เรื่องที่ ๒๖๓ยอดนักบุญ
การที่เราทำความดีได้ไปบอกสิ่งที่ดีกับผู้อื่นด้วยความบริสุทธิ์ใจ ย่อมได้รับความรักความไว้วางใจจากเขาเหล่านั้น
คุณรัตนาภรณ์ วงศ์มีแก้ว
|
คุณรัตนาภรณ์ วงศ์มีแก้ว เป็นครูสอนอยู่ที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เป็นอาสาสมัครประจำอยู่แผนกโภชนาการของวัดพระธรรมกาย ได้เล่าให้ฟังว่า ตนเองได้มาช่วยงานบุญที่วัดทุกวันอาทิตย์ เวลาเย็นๆ หลังจากเลิกงานก็จะไปบอกบุญสร้างองค์พระภายนอก แต่เนื่องจากไม่ค่อยมีเวลา จึงชวนเพื่อนผู้นำบุญไปบอกบุญร่วมกัน คือ เรือเอกสมชาย ญาติประชุม และได้พระคะแนนสุด สุด มาคนละ ๑ องค์ พอช่วงบอกบุญองค์พระภายใน คิดว่าคงบอกบุญไม่ได้แน่ องค์พระ ๑๐ องค์ก็บอกลำบากเหลือเกิน จึงเล่าให้คุณสุธิรา ภรรยาของนาวาเอกสมนึก เปรมปราโมทย์ว่า คงบอกบุญไม่ได้แน่คราวนี้ คุณสุธิราแนะนำว่าเวลานั่งสมาธิ เมื่อใจใสเป็นสมาธิแล้ว ให้อธิษฐานจิตให้บอกบุญได้โดยง่าย เลยนำมาอธิษฐานบ้าง โดยอธิษฐานว่า "ขอให้บอกบุญได้โดยง่าย ขอให้พบผู้ที่เป็นเจ้าขององค์พระด้วยเถอะ และขออาราธนาหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ช่วยคุมบุญให้ลูกตลอดการบอกบุญด้วยเถิด"
ในตอนเช้าของวันอาทิตย์เธออยู่ที่วัด ลูกศิษย์ของเธอ ชื่อรุ่ง (ซึ่งลูกศิษย์คนนี้รักคุณรัตานาภรณ์มาก และชอบเรียกเธอว่าคุณแม่) มาเล่าให้ฟังว่า เช้านี้ฝันว่าหลวงพ่อธัมมชโยไปที่บ้าน แล้วก็พรมน้ำมนต์ให้ทุกคนหมดเลย และก็เห็นพระคะแนนสุดฤทธิ์อยู่ที่คอลูกสาวป้าช้อยคนที่พึ่งแต่งงาน ซึ่งคนนี้คุณรัตนาภรณ์ ตั้งใจว่าเมื่อกลับไปจากวัดจะไปบอกบุญที่บ้านหลังนี้พอดี (ปกติไม่เคยคุยเรื่องการบอกบุญหรือเรื่องเกี่ยวกับบุญที่บ้านนี้เลย) เย็นของวันจันทร์หลังเลิกงานก็ชวนเรือเอกสมชาย ไปบ้านนี้ด้วยกัน ได้นำวิดีโอเกี่ยวกับวัดที่เตรียมไว้ไปเปิดให้เขาดู ป้าช้อยก็เรียกทุกคนในบ้านมาดู (บ้านนี้เป็นครอบครัวใหญ่) รวมทั้งคนงานด้วย เนื่องจากทั้งบ้านเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว ชอบทำบุญแต่ไม่ค่อยมีเวลา เมื่อมีผู้นำบุญไปบอกป้าช้อยก็ขอตามมาวัดเลยภายในวันอาทิตย์นั้น
คืนนั้นหลังจากบอกบุญแล้วเธอฝันว่า เวลาตี ๔ ได้กลับไปที่บ้านป้าช้อยอีก แต่ไปในลักษณะกำลังเคลิ้มๆ และยังใส่ชุดนอนอยู่เลย คราวนี้ไปกับลูกศิษย์ชื่อรุ่ง พอถึงหน้าบ้าน สุนัขในบ้านป้าช้อย ๒ ตัว สีดำกับสีขาวกรูกันมาจะกัด (ตอนไปตอนหัวค่ำก็เห็นสุนัขหลายตัวเหมือนกัน แต่ไม่ได้สังเกตว่ามีสีอะไรบ้าง) ในฝันก็ปรากฏมีผู้ชายแต่งชุดสีเทาๆ เดินมาไล่หมาให้และเชิญเข้าบ้าน เขารีบไปเคาะประตูบ้าน และตะโกนดังมากว่า "เร็วๆ เขามาแล้ว เขามาแล้ว รีบตื่น รีบออกมา" เสียงเขามีอำนาจดังกังวาลมาก ป้าช้อยเปิดประตูออกมายังทำท่างัวเงียอยู่เลย ชายคนนั้นเมื่อเข้าบ้านได้เขาก็บอกว่า "เร็วๆ จะสร้าง พระก็รีบๆ ซะ!" เธอจึงถามป้าช้อยว่าตกลงป้าช้อยจะสร้างองค์พระเลยใช่ไหม ก็นำใบสร้างองค์พระมาเขียน ผู้ชายคนนั้นก็สะกิดและพูดว่า "เมื่อเขาสร้างพระแล้วอย่าลืมอุทิศส่วนกุศลด้วยนะ! บอกเขาด้วย! "
๒-๓ วันต่อมาก็ไปนัดหมายการเดินทางไปวัดกัน และเล่าเรื่องที่ฝันให้ป้าช้อยและลุงฟัง พอถึงบ้านป้าช้อยก็เจอเจ้าสุนัข ๒ ตัว ซึ่งเหมือนในฝันมากทั้งตัวดำและตัวขาว ลุงบอกว่าตัวที่กัดคือไอ้ดำ และก็ไอ้ขาวนี่แหละ แต่วันนี้มันนอนดูเฉย เหมือนเป็นคนคุ้นเคยในบ้านอย่างนั้นแหละ และแปลกอีกก็คือ คืนนั้นเรือเอกสมชาย ก็ฝันว่าได้กลับไปบอกบุญเหมือนกัน แต่จำรายละเอียดไม่ได้
พอวันอาทิตย์ก็เดินทางไปวัด โดยเธอกับป้าช้อยเดินทางไปวันเสาร์ก่อนพร้อมกับคณะอาสาสมัคร สอรฝ. ส่วนลูกๆ และครอบครัวป้าช้อย ตามไปวันอาทิตย์ เขาให้เรือเอกสมชายออกไปรับที่ประตูหน้าวัด คุณรัตนาภรณ์ตกใจมาก เพราะมากันเต็มคันรถ ๒ คัน เพราะไม่คิดว่าเขาจะมากันมากขนาดนั้น เพราะตอนไปบอกบุญเขาก็นั่งฟังเฉยๆ เขาบอกว่า พอคุณแม่บอกจะมาสร้างพระที่วัดพระธรรมกาย เขาก็ขอมากันหมดทุกคน ไม่มีใครยอมเฝ้าบ้านหรืออยู่ขายของ (ทั้งที่ครอบครัวมีอาชีพค้าขายรับส่งผักทั้งขายส่ง และขายปลีกมีลูกค้าเยอะ ต้องบอกหยุดส่งลูกค้าส่งเฉพาะรายที่จำเป็น) เมื่อดูแลเรื่องข้าวปลาอาหารแล้ว เรือเอกสมชายก็นำใบสร้างองค์พระมาเขียนรายละเอียดว่าใครบ้างจะสร้างองค์พระ เพราะก่อนหน้านั้นไม่ได้คุยเรื่องการสร้างองค์พระเลยว่าจะสร้างกี่องค์ คิดว่าอย่างมากก็ ๔-๕ องค์ เธอต้องไปดูแลและเตรียมงานที่จุดแจกอาหาร พอกลับมาเขาก็เขียนใบสร้างองค์พระจนเสร็จ คุณรัตนาภรณ์ดีใจจนแทบเป็นลม เพราะใบสร้างองค์พระเป็นปึกใหญ่ สร้างทั้งหมด ๒๔ องค์ แล้วทั้งคณะก็พากันไปที่จุดรับบริจาคสร้างองค์พระ เรือเอกสมชายนำเงิน ๒ แสน ๔ หมื่นบาทมา และนำอธิษฐานจิต หลวงพี่ที่ดูแลอยู่เดินมาดูตัวกลุ่มผู้ใจบุญ และขออนุโมทนาด้วยที่บอกบุญวันเดียวได้องค์พระถึง ๒๔ องค์ ที่แปลกคือคล้ายกับในฝันของลูกรุ่ง เงินที่นำมาไม่พอ เพราะคนงานก็ขอมาด้วย สงสารเขาก็สร้างพระให้เขาด้วย พอดีลูกสาวคนที่พึ่งแต่งงาน พอพี่ๆ โทรศัพท์ไปบอกว่าแม่จะพามาสร้างพระที่วัดพระธรรมกาย เขาก็นำเงิน ๑ แสนบาทที่แม่ให้ไปเป็นเงินขวัญถุงในวันแต่งงานมาด้วย ใครที่เงินไม่พอก็ยืมได้เลย ทุกคนบอกไม่เสียเที่ยวและปลื้มปีติมาก และที่แปลกอีกเรื่องหนึ่งครอบครัวลูกสาวคนโตของป้าช้อยรวมแล้ว ๔ คน สร้างองค์พระ ๔ องค์ วันก่อนที่จะมาสร้างองค์พระ เขาขายของวันเดียวได้กำไร ๘,๐๐๐ บาท ซึ่งไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน คุณพ่อเขาบอกว่า "ลูกคนนี้เป็นคนที่เชื่ออะไรยากมาก ถ้าเขาเชื่อเรื่องอะไรเขาจะตั้งมั่นและจริงจังมาก" หลังจากสร้างพระกลับไปไม่กี่สัปดาห์ เขาก็สามารถขายของจนได้ถึง ๔๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเท่ากับจำนวนเงินที่ไปสร้างองค์พระพอดี นี่คงเป็นอานุภาพความตั้งใจจริงของครอบครัวนี้ และเขาก็พยายามปลีกตัวให้ได้มาวัดทุกๆ ต้นเดือน
คุณรัตนาภรณ์ เชื่อว่าการที่เราทำความดีได้ไปบอกสิ่งที่ดีกับผู้อื่นด้วยความบริสุทธิ์ใจ ย่อมได้รับความรักความไว้วางใจจากเขาเหล่านั้น และยังมีกลุ่มผู้มีบุญอีกมากมายที่คอยเราอยู่ อย่างที่หลวงพ่อท่านบอกเราจริงๆ ใช่ว่าเขาเหล่านั้นจะมองวัดเราในแง่ไม่ดีเสมอไป
การทำอะไรเป็นทีมเป็นหมู่คณะในตอนนี้ ทำให้ยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่น และมีกำลังใจ กลุ่มของคุณรัตนาภรณ์ก่อนจะไปบอกบุญจึงเน้นเรื่องทาน ศีล ภาวนา และอาราธนาพระมหาสิริราชธาตุ อาราธนาหลวงพ่อ คุมบุญทุกครั้ง เพราะบุญบารมีของเรายังน้อยนิดเหลือเกิน กลุ่มของเราจึงตั้งตามปรารถนาคือทำความสำเร็จของการสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ ความหวังและตั้งใจจริงในการบอกบุญ เพื่อจะได้พบกับผู้ใจบุญตลอดไป ในการติดตามหลวงพ่อเพื่อสร้างบารมีตลอดไป แม้เวลาจะมีจำกัด