายออกมาจากองค์ท่านเลย ขอดูหน่อยสิ"คุณวิสุทธิ์ฟังแล้วขนลุก ตนเองไม่กล้าบอกบุญ มัวลังเลโอ้เอ้ พระมหาสิริราชธาตุท่านเลยบอกบุญแทนให้เสร็จ คุณวิสุทธิ์จึงได้อธิบายรายละเอียดต่างๆ วันเสาร์ต่อมาทั้งคู่ก็ได้นำเงินสดมาทำบุญที่วัดทันทีในระยะที่ชวนผู้คนมาทำบุญสร้างองค์พระภายนอกมหาธรรมกายเจดีย์ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๑ คุณวิสุทธิ์และภรรยาชักชวนได้สะดวกมาก โดยก่อนไปชักชวนได้อธิษฐานจิตขอพรต่อพระมหาสิริราชธาตุทุกครั้ง ประสบความสำเร็จด้วยดี บางวันคุณอภิรดี ภรรยาของคุณวิสุทธิ์สามารถบอกบุญได้ถึง ๑๑ องค์คุณวิสุทธิ์กล่าวในตอนท้ายว่า "ถ้าอยากจะเห็นผลบุญทันตา ต้องทำหน้าที่ผู้นำบุญที่ดีด้วย ไม่ใช่ทำบุญเฉพาะตัว แล้วมานั่งๆ นอนๆ ภูมิใจตัวเองตามลำพัง ซึ่งจะเป็นความปีติไม่มากเท่ากับการที่ ตนเองก็ทำ และชวนคนอื่นด้วย การพูดชวนคนอื่น จะปีติทุกครั้งที่พูด ใจขยายพองโต ระลึกถึงบุญอยู่เสมอ ผลบุญเกิดเร็วกว่าธรรมดา" 
