![](http://www.kalyanamitra.org/th/images/anuphap/22/images/193.jpg) |
|
คุณประไพ กุดถวัลย์
กับสามีและบุตรสาวที่จะต้องเข้าโรงเรียนอนุบาล |
|
|
|
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
คุณประไพ กุดถวัลย์ จบการศึกษาพยาบาลสาธารณสุข วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต (วท.ม.) จากมหาวิทยาลัยมหิดล ทำงานที่วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีสระบุรี จังหวัดสระบุรี เล่าว่า
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
มีลูกสาววัย ๔ ขวบ จะต้องเข้าโรงเรียนอนุบาล โรงเรียนที่ดีที่สุดประจำจังหวัดสระบุรี แต่การเข้าเรียนมีหลายวิธี บางรายใช้เงินจำนวนหลายๆ หมื่นบำรุงโรงเรียน บางรายใช้บารมีของผู้ใหญ่ แต่ก็ไม่ได้รับความสำเร็จร้อยเปอร์เซนต์ ผู้ปกครองส่วนใหญ่จึงฝากความหวังไว้กับการจับฉลากเสี่ยงดวง ซึ่งทำให้ผู้ปกครองแต่ละรายมักมีอาการวิตกกังวล และเครียดมากไปตามๆ กัน
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
คุณประไพ เป็นผู้ปกครองชนิดต้องอาศัยการจับฉลาก จึงมีอาการเครียดอยู่บ้าง แต่ไม่ได้แสดงออกอะไรมาก คงปลอบใจตนเองด้วยการระลึกถึงบุญกุศลที่ได้ร่วมสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว บุญที่สามีได้มาร่วมบวชอุบาสกแก้ว
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
คุณประไพเล่าว่า ตนเองไม่ใคร่สนใจในเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ เพราะคิดว่าไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้จิตสงบอะไร แต่ยอมรับว่า เมื่อได้มีโอกาสเห็น ทำให้จิตใจเปลี่ยนไป มีความเชื่อมั่นในตนเองว่า บุญเป็นสิ่งมีอยู่จริง
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เห็นแสงสีน้ำเงินเหมือนพระนั่งสมาธิอยู่ข้างๆ ดวงอาทิตย์ แล้วแสงสีน้ำเงินก็เปลี่ยนเป็นสีชมพูอมส้ม
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
วันที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๒ เป็นวันที่คุณประไพมารับสามีกลับจากการบวชอุบาสกแก้ว คุณประไพกับลูกสาวได้เห็นอัศจรรย์ตะวันแก้วด้วยตาตนเอง ดวงอาทิตย์ไม่แผดแสงจ้าอย่างเคย สามารถมองได้อย่างสบายตา เห็นแสงสีน้ำเงินเหมือนพระนั่งสมาธิอยู่ข้างๆ ดวงอาทิตย์ แล้วแสงสีน้ำเงินก็เปลี่ยนเป็นสีชมพูอมส้ม รูปองค์พระที่เห็นเมื่อสักครู่เลื่อนลงจากข้างขวาของดวงอาทิตย์ แล้วลงไปล่าง วนไปซ้าย ไปขวาช้าๆ วนอยู่หลายรอบ แสงสีชมพูอมส้มก็บังดวงอาทิตย์ไว้ คุณประไพอธิบายความรู้สึกไม่ถูก รู้แต่ว่าน้ำตาไหลหลั่งออกมาอย่างไม่อายใคร อุ้มลูกขึ้นมาบอกให้แกมองดู ลูกพูดว่า พระหมุน พระหมุน พระหมุน คุณประไพนึกถึงเรื่องที่ลูกจะต้องเข้าโรงเรียน จึงรีบตั้งจิตอธิษฐานต่อเหตุการณ์อัศจรรย์ในนาทีนั้นว่า "ขอพระท่านโปรดเมตตาให้ลูกสาวตัวน้อยคนนี้จับฉลากเข้าโรงเรียนได้ด้วยเถิด"
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
จากวันนั้นตลอดมา คุณประไพพยายามให้ลูกนั่งสมาธิทุกวัน แม้เพียง ๕ นาทีก็ให้ทำ พร้อมทั้งสวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุให้ลูกฟัง เสร็จแล้วตั้งจิตอธิษฐานขอพรว่า "ขอให้จับฉลากได้นะคะ" ทุกวัน ด้วยความเชื่อมั่นในอานุภาพของพระมหาสิริราชธาตุและบุญกุศลที่ได้เคยทำไว้ เพื่อนที่ทำงานอยู่ที่เดียวกันที่มีลูกต้องจับฉลาก ๔ ราย ชวนให้พาลูกไปเป่ามือ บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ต่างๆ แต่คุณประไพไม่ยอมไป เพราะมั่นใจในอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุที่มีอยู่ทั้ง ๒ องค์มาก
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๒ วันจับฉลาก คุณประไพเครียดมาก ตื่นขึ้นมาทำสมาธิตั้งแต่เวลาตี ๔ ใจรวมนิ่งได้ดีพอสมควร อธิษฐานจิตต่อพระมหาสิริราชธาตุ และพระของขวัญทุกชนิดที่ทางวัดให้มา รวมทั้งครูบาอาจารย์ทุกท่านที่วัดแล้วพูดว่า "ช่วยให้ลูกสาวจับฉลากได้นะคะ" คุณประไพเห็นภาพในสมาธิเหมือนหลวงพ่อและคุณยายมายิ้มให้
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
คนสมัคร ๙๑๓ คน โรงเรียนรับเด็กเพียง ๒๓๐ คน ซึ่งก่อนหน้าที่ลูกของคุณประไพจะจับฉลาก มีคนจับไปแล้ว ๒๕ คน จับได้เพียง ๖ คน ลูกๆ ของเพื่อนร่วมงาน ๔ คนจับไม่ได้แม้แต่คนเดียว แต่ลูกของคุณประไพจับได้ เธอนึกในใจและเชื่อมั่นมากๆ ว่า ได้ด้วยบุญจริงๆ
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
การที่จะได้สิ่งใดๆ ตามใจปรารถนา ต้นเหตุที่แท้จริงมาจากบุญเท่านั้น บุญก็คือกรรมฝ่ายดี ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีจากกายก็ตาม วาจาก็ตาม ใจก็ตาม เรียกว่าเป็นที่เกิดบุญได้ทั้งสิ้น บุญเมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว มีหน้าที่ติดตามส่งผลให้เจ้าของ ทั้งพาให้ไปพบแต่สิ่งดีๆ พบแล้วก็อุปถัมภ์ให้อยู่กับสิ่งดีงามเหล่านั้นนานๆ หากบังเอิญมีบาปกรรมเก่าอื่นใดเกิดตามมาทัน บุญที่มีอยู่จะทำหน้าที่ป้องกัน เบียดกรรมชั่วนั้น ไม่ให้ส่งผลได้เต็มที่ หรือหากมีบุญอยู่มากมาย กรรมชั่วนิดหน่อยตามมาทัน บุญก็ทำหน้าที่ตัดรอนฝ่ายบาปให้สูญสิ้นไป กลายเป็นอโหสิกรรม เลิกตามส่งผล
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
การเห็นปาฏิหาริย์แล้วแต่จิตใจของคน คนดื้อหน่อยก็จะคิดเหมือนคุณประไพในตอนแรก เห็นแล้วไม่ทำให้ใจสงบ หมดกิเลสอะไร คิดอย่างนั้นก็คิดได้ แต่เหมือนกับไก่ได้พลอย เหมือนกับวานรได้แก้ว ไม่รู้ค่าของสิ่งที่เป็นประโยชน์ ถ้าใจรู้จักคิดด้วยอุบายที่แยบคาย การเห็นปาฏิหาริย์ย่อมชักชวนใจให้เกิดความเลื่อมใสในสิ่งที่ควรเลื่อมใส อย่างน้อยประสบการณ์ที่พบเห็นอยู่ นั่นคือผลของการปฏิบัติธรรมระดับหนึ่ง นับเป็นพยานยืนยันความเป็นอกาลิโกของพระธรรม คำสั่งสอนของพระบรมศาสดาว่า ถ้าตั้งใจปฏิบัติจริงเมื่อใด ย่อมเกิดผลสำเร็จให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นเวลาเนิ่นนานจากสมัยพุทธกาลมาแล้วสักเท่าใด เราก็ยังพิสูจน์ได้อยู่เสมอ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
การบำเพ็ญบุญกุศลอยู่เป็นประจำตั้งแต่วัยเด็ก ให้ทาน รักษาศีล ฟังธรรม ปฏิบัติธรรม เหมือนฉีดวัคซีนให้แก่จิตใจ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
คิดได้เพียงเท่านี้ ก็เป็นกำลังใจเหลือหลายของนักสร้างบารมีแล้ว ไม่ควรดื้อดึง
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
โชคดีที่คุณประไพไม่ดื้อ แถมยังรีบอธิษฐานจิตขอพรในขณะเกิดเหตุการณ์อัศจรรย์ อธิษฐานจิตเวลานั้นก็เหมือนต่อสายเชื่อมเข้ากับแหล่งบุญ บุญก็หลั่งไหลเข้าตนเอง ความสำเร็จอะไรๆ จึงเกิดขึ้นเป็นอัศจรรย์
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
อย่างไรก็ตาม ในการดำรงชีวิตอยู่ของชาวโลก ย่อมมีการแข่งขันกันอยู่ทุกรูปแบบ จะเรียนอนุบาลก็ต้องแย่งที่เรียน จะเข้าเรียนชั้นไหนๆ กระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย ก็ต้องแข่งขันแย่งชิงที่เรียนกัน เรียนจบก็ต้องแย่งกันทำงาน ชีวิตชาวโลกจึงดำเนินไปด้วยการแก่งแย่งชิงผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน หากทำใจไม่เป็น ย่อมเครียด กังวล เสียสุขภาพจิต การบำเพ็ญบุญกุศลอยู่เป็นประจำตั้งแต่วัยเด็ก ให้ทาน รักษาศีล ฟังธรรม ปฏิบัติธรรม เหมือนฉีดวัคซีนให้แก่จิตใจ เรื่องในโลกจะวุ่นวายสับสนแค่ไหน คนมีบุญ นึกถึงบุญเป็นที่พึ่ง จะมีทางออกที่ดีงามให้แก่ตนเองเสมอ แม้ไม่คิดอะไรมาก คิดนิดหน่อยว่าเราเกิดอยู่ในโลกนี้แค่ชั่วคราว ไม่กี่ปีก็ทิ้งโลกนี้ไปแล้ว ความยึดถือจะเอาอย่างโน้นอย่างนี้ย่อมจะลดลงไปได้บ้าง ชีวิตจะพอทนอยู่ได้ ไม่เสียสุขภาพจิตจนเกินไป