อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

พระมหาสิริราชธาตุ รุ่นดูดทรัพย์ สำหรับ ผู้สร้างพระธรรมกายประจำตัวภายในมหาธรรมกายเจดีย์นั้น จะได้รับของที่ระลึกเป็นพระธรรมกายของขวัญ

อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ โอวาทพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) วันอาทิตย์ที่ ๒๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๒

โอวาทพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)
วันอาทิตย์ที่ ๒๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๒


บุญแห่งความเลื่อมใสในพระรัตนตรัย

พระรัตนตรัยนั้น มีพระคุณอันไม่มีประมาณ แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงมีพระพุทธญาณอันลึกซึ้ง กว้างไกล เป็นอจินไตย ทรงรู้แจ้งโลกและแทงตลอด ทั้งนิพพาน ภพสาม โลกันตร์ ก็ยังไม่อาจจะพรรณนาพระคุณของพระรัตนตรัยให้หมดสิ้นได้ เพราะพระรัตนตรัยมีคุณเป็นอนันต์ แม้แสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาลก็ยังเล็กเกินไป เราจะซาบซึ้งก็ต่อเมื่อเราได้เข้าถึง และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับรัตนะทั้ง ๓ คือพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ ถ้าเข้าถึงอย่างนี้ถือว่าได้บรรลุวัตถุประสงค์ของการเกิดมาเป็นมนุษย์ มาพบพระพุทธศาสนา มีพระรัตนตรัยเป็นหลักชัยของชีวิต
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ในสมยสูตรว่า
เยเกจิ พุทฺธํ สรณํ คตาเส
น เต คมิสฺสนฺติ อปายภูมึ
ปหาย มานุสํ เทหํ
เทวกายํ ปริปูเรสฺสนฺติ
แปลว่า ชนเหล่าใด ถึงพระพุทธเจ้าว่าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกอันสูงสุด ชนเหล่านั้น เมื่อละโลกนี้ไปแล้ว จักไม่ไปสู่อบายภูมิ เมื่อละกายมนุษย์นี้แล้ว จักยังหมู่เทวดาให้บริบูรณ์ มีเรื่องเล่าว่า


ในสมัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า พระวิปัสสี มีเด็กคนหนึ่งเป็นผู้มีบุญมาก ตั้งแต่เล็กคุณพ่อคุณแม่จะสอนให้ทำบุญทำกุศลไม่ได้ขาด และหมั่นพาไปวัดฟังธรรมอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งเด็กน้อยเกิดความเลื่อมใสในพระรัตนตรัย มีความตั้งใจว่า ถ้าหากโตขึ้นจะออกบวช และจะขอบวชไปจนตลอดชีวิต


เผอิญวันหนึ่งได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ทำให้พ่อและแม่ของท่านตาบอด ครั้นจะทิ้งพ่อแม่ไปบวชเสียทีเดียวก็ทำไม่ได้ เนื่องจากไม่มีใครที่จะดูแลท่านทั้งสอง เพราะฉะนั้นจึงต้องคอยปรนนิบัติเลี้ยงดูท่านเรื่อยมา ต่อมาวันหนึ่งท่านก็คิดว่า ท่านจำเป็นต้องอุปัฏฐากพ่อและแม่อยู่ที่บ้านตลอดเวลา ชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้บวชแน่ และคิดต่อไปว่า ชีวิตนี้จะยึดเอาพระรัตนตรัยเป็นสรณะ อย่างน้อยก็จะช่วยให้พ้นจากความทุกข์ในอบายได้


เย็นวันนั้นท่านจึงได้เข้าไปหาพระนิสภเถระ ซึ่งเป็นอัครสาวกของพระวิปัสสีพุทธเจ้า และกล่าวปวารณารับเอาสรณะทั้งสามคือพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และ สังฆรัตนะ เป็นที่พึ่ง ท่านได้น้อมรับเอาพระรัตนตรัยเป็นสรณะ เมื่อกลับไปที่บ้าน ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถใด หรือจะทำภารกิจอะไรก็ตาม หมั่นนึกถึงแต่พระรัตนตรัยเป็นอารมณ์ ตั้งใจสวดสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัยอยู่อย่างนั้นยาวนานถึง ๑ แสนปี เพราะในสมัยนั้นมนุษย์มีบุญมากจึงมีอายุยืนยาว


ด้วยผลบุญที่ท่านได้ยึดเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง หลังจากละโลกไปแล้ว ท่านได้ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นเทพบุตรผู้มีรัศมีกายสว่างไสว มีบริวารมากมาย และได้เสวยสุขอยู่เป็นเวลายาวนาน นอกจากนั้นบุญยังส่งผลให้ท่านได้เป็นท้าวสักกเทวราช คือเป็นพระอินทร์ผู้ปกครองชั้นดาวดึงส์ถึง ๘๐ ครั้ง เมื่อจุติจากสวรรค์ก็มาเกิดในมนุษยโลก มาเกิดแล้วก็ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิปกครองทวีปทั้ง ๔ ถึง ๗๕ ครั้ง มีความพรั่งพร้อมไปด้วยรัตนะ ๗ ประการคือ มีช้างแก้ว ม้าแก้ว ขุนพลแก้ว ขุนคลังแก้ว นางแก้ว จักรแก้ว และก็แก้วมณี ปกครองชาวโลกทั่วชมพูทวีป ให้ตั้งอยู่ในศีลธรรม ทำให้โลกได้รับความสงบสุข ร่มเย็น


นอกจากนั้น บุญยังส่งผลต่อไปอีก ได้เกิดเป็นพระเจ้าแผ่นดินปกครองประเทศด้วยทศพิธราชธรรมอีกนับชาติไม่ถ้วน แล้วบุญยังทยอยส่งผลให้เกิดเป็นมหาเศรษฐีอีกหลายชาติ ในระหว่างที่เวียนว่ายตายเกิดอยู่นี้ ก็ท่องเที่ยวอยู่แค่ ๒ ภูมิ คือในเทวโลกและมนุษยโลก ไม่เคยพลัดตกไปในอบายภูมิเลย บุญแห่งความเลื่อมใสในพระรัตนตรัยนั้น ยังตามส่งผลให้ท่านต่อไปอีก คือเข้าถึงความเป็นผู้เลิศ ๘ ประการ คือได้รับความเคารพบูชายกย่องสรรเสริญไปทั่วทุกสารทิศ จะมีผู้นำเครื่องสักการะบูชามามอบให้ท่านอยู่เป็นประจำ และบุญยังส่งผลให้ท่านเป็นผู้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด รู้แจ้งแทงตลอดในศาสตร์ทั้งปวง ยากที่จะหาใครมีปัญญามาเทียบเท่าท่านได้


เทวดายังคอยปกป้องคุ้มครองรักษาให้ท่านอยู่เย็นเป็นสุข ปราศจากภยันตรายทั้งปวง แม้เหล่าเทวดาทั้งหลายที่ตามดูแลรักษาท่าน ก็ยังประพฤติปฏิบัติธรรมตามท่านอีกด้วย ท่านเป็นตัวอย่างของทั้งมนุษย์และเทวดา โภคทรัพย์สมบัติบังเกิดขึ้นแก่ท่านอย่างไม่ขาดสาย แต่ละภพชาติที่ท่านเกิดจะได้รูปสมบัติที่งดงาม มีผิวพรรณวรรณะผ่องใส เปล่งปลั่งประดุจทองคำ เป็นที่เคารพเลื่อมใสของผู้ที่ได้พบเห็น และยังมีดวงปัญญาอันเลิศ มีปฏิภาณไหวพริบเป็นเลิศ พวกพ้องบริวารมากมาย เป็นที่รักที่ชอบใจของมหาชน ไม่ว่าจะเกิดกี่ภพกี่ชาติ ท่านก็ยังเป็นผู้มียศใหญ่ มีตำแหน่งหน้าที่สูงกว่าใครๆ เป็นที่ยอมรับนับถือของทุกๆ คน


จนกระทั่งมาถึงชาติสุดท้าย ในสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ท่านก็ได้เกิดในตระกูลของพราหมณ์ผู้มั่งคั่ง มีทรัพย์สมบัติ และพวกพ้องบริวารมากมาย เมื่ออายุได้ ๗ ขวบ ได้ไปวัดพระเชตวันพร้อมกับหมู่ญาติ ได้ฟังธรรมกล่าวถึงคุณของพระรัตนตรัยและอานุภาพของพระรัตนตรัย ใจของท่านบังเกิดความเลื่อมใส จึงได้ขอถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ และทำให้ระลึกถึงสรณะที่เคยรักษาเอาไว้ตั้งแต่ครั้งสมัยพระวิปัสสีพุทธเจ้า ทำให้เกิดมหาปีติ นั่งเจริญสมาธิภาวนา มีพระรัตนตรัยเป็นอารมณ์

ในที่สุดก็ได้บรรลุพระอรหัตตผล หมดกิเลสแล้วก็ออกจากการครองเรือน ทูลขอบวชกับพระบรมศาสดา ได้เป็นผู้ทรงอภิญญา บรรลุวิชชา ๓ วิชชา ๘ อภิญญา ๖ ปฏิสัมภิทาญาณ ๔ และจรณะ ๑๕ รู้แจ้งแทงตลอดในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่ยังเยาว์วัยด้วยอายุเพียง ๗ ขวบเท่านั้น ท่านมีลูกศิษย์มากมาย และมักจะกล่าวสอนศิษย์อยู่เสมอว่า ให้ศิษย์ทั้งหลายรับเอาไตรสรณคมน์เป็นที่พึ่งที่ระลึก ยังจิตใจให้เลื่อมใสในพระรัตนตรัย โดยให้ดูตัวท่านเป็นแบบอย่าง ว่าท่านได้ยึดเอาสิ่งนี้เป็นที่พึ่งมาโดยตลอดตั้งแต่สมัยพระวิปัสสีพุทธเจ้า ในที่สุดอานิสงส์นี้ได้ส่งผลมาตามลำดับ


อานุภาพของพระรัตนตรัยมีคุณอันไม่มีประมาณ จะเป็นเหตุให้เราได้บรรลุผลดังกล่าว ดังนั้นขอให้ทุกๆ คนได้ยึดเอาพระรัตนตรัยนี้เป็นที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง สิ่งอื่นนอกจากพระรัตนตรัยนั้นไม่ใช่ที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง เมื่อเราได้ทำอย่างนี้ก็จะมีอานิสงส์เกิดขึ้นกับเราในปัจจุบันทันตาเห็นทีเดียว

ภาพมหาปีติในวันคุ้มครองโลก

กองบุญธรรมะคุ้มครองโลก ที่จะถวายทุนการศึกษาแด่พระภิกษุสามเณรทั่วประเทศผู้ขาดแคลนทรัพย์ทุนภายนอก แต่ว่าสมบูรณ์ด้วยอริยทรัพย์ภายใน ให้พวกเราทุกคนทำได้สำเร็จอย่างเป็นอัศจรรย์ทีเดียว ให้บุญนี้ไปดลบันดาลให้ผู้มีบุญที่เป็นเจ้าของบุญมารับกองบุญนี้ไป และในเวลาเดียวกัน พวกเราทุกคนก็ต้องใช้วันเวลาให้เป็นประโยชน์ต่อการทำหน้าที่เป็นยอดกัลยาณมิตรผู้นำบุญ ไปชักชวนแนะนำผู้มีบุญทั้งหลาย ให้เขาได้มาสร้างบารมีกันอย่างเต็มที่ อย่าปล่อยให้วันเวลาสูญไปเปล่าๆ อย่าให้ความวิตกกังวลต่างๆ เข้ามาสิงอยู่ในจิตใจของเรา ให้กาย วาจา ใจของเรา มีแต่บุญบารมีและความดีล้วนๆ


ผู้มีบุญที่เป็นเจ้าของบุญนี้เขารอคอยเราอยู่มากมายทีเดียว เขาจะพลาดโอกาสที่จะได้รับบุญใหญ่นี้ไป ถ้าหากว่าเราไม่ไปชักชวนให้เขาได้มาสร้างบารมี มาตั้งกองบุญถวายทุนการศึกษาแด่พระภิกษุสามเณรผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ ที่จะเดินทางมาจากทั่วประเทศ ประชุมรวมกันที่วัดพระธรรมกายเป็นจำนวนเรือนแสน


สิ่งนี้เป็นสิ่งที่บังเกิดขึ้นได้โดยยากในโลก แม้แต่ภาพถ่ายเราจะหาดูไปทั่วโลกก็ยังไม่มี ภาพที่พระภิกษุสามเณรมาประชุมรวมกันเป็นแสนรูปอย่างนี้ ยังหาที่ใดไม่ได้เลย ไม่ว่าจะย้อนหลังไปกี่ร้อยปีก็ตาม ยังไม่เคยมีปรากฏมาก่อนเลย


ฉะนั้น ในยุคของเรานี้ เราควรที่จะสร้างสิ่งอัศจรรย์ให้บังเกิดขึ้น เพื่อความปีติปราโมทย์ใจแก่ตัวเราเอง และเพื่อเป็นการสร้างพลังใจในการสร้างความดีให้เกิดขึ้นแก่ชาวโลกทั้งหลาย อย่าได้หวั่นวิตกกังวลต่ออุปสรรคใดๆ ให้ทุ่มเทชีวิตจิตใจสร้างบารมีกันให้เต็มที่ ทำวันนี้ให้เป็นวันแห่งธรรมะคุ้มครองโลกให้ได้


พระภิกษุสามเณรทั้งหลายจะได้มีกำลังใจที่จะศึกษาพระธรรมวินัย ศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรมให้แตกฉาน จะได้นำความรู้นี้ไปสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นแก่ชาวโลก ท่านจะทำอย่างนี้ได้ก็ต้องอาศัยพวกเราเป็นผู้สนับสนุน หากเราอยู่กันเฉยๆ ไม่สนับสนุน เพียงแค่ให้กำลังใจอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ เราต้องให้ทั้งกำลังใจ และกำลังปัจจัยสนับสนุน ความสำเร็จจึงจะบังเกิดขึ้นได้


ให้บอกกันต่อๆ ไปนะ ว่าใครอยากจะทำบุญกับวัดที่ยากจนขาดแคลน แต่ว่าเป็นเนื้อนาบุญอันเลิศ เป็นอายุของพระพุทธศาสนา ไม่ต้องเดินทางไกลไปทั่วประเทศ เพราะบัดนี้ในวันที่ ๒๒ เมษายน พระภิกษุสามเณรทั่วทั้งประเทศท่านก็จะมาชุมนุมรวมกันที่นี่แล้ว ฉะนั้นไปชักชวนกันมาร่วมบุญใหญ่กันนะ ให้เขาได้มาเก็บเกี่ยวบุญกันอย่างเต็มอิ่ม ให้อิ่มอกอิ่มใจกันไปเลย จะได้มีความสุขกาย สุขใจ เอาบุญนี้ติดตัวไปทุกภพทุกชาติ จนกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม 

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล