เรื่องที่ ๒๖๕สู้ไม่ถอย
ทุกครั้งที่ผมท้อ ผมจะนึกถึงหลวงพ่อ ท่านพบกับปัญหาหรืออุปสรรคต่างๆ ท่านไม่เคยท้อเลย
เราเป็นลูกท่าน เราต้องสู้ให้ได้เท่ากับที่หลวงพ่อสู้
คุณนงลักษณ์ ศรีเทพ
|
คุณสมเกิด ต่างถิ่น ทำงานอยู่ที่ ศูนย์พัฒนาอาชีพคนพิการ ปากเกร็ดเล่าว่า ได้เข้าวัดพระธรรมกายครั้งแรกเมื่องานมาฆบูชา ปีพ.ศ.๒๕๓๘ รู้สึกประทับใจมาก เจ้าหน้าที่มีระเบียบ บริเวณวัดสะอาดร่มรื่น จึงพยายามมาวัดอยู่เสมอ โดยเฉพาะงานบุญใหญ่วันอาทิตย์ต้นเดือน เมื่อเข้าวัดปฏิบัติธรรมบ่อยๆ นิสัยใจคอ ก็เปลี่ยนแปลงดีขึ้น จากที่ไม่ใคร่ยอมฟังความเห็นของใคร ก็ใจเย็นขึ้น มองโลกในแง่ดีขึ้น ให้อภัยผู้อื่่นได้ง่าย ใจเยือกเย็นสุขุม ประกอบกับงานที่ทำต้องพบปะผู้คนจำนวนมาก เมื่อใจเยือกเย็นมากขึ้น ย่อมสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นกว่าเดิมมาก
เมื่องานบวชอุบาสกแก้วที่ผ่านมา คุณสมเกิดได้มาร่วมงาน และได้ทำบุญสร้างองค์พระประจำตัว ได้รับพระของขวัญมหาสิริราชธาตุ จึงนำมาสวดสรรเสริญตลอดมา ก่อนที่จะทำบุญสร้างองค์พระ ยอดเงินธุรกิจส่วนตัวที่ทำได้เพียงเดือนละประมาณ ๓๐,๐๐๐ บาท ครั้นสร้างองค์พระในเดือนมกราคมแล้ว ยอดเงินธุรกิจเดือนกุมภาพันธ์ก็พุ่งสูงขึ้นจนทำให้แปลกใจ อาของคุณสมเกิด บอกหลานว่า "รู้ตัวไหมเดือนนี้ยอดธุรกิจของคุณสมเกิด ขาดอีกนิดหน่อยก็ได้ ๒ แสนบาทแล้ว" รู้สึกเชื่อมั่นในอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุมาก ทำงานไปสวดสรรเสริญไปเป็นประจำ ทำอยู่ทุกวัน และยังเล่าให้เพื่อนร่วมงานฟัง ทำให้ทุกคนพลอยตื่นเต้นไปด้วย บางคนออกปากขอพระมหาสิริราชธาตุ คุณสมเกิดต้องชี้แจงเรื่องการทำบุญสร้างองค์พระให้ฟัง และให้นำหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุไปอ่าน ปัจจุบันนี้ รายได้จากธุรกิจส่วนตัวดังกล่าวยังคงสูงและธุรกิจก็รุ่งเรืองไม่มีลดต่ำลงเลย
อานุภาพเรื่องสำคัญที่คุณสมคิดต้องการเล่าให้ฟัง คือ ก่อนวันทอดกฐินของวัดเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๑ คุณสมเกิดยังไม่มีองค์พระของขวัญมหาสิริราชธาตุ แต่ต้องการไปเชิญชวนผู้คนทำบุญสร้างองค์พระ จึงขอยืมพระมหาสิริราชธาตุจากเพื่อนรุ่นพี่ผู้หนึ่ง ซึ่งทำบุญกองทุนวารสารไว้ เป็นองค์พระรุ่นที่ไม่มีกรอบ นำไปอวดให้คนทั้งหลายเพื่อเชิญชวนให้ทำบุญ
วันที่จะพบอานุภาพมหัศจรรย์นั้น คุณสมเกิดไปบ้านคุณป้าแสวง อยู่ทรัพย์ เพื่อจะชวนทำบุญทอดกฐิน เมื่อไปถึงบ้านของคุณป้าแสวง พบลูกสาวคนกลางของคุณป้า บอกว่า คุณป้าแสวงอยู่ในบ้านกับลูกสาวที่กำลังไม่สบายมาก คุณป้าแสวงเป็นทุกข์และเศร้ามาก เพราะลูกสาวที่ป่วยนั้น มีอาการคุ้มคลั่ง ผู้ชาย ๔-๕ คนช่วยกันจับตัว ยังจับไม่อยู่ ควบคุมตนเองไม่ได้ เป็นโรคดังกล่าวนี้มาตั้งแต่อายุ ๑๘ ปี มาถึงเวลานี้เป็นมาได้ ๓๒ ปีแล้วยังรักษาไม่หาย
ขณะนั้นคนป่วยมีอาการหนักมากกว่าเดิม ผู้เป็นแม่จึงอธิษฐานจิตกับภาพของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ "ขอให้มีคนมาช่วยลูกของดิฉันด้วย" ก็พอดีคุณสมเกิดไปถึงก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร จึงนำพระมหาสิริราชธาตุ ที่ยืมมามอบให้คุณป้าแสวงนำไปให้คนป่วยซึ่งอยู่ชั้นบนของบ้าน แต่ตนเองไม่ได้ตามขึ้นไปด้วยได้แต่อธิษฐานจิตช่วย
หลังจากที่คุณป้าแสวงนำไปให้คนป่วยซึ่งอยู่ชั้นบนไม่ถึง ๑๐ นาที ก็เดินลงมา พร้อมทั้งตะโกนว่า "หายแล้ว หายแล้ว" และเดินลงมายกมือไหว้ขอบใจคุณสมเกิด ยืนยันว่าหลวงพ่อวัดปากน้ำและพระมหาสิริราชธาตุจากปกหนังสือส่งคุณสมเกิดมาช่วยแน่นอน พร้อมทั้งเล่าว่า หลังจากรับองค์พระจากมือคุณสมเกิดไป ก็ตักน้ำมา ๑ ขัน เอามือแตะองค์พระและนำมือไปแกว่งในน้ำ ทำอยู่ประมาณ ๒-๓ ครั้ง แล้วสวดสรรเสริญ ๓ จบ แล้วให้คนป่วยดื่ม น้ำที่เหลือให้พรมตามร่างกาย
ขณะที่คุณป้าแสวงเล่ามาถึงตอนนี้ คนป่วยที่หายเป็นปกติก็เดินลงบันไดมา เล่าว่า พอดื่มน้ำและแม่พรมให้เพียงครู่เดียว เหมือนมีคนถูกกระชากออกจากตัว ออกไปทางปลายเท้า พอคนนั้นหลุดออกไปจากตัวเท่านั้น ก็หายจากอาการต่างๆ และสามารถมาร่วมงานทอดกฐินที่วัดได้
อานุภาพเรื่องที่ ๓ คุณสมเกิดนำองค์พระมหาสิริราชธาตุที่ยืมมาองค์เดิมไปหาคุณวรัญญา สุขมาก เจ้าของห้องเสื้อ ตรงซอยพาณิชยการ จรัญสนิทวงศ์ ๑๓ เพื่อไปชวนทำบุญสร้างองค์พระ ไปถึงพบว่าคุณวรัญญาเพิ่งกลับมาจากงานศพ คุณสมเกิดได้อธิบายถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระมหาสิริราชธาตุ และหยิบองค์พระออกมาให้ดู ขณะที่คุณวรัญญากำลังจะรับไปดู ทันใดนั้นคุณวรัญญาก็มีอาการสั่นพั่บๆ ตาทำอาการ ขยิบ ขยิบ ใบหน้าซีดเผือด คุณสมเกิดรู้สึกตกใจ พอตั้งสติได้ จึงพูดให้คุณวรัญญาอธิษฐานให้หายจากอาการเหล่านั้น
เมื่อคุณวรัญญาอธิษฐานตาม อาการทั้งหมดก็หายไป คุณวรัญญาจึงขอดูองค์พระอีกครั้ง เพราะเมื่อครู่เพียงแค่เปิดตลับดู ครั้นพอหยิบองค์พระมาไว้ในมือ กลับมีอาการเดิมขึ้นมาอีก คุณวรัญญารีบวางองค์พระไว้บนโต๊ะ วิ่งออกไปอาเจียนออกมาอย่างมากมาย เหมือนคนกินอาหารเป็นพิษ
ขณะที่คุณสมเกิดกำลังยืนงงอยู่และตกใจมากอยู่นั้น คุณวรัญญาก็เดินกลับเข้ามา พร้อมทั้งขอบคุณเป็นอันมาก เหมือนคุณสมเกิดมาช่วยรักษา และเล่าว่า ทุกครั้งที่ไปงานศพ กลับมาจะต้องป่วย ๓-๑๐ วัน ทำงานไม่ได้อยู่เสมอ มีคนเชื่อกันว่าเพราะคุณวรัญญาเป็นคนใจบุญ ชอบใส่บาตรทุกวัน เวลาไปงานศพ ผีเร่ร่อนเห็นเข้า จะเข้าร่างขอส่วนบุญ ทำให้ไม่สบาย เมื่อได้อาเจียนหมดตัวดังนี้ คุณวรัญญายืนยันว่าหายจากโรคดังกล่าวเป็นปลิดทิ้งแน่นอน และได้ทำบุญสร้างองค์พระ ได้รับพระของขวัญไปแขวนคุ้มครองตนเองเรียบร้อยแล้ว ยังได้พบอานุภาพที่ทำให้อัศจรรย์ใจอีกหลายเรื่อง
อานุภาพเรื่องที่ ๔ คุณสมเกิดชวนคุณทวีซึ่งขาพิการต้องนั่งรถเข็นขายล็อตเตอรี่ ให้ทำบุญสร้างองค์พระ ซึ่งผู้ถูกชวนมีศรัทธาทำบุญทีเดียว หนึ่งหมื่นบาททันที ได้เล่าว่าพบอานุภาพพิเศษ วันนั้นเวลาประมาณบ่าย ๒ โมงครึ่ง เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงทางกองจะประกาศรางวัล แต่ยังขายล็อตเตอรี่ ไม่หมดอยู่ ๒ เล่มกว่า ซึ่งมีมูลค่าเกือบ ๑ หมื่นบาท ที่จะต้องขาดทุนทั้งหมด ปกติแล้วคุณทวีและภรรยาจะหมั่นสวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุกันวันละ ๙ จบ เมื่อเห็นทางขาดทุนอยู่เฉพาะหน้า จึงอธิษฐานขอพรให้ท่านช่วยเหลือ ถ้าขาดทุนครั้งนี้ จะไม่มีเงินผ่อนบ้านในเดือนนั้น เวลานั้นยังไม่ได้รับองค์พระมหาสิริราชธาตุของ ตนเอง แต่อธิษฐานจากองค์พระของคุณสมเกิด
ก็เป็นเรื่องอัศจรรย์ มีชายคนหนึ่งขับรถมาจอด แล้วเดินผ่านคนพิการขายล็อตเตอรี่เจ้าอื่นๆ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวน ๑๐ ราย เดินตรงมาที่คุณทวี แล้วพูดว่า "ขอซื้อเหมาหมดแผงเลย"
คุณทวีจึงมีความศรัทธาในพระมหาสิริราชธาตุมาก จึงได้นำองค์พระมหาสิริราชธาตุ พิชิตมารของคุณสมเกิดไปเลี่ยมกรอบให้ และขอยืมไว้ก่อนจนกว่าจะได้องค์พระของตนเอง และภรรยาคุณทวีก็ได้ประสบอานุภาพทำนองเดียวกับสามี คืออยากได้งานเย็บผ้าที่ทำอยู่ประจำให้มีมากขึ้น ก็มีคนมาเสนองานราคาดีให้ ทำให้ทั้งคู่ตั้งใจจะทำบุญสร้างองค์พระอีก ๒ องค์ ขณะนี้กำลังช่วยกันรวบรวมเงินทำบุญอยู่
คุณสมเกิดกล่าวก่อนจบว่า "เวลานี้ เราอาจเจอข่าวต่างๆ จากหนังสือพิมพ์ที่อาจทำให้เราสูญเสียกำลังใจในการสร้างบารมี ขอให้หนักแน่นเข้าไว้ ขอให้เชื่อในบุญ เชื่อในหลวงพ่อของเรา ทุกครั้งที่ผมท้อ ผมจะนึกถึงหลวงพ่อ ท่านพบกับปัญหาหรืออุปสรรคต่างๆ ท่านไม่เคยท้อเลย เราเป็นลูกท่าน เราต้องสู้ให้ได้ เท่ากับที่หลวงพ่อสู้ และเราจะต้องทำในสิ่งที่หลวงพ่อทำ ให้สำเร็จเหมือนกับที่หลวงพ่อทำเพื่อเราใช่ไหมครับ"
ความจริงรายนี้แม้จะเป็นคนพิการ แต่จิตใจแข็งแกร่งกว่าคนดีๆ มากมาย ทำหน้าที่เป็นนักสร้างบารมีโดยไม่ย่อท้อต่อความพิการของร่างกาย เดินทางไม่สะดวกอย่างไรก็ไม่ยอมแพ้