|
|
คุณนารี (คนซ้าย) และ
คุณชัชฎาภรณ์
|
|
|
|
คุณนารี คงปาน อุบาสิกาของวัดพระธรรมกายเล่าว่า หลังจากที่กลับมาจากสหรัฐอเมริกา ๓ สัปดาห์ ได้โทรศัพท์ไปเยี่ยมพี่สาว ชื่อ คุณชัชฎาภรณ์ เรืองทอง ซึ่งมีอาชีพเป็นพยาบาลประจำห้องผ่าตัดอยู่โรงพยาบาลตากสินมหาราช ที่จังหวัดตาก จึงทราบว่า พี่สาวเป็นโรคกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท มีอาการปวดมาก นอนก็ไม่ได้ หมอเตรียมจะให้ผ่าตัดวันพุธที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๒
คุณนารีทราบข่าว ไม่อยากให้พี่สาวผ่าตัด จึงตั้งใจสวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุ ทำสมาธิอธิษฐานจิต เมื่อคุณนารีไปถึงโรงพยาบาล ได้ทราบว่าหมอเลื่อนการผ่าตัดไปเป็นวันจันทร์ คุณนารีจึงให้พี่สาว และพี่น้องผู้นำบุญร่วมกันทำน้ำมนต์พระมหาสิริราชธาตุให้พี่ดื่ม และขออนุญาตคุณหมอเข้ามารักษาตัวในกรุงเทพฯ ความจริงเพื่อหลีกเลี่ยงการผ่าตัด คุณนารีชวนคุณชัชฎาภรณ์และพี่ๆ น้องๆ ทำบุญสร้างองค์พระรวมกัน ๘ องค์ และพากันสวดสรรเสริญ ทำสมาธิจิตอย่างสม่ำเสมอ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ทำสมาธิจิต ใจสงบสบาย เห็นดวงแก้วผุดขึ้นในศูนย์กลางกายตนเอง นับแต่นั้นอาการต่างๆ ก็หายวันหายคืน
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
วันหนึ่งขณะที่คุณชัชฎาภรณ์ นอนอยู่บนเตียง ทำสมาธิจิต ใจสงบสบาย เห็นดวงแก้วผุดขึ้นในศูนย์กลางกายตนเอง นับแต่นั้นอาการต่างๆ ก็หายวันหายคืน จนกลับไปทำงานตามปกติได้ โดยไม่ต้องรักษา
คุณชัชฎาภรณ์เชื่อมั่นว่าเป็นเพราะอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุอย่างแน่นอน รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของทุกๆ ฝ่าย ที่ดูแลและให้กำลังใจ ยืนยันว่าการเห็นดวงธรรมภายในเป็นความสุขที่แท้จริง เธอตั้งใจว่าเมื่อหายเป็นปกติแล้ว จะทำทาน รักษาศีล และภาวนาอย่างต่อเนื่อง เพราะรู้ว่าวิบากกรรมจะมาตามทันได้ทุกโอกาส จึงไม่ควรประมาท ถ้าเติมบุญอยู่เสมอ แม้จะมีวิบากกรรมตามมาทัน บุญย่อมตัดรอนผ่อนหนักเป็นเบา หรือถ้าเบาอยู่ก็เป็นอโหสิกรรมกันไป
บาปหนักที่สุด ได้แก่อนันตริยกรรม ๕ คือ ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ฆ่าพระอรหันต์ ทำพระพุทธเจ้าห้อพระโลหิต และทำสังฆเภท คือยุยงสงฆ์ให้แตกแยกกัน ในบรรดาบาปใหญ่ทั้ง ๕ นี้ ที่เป็นบาปหนักที่สุดคือ ยุยงสงฆ์ให้แตกแยกกัน
ส่วนการทำกุศลใหญ่ เรียกชื่อว่า มหัคคตกุศล คือการทำจิตให้เป็นสมาธิ หยุดได้นิ่งสนิท ถึงขั้นที่เรียกว่าได้ฌาน การได้ฌานจิตเป็นมหากุศลใหญ่ตัดรอนวิบากกรรมฝ่ายชั่วให้เบาบาง หรือหมดกำลังลงได้ ดังนั้นคนไม่ประมาท จึงหมั่นประกอบบุญกุศลอยู่เสมอ ไม่ปล่อยเวลาว่างให้ล่วงเลยไปโดยเปล่าประโยชน์