ธรรมเทศนาในยุคโซเชียลมีเดีย
สงครามข่าวในยุคโซเชียลมีเดีย ปัจจุบันมีผู้ไม่หวังดี โจมตี ด่าว่าพระ ด่าว่าวัดเยอะ ลงข่าวเป็นประเด็นทุกวัน เพื่อมุ่งหวังทำลายศรัทธาของชาวพุทธให้คลอนแคลน และหวังบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาและสังฆมณฑล
ถึงเวลาแล้ว ที่เราจะต้องชี้แจงแสดงความจริงให้โลกรู้ และกระจายออกไปให้มากที่สุด เราไม่ชี้แจงไม่ได้…ขนาดขึ้นศาลยังต้องฟัง
ข้อมูลทั้งสองฝ่าย ถ้าเราไม่ชี้แจงความจริงไปให้มาก ๆ จะปล่อยให้เขาให้ข้อมูลข้างเดียวหรือ? สิ่งที่เราช่วยกันกระจายข้อมูลที่ถูกต้อง ชี้แจงสัมมาทิฐิให้เกิดขึ้นนี้ ไม่ผิดหลักวิชชา
ที่บอกว่า..“ ไม่สู้ ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป ”
คำว่า “ไม่สู้” หมายถึง ไม่สู้แบบมิจฉาทิฐิ คือ ไม่ได้ให้ไปสู้แบบรบราฆ่าฟัน ส่วนการชี้แจงให้ชาวโลกรับรู้สิ่งที่ถูกต้องให้มาก ๆ คือปลูกสัมมาทิฐิให้เขา นี่แหละคือการ “ทำดีเรื่อยไป!”
การทำดี ต้องทำทั้งตนเองและเป็นกัลยาณมิตรให้ผู้อื่นด้วย ให้เขาได้มีความเห็นถูก เป็นกัลยาณมิตรให้เขาเพราะ
“โลกขาดดวงตะวันไม่ได้ฉันใด
โลกก็ขาดกัลยาณมิตรไม่ได้ฉันนั้น”
แม้เราไม่เก่งเทคโนโลยี ก็ไม่เห็นจะมีปัญหา ที่ไหนมีที่ให้กด เราก็แค่เอานิ้วไปกด บวกไปกับความคิดที่เป็นสัมมาทิฐิและความรักในเพื่อนมนุษย์ที่ไม่ต้องการให้เขาไปอบาย ให้เขามีสัมมาทิฐิ แล้วทุกอย่างที่เราคิดพูดทำก็ต้องประกอบไปด้วยปัญญาและความรักปรารถนาดีที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ก็แค่นั้นเอง
ดูตัวอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เวลาพระองค์ปฏิบัติธรรมพระองค์ก็นั่งทำใจสงบ แต่พอถึงเวลาชี้แจงแสดงธรรม พระองค์ก็ต้องทรงชี้แจงแสดงธรรมโปรดทั้งมนุษย์และเทวดา ซึ่งมีปรากฏในพุทธกิจ ๕ ประการ พระองค์ก็ยังต้องทำอย่างนั้น ที่เราส่ง facebook ส่ง line ยังส่งไม่ถึงเทวดาเลยนะ แต่พระพุทธองค์ทรงให้ข้อมูลชี้แจงแสดงธรรมถึงเทวดา ถึงพรหม ที่ไม่เข้าใจให้เข้าใจ และดำนินชีวิตได้ถูกต้อง
การชี้แจงสิ่งที่ถูกต้อง
และกระจายออกไปให้มาก ๆ
นี่คือการปลูกสัมมาทิฐิ
๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๙
คำสอนคุณครูไม่ใหญ่