พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ที่ ๑๘ ที่ตรัสพระพุทธพยากรณ์
ทรงพระนามว่า พระปุสสะสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระสรีระสูง ๕๘ ศอก
อายุขัยของมนุษย์ในยุคนั้น ๙ หมื่นปี
ทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าชัยเสน และพระนางสิริมาพระอัครมเหสี แห่งพระนครกาสิกะ(กาสี
ทรงครองฆราวาสวิสัยอยู่ ๙ พันปี ทรงเห็นนิมิต ๔ ประการ เมื่อพระนางกีสาโคตมีอัครชายาประสูติพระโอรสอนูปมะแล้ว ทรงช้างพระที่นั่งเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ มีผู้ตามเสด็จออกบวช ๑ โกฏิ
ทรงบำเพ็ญเพียรอยู่ ๗ วัน (บางแห่งว่า ๖ เดือน)
ผู้ถวายข้าวมธุปายาสคือ นางสิริวัฑฒา ธิดาเศรษฐีผู้หนึ่ง
นิสีทนสันถัตกว้าง ๓๘ ศอก ทรงรับหญ้า ๘ กำ ที่อุบาสกชื่อสิริวัฒนะถวาย ประทับนั่ง ณ โคนต้นอามลกะ(ต้นมะขามป้อม)
พระอัครสาวกคือ พระสุรักขิตะ และพระธัมมเสนะ
พระพุทธอุปัฏฐากคือ พระสภิยะ
ทรงแสดงธรรม ๓ ครั้ง
มีสาวกสันนิบาตเกิดขึ้น ๓ ครั้ง
ครั้งแรก คู่พระอัครสาวกขอบวชและสำเร็จเป็นพระอรหันต์
ครั้งที่สอง ทรงแสดงเรื่องพระพุทธวงศ์ ในสมาคมพระญาติของพระเจ้าชัยเสนแห่งกรุงกาสี
เสด็จดับขันธปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ ๙ หมื่นพรรษา ณ พระวิหารเสนาราม กรุงกุสินารา พระบรมสารีริกธาตุแผ่กระจายเป็นส่วนๆ ไป
พระเจ้าวิชิตาวี
ในพุทธกาลนี้ พระโพธิสัตว์ของเราเกิดเป็นกษัตริย์ ทรงพระนามว่า วิชิตาวี แห่งนครอรินทมะ ทรงเข้าเฝ้าพระบรมศาสดาสดับพระธรรมเทศนา ทรงเลื่อมใสเป็นอันมาก จึงถวายมหาทาน แล้วทรงสละราชสมบัติออกผนวชในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงศึกษาแตกฉานในพระไตรปิฎกยิ่งนัก สามารถตรัสพระธรรมกถาแก่มหาชน พระบรมศาสดาตรัสพยากรณ์ว่า จะได้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งพระนามว่า โคตมะ ในอนาคตอีก ๙๒ กัป