เรื่องที่ ๒๒๙ ยกโทษให้
ชนแล้วยังพยายามจะไล่ชนซ้ำอีก กะจะเอาให้ถึงตาย ตำรวจถึงกับงงมาก เมื่อเธอบอกว่ายกโทษให้ไม่เอาความ
คุณสุจินตนา ชูชัยศรี
ผู้ใจบุญ ขับรถ ๗๐ กิโลเมตร มาใส่บาตรทุกวันเป็นเวลา ๔ ปี |
|
คุณสุจินตนา ชูชัยศรี เป็นเจ้าของโรงงานผลิตประตูหน้าต่าง อยู่กรุงเทพฯ เล่าว่า เข้าวัดครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๖ เนื่องจากลูกชายมาบวชเป็นยุวธรรมทายาท ในงานฉลองครบ ๑๐๐ ปีของโรงเรียนอัสสัมชัญ เวลานั้นยังไม่นึกศรัทธาการทำงานของวัด แต่พอใจความสงบสำรวมของพระภิกษุ จึงขับรถจากบ้านที่รามอินทรากิโลเมตร ๔ มาที่วัดพระธรรมกาย เพื่อตักบาตรทุกเช้า ระยะทางไปกลับราว ๗๐ กิโลเมตร ทำเป็นประจำอยู่ ๔ ปี แม้วันที่ฝนตกก็ไม่เคยเว้น กางร่มใส่บาตรก็ยอม ทำบุญด้วยการใส่บาตรทุกเช้าดังนี้ ต่อมาจึงทดลองมาปฏิบัติธรรมที่วัด เมื่อฟังหลวงพ่อสอนก็ฟังไม่เข้าใจ
กระทั่งย่างเข้าปีที่ ๕ มีกัลยาณมิตรท่านหนึ่งชวนไปปฏิบัติธรรมกับหมู่คณะที่เชียงใหม่ ก็ยังไม่สนใจ ออกพาลรำคาญด้วยซ้ำ แต่แล้วมาถึงระยะหนึ่งก็พลั้งปากบอกไปว่า ช่วงนั้นว่าง เจ้าหน้าที่วัดก็โทรศัพท์ไปที่บ้านชวนไปปฏิบัติธรรมที่เชียงใหม่ทันที คุณสุจินตนาได้พูดบ่ายเบี่ยงว่านั่งรถบัสไม่เป็น ทางเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่า มีเที่ยวบินเที่ยว ๗ โมงเช้า จึงต้องตอบตกลง
เมื่อนั่งเครื่องบินไปแล้ว คิดว่าหากไม่มีคนมารับ ก็จะกลับกรุงเทพฯทันที พอดีมีเจ้าหน้าที่มารับ จึงจำต้องไปด้วย ไปที่สถานปฏิบัติธรรมสวนพนาวัฒน์ ครั้นไปถึงที่นั่นเห็นคนนั่งสมาธิกันเต็มห้อง จึงตามเข้าไปนั่งอยู่ด้านหลังห้อง นั่งนิ่งๆ สบายๆ เหมือนมาพักผ่อน ไม่ได้ตั้งใจอะไรมาก พอพระอาจารย์สอนก็ทำตามคำพูดของท่าน ก็สามารถทำตามได้อย่างง่ายๆ เอาใจเข้ากลางได้เลย คำสอนอะไรๆ ของหลวงพ่อที่เคยนึกเถียงไว้ในใจ ในเวลาที่ปฏิบัติธรรมเข้าถึงนั้น ก็เข้าใจได้หมดทุกอย่าง
จากนั้นจึงเริ่มเข้าวัดอย่างจริงจัง และก็ยังมาใส่บาตรอยู่ทุกเช้าเหมือนที่เคยปฏิบัติมา ได้ประสบอุบัติเหตุและรอดมาได้ราวปาฏิหาริย์คือ เมื่อเช้าวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๑ ราว ๖ โมงเช้า ขณะที่ขับรถเพื่อมาใส่บาตรตามปกติ ขับรถมาด้วยความเร็วราวๆ ๑๒๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถนนโล่งมาก มีพระมหาสิริราชธาตุห้อยอยู่ที่คอ จึงสวดสรรเสริญ ซึ่งปกติได้กระทำอยู่เสมอๆ ขณะที่กำลังสวดไปเรื่อยๆ ทันใดนั้นก็มีรถคันหนึ่งพุ่งมาเลี้ยวกลับรถตัดหน้า และชนเข้าที่ล้อหน้าข้างขวา ทำให้รถเสียหลัก ล้อหักและเบรคแตกทันที ร่างกายถูกแรงกระแทกทำให้ดวงตามืดไปชั่วขณะ มองอะไรไม่เห็นแต่ยังมีสติดีอยู่ จึงใช้มือสาวพวงมาลัยมาทางขวามือสุดกำลัง เพราะรถกำลังจะตกถนนไปอยู่ที่ทางเท้าแล้ว ขณะที่รถกระแทกเข้ากับทางเท้า ล้อข้างซ้ายหักอีก ๒ ข้าง แล้วรถก็เหวี่ยงตัวกลับมา ล้อข้างขวาที่เหลืออยู่ก็หักเป็นล้อสุดท้าย ข้างๆ รถบุบยุบเข้าไปตลอดแนว เมื่อรถหยุดสนิทลงได้ ดวงตาจึงเริ่มมองเห็น จึงต้องมุดออกทางรอยแตกของกระจกประตูหน้าด้านซ้าย พอออกมาจากตัวรถได้ ก็จ้างรถมอเตอร์ไซค์ไล่ตามเด็กวัยรุ่นที่ขับรถชน แต่เมื่อตามทันเขากลับขับรถพยายามจะไล่ชนซ้ำอีก กะจะเอาให้ถึงตาย ตำรวจมาช่วยก็ยังจะขับรถไล่ชนตำรวจด้วย คงคิดจะฆ่าทิ้งทั้งคู่แล้วหนี ปรากฏว่าเป็นเด็กวัยรุ่นลักษณะเมาสุราหรือเมายาเสพติด ขับรถแบบขาดสติ กำลังจะรีบเอารถไปคืนมารดา ซึ่งรออยู่จะออกจากบ้านไปสอนหนังสือ
รายคุณสุจินตนานี้น่าชื่นชมเป็นที่สุด อดทนขับรถทุกๆ เช้า วันละ ๗๐-๘๐ กิโลเมตรมาใส่บาตรเป็นเวลาถึง ๔ ปี ฝนตกฟ้าร้องก็ไม่ยอมหยุด ไม่ใช่สร้างบารมีธรรมดาแล้ว ขับเสี่ยงชีวิตดังนี้ เท่ากับปรมัตถทานบารมีเลยทีเดียว ตัวอย่างความรู้สึกนึกคิดของคุณสุจินตนาที่ประทับใจความสำรวมเรียบร้อยของพระภิกษุ แสดงว่าศีลาจารวัตรของพระนั้นมีประโยชน์อย่างยิ่ง สามารถน้อมนำจิตใจผู้ที่พบเห็นให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธามากขนาดนี้
การปฏิสันถารของพระที่มีต่อญาติโยม เป็นที่ตั้งของศรัทธาอย่างยิ่งอีกเรื่องหนึ่ง พระภิกษุรูปหนึ่งทราบว่าคุณสุจินตนามาใส่บาตรทุกเช้าเป็นปีๆ จึงถามถึงระยะทางที่ขับรถมา เมื่อได้รับคำตอบท่านพูดว่า บ้านอยู่ไกลนะแต่ก็ไม่ยาวเท่าระยะทางของวัฏฏสงสาร คุณสุจินตนาฟังครั้งแรก ไม่เข้าใจอะไรเลย ต่อมาเมื่อศึกษาและได้ปฏิบัติธรรม มีความรู้มากขึ้นจึงรู้สึกประทับใจมาก จดจำหลวงพี่รูปนั้นได้อย่างแม่นยำ
ในสัมมาทิฏฐิ ๘ ประการมีว่า เห็นว่าทานเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ การบูชาสิ่งที่ควรมีประโยชน์ การเชื้อเชิญต้อนรับมีประโยชน์ การทำดีทำชั่วจะมีผลตามมา ภพชาตินี้และภพชาติหน้ามี ทำดีทำชั่วต่อบิดามารดามีผล สัตว์ที่เกิดเป็นตัวโตใหญ่ได้ในทันที เช่น สัตว์นรก เทวดา มีอยู่จริง และสมณพราหมณ์ที่รู้แจ้งในโลกนี้โลกหน้า สามารถสอนผู้อื่นได้นั้นมีอยู่ จะเห็นว่า ความตระหนักในการให้ทาน เป็นข้อหนึ่งในสัมมาทิฏฐิ ๘ ประการ
ดังนั้น ผู้มีปัญญาจึงไม่ควรละเลยการกระทำในเรื่องนี้ โดยเฉพาะการสั่งสมทานกุศล แม้แต่พระโพธิสัตว์ยังเริ่มต้นการสร้างทานบารมีเป็นอันดับแรก เพื่อจะได้มีเสบียงบุญเอื้ออำนวยในการสร้างบารมีทุกภพทุกชาติ ได้อย่างสะดวก