เรื่องที่ ๑๙๑ หายวัน หายคืน
ทางบ้านไม่นึกเลยว่าจะหาย เพราะพี่ชายของคนป่วยก็ประสบอุบัติเหตุแบบเดียวกัน แต่ก็เสียชีวิตแล้ว ทว่าเขากลับ...
|
|
คุณเพียรใจ โรจนสินวิไล
ช่วยอธิษฐานจิตให้หายวันหายคืน
|
|
|
|
คุณเพียรใจ โรจนสินวิไล เจ้าของซุปเปอร์มาร์เก็ต จังหวัดสระบุรี เล่าว่า ตนเองไม่เคยสนใจเรื่องศาสนามาก่อน เมื่อสมัยเป็นนิสิตอยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พอมีเวลาว่างก็ไปดูหนังบ้าง เดินซื้อของบ้าง พอขึ้นปีสองก็เริ่มเบื่อ หันมาดูงานชมรมต่างๆ ในมหาวิทยาลัย ในที่สุดเพื่อนได้ชวนไปช่วยงานของชมรมพุทธ ซึ่งขณะนั้นกำลังรับสมัครบวชอบรมธรรมทายาท จึงเริ่มเกิดศรัทธาขึ้น ได้เข้ามาช่วยงานวัดเป็นครั้งคราว เมื่อเรียนจบแล้วก็ทำงานในครอบครัว จึงได้ถือโอกาสแบ่งพื้นที่ห้างสรรพสินค้าของตนส่วนหนึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรม คุณเพียรใจได้พบอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุหลายเรื่อง
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คนป่วยค่อยๆ พลิกศีรษะเอียงแนบลงที่รูปของหลวงพ่อ น้ำตาไหลไม่ขาดสาย
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เรื่องแรก คนคุ้นเคยกันชื่อว่า คุณวาสนามาขอให้ช่วยนำองค์พระมหาสิริราชธาตุของคุณเพียรใจไปให้เพื่อนของคุณวาสนา ชื่อคุณแสงรัตน์ รัตนแสง อธิษฐานสักหน่อย ซึ่งเพื่อนคนนี้ ได้รับอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถมอเตอร์ไซค์ของตนเอง อาการสาหัส ในสมองมีเลือดคั่งอยู่มาก รับคำสั่งอะไรไม่ได้เลย ดวงตาเลื่อนลอย
คุณเพียรใจจำได้ว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโวได้เคยสอนไว้ว่า ถ้าไปเยี่ยมคนไข้ที่อาการหนัก อย่าบอกให้คนไข้พยักหน้าหรือยกมือ เพราะคนไข้ไม่มีแรง ให้ใช้วิธีบอกให้เขากระพริบตา คุณเพียรใจจึงนำไปปฏิบัติตาม ทั้งๆ ที่ได้เห็นสภาพคนไข้แล้วไม่มีความหวังอะไร เพราะสภาพของคนป่วยนั้น ศีรษะบวมใหญ่มาก ถูกโกนศีรษะหมด ที่ศีรษะมีท่ออะไรต่อออกมามากมาย มีน้ำเหลือง น้ำเลือดออกมาจากท่อนั้นด้วย
คุณเพียรใจให้คนป่วยดูองค์พระมหาสิริราชธาตุของตน ได้กล่าวนำอธิษฐานจิต และให้กระพริบตาว่ารับรู้ คนป่วยก็ทำตามได้ คุณเพียรใจจึงนำพระมหาสิริราชธาตุอีกองค์หนึ่งจากผู้ที่ไปด้วยกันให้คนป่วยกำไว้ในมือ คนป่วยจับไว้องค์หนึ่ง และพยายามเลื่อนมือข้างที่เหลือมาจับองค์ที่ให้ดูอยู่ข้างหน้า จนเป็นท่าพนมมือ คุณเพียรใจก็นำอธิษฐานจิตอีกว่า
"ขอบารมีของพระมหาสิริราชธาตุ ให้ช่วยปกปักรักษาคุ้มครองให้หายวันหายคืน ให้มีชีวิตยืนยาว มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สามารถสร้างบารมีได้สะดวก" คนป่วยคงนึกตาม เพราะเห็นคนป่วยมีน้ำตาไหลอกมา และมองคุณเพียรใจเหมือนเห็นที่พึ่ง คุณเพียรใจได้มอบหนังสือที่มีหน้าปกเป็นรูปหลวงพ่อวัดปากน้ำ บอกให้เขานึกถึงท่าน และขอพรพระมหาสิริราชธาตุให้ช่วยคุ้มครองด้วย
คนป่วยค่อยๆ พลิกศีรษะเอียงแนบลงที่รูปของหลวงพ่อ น้ำตาไหลไม่ขาดสาย
หลังจากนั้นอีก ๖ วัน ได้ไปเยี่ยมอีกครั้ง หมอแจ้งว่าคนไข้กลับบ้านได้แล้ว ซึ่งทางบ้านไม่นึกเลยว่าจะหาย เพราะพี่ชายของคนป่วยก็ประสบอุบัติเหตุแบบเดียวกัน แต่ก็เสียชีวิตแล้ว
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
มองเห็นมีดวงสว่างเหมือนดวงแก้ว ลอยพุ่งออกมาจากหนังสือ พอเปิดอ่านอีกก็เกิดเหตุการณ์อย่างเดิม
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เรื่องที่สอง ที่ใกล้ๆ ห้างสรรพสินค้าของคุณเพียรใจ มีร้านอาหารชื่อว่า ธัญรส เจ้าของร้านนี้ไม่เคยรู้จักวัดพระธรรมกายเลย วันหนึ่งมีลูกค้ามารับประทานอาหารแล้วลืมหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุเอาไว้ เจ้าของร้านหยิบมาแล้วเปิดออกดู รู้สึกตกใจและประหลาดใจมาก เพราะมองเห็นมีดวงสว่างเหมือนดวงแก้ว ลอยพุ่งออกมาจากหนังสือ พอเปิดอ่านอีกก็เกิดเหตุการณ์อย่างเดิม ดวงแก้วลอยออกมาแทบจะชนหน้าเอาทีเดียว ในที่สุดเมื่ออ่านจบเล่มแล้ว ก็ร้อนรนทนไม่ได้ คิดอยากจะทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัว และอยากจะได้พระของขวัญพระมหาสิริราชธาตุไว้บูชา แต่ไม่ทราบว่าจะถามใครดี จนกระทั่งมีคนเก็บค่าแชร์มาที่ร้าน บอกว่าจะให้คุณเพียรใจไปพบ เจ้าของร้านดีใจมาก บอกว่าเขาคงพอมีบุญอยู่บ้าง จึงได้มีโอกาสสร้างองค์พระ ได้ถวายปัจจัยกับพระอาจารย์ที่ไปอบรมสอนการปฏิบัติธรรมที่ศูนย์ฯ โดยถวายเงินสร้างองค์พระไป ๓ องค์
เรื่องที่สาม คุณมนสิยา เพื่อนของคนที่เอาสินค้ามาส่งที่ห้างของคุณเพียรใจ ได้อ่านเหตุการณ์ปาฏิหาริย์อัศจรรย์ตะวันแก้ว ที่ลงอยู่ด้านหลังของหนังสือพิมพ์ จึงอธิษฐานว่า ถ้าหากเป็นเรื่องจริง ขอให้มีโอกาสได้ทำบุญ สร้างพระธรรมกายประจำตัวด้วย อธิษฐานได้ไม่กี่วันก็ได้รับเงินมาเปล่าๆ เป็นจำนวนที่พอดีกับเงินทำบุญสร้างองค์พระ เมื่อนำเงินมาทำบุญและได้รับบัตรรับพระของขวัญไปแล้ว คุณมนสิยาดูหมายเลขที่มุมบัตรรับพระ เป็นเลข ๓ หลัก จึงลองอธิษฐานดูว่า ถ้าหากการทำบุญที่วัดนี้ เป็นบุญที่บริสุทธิ์ ไม่ใช่ข่าวอย่างที่หนังสือพิมพ์โจมตีแล้ว ขอให้เลขท้ายลอตเตอรี่ในงวดนั้น ออกตรงกับเลขที่มุมบัตรรับพระ แต่คุณมนสิยาก็ไม่ได้ซื้อลอตเตอรี่ ซึ่งในงวดนั้นลอตเตอรี่ก็ออกตรงตามเลขหัวมุมบัตรรับพระของคุณมนสิยาจริงๆ