ปรากฏการณ์แห่งมหาประชาปีติ มาฆบูชา ๒๕๕๔
นับเป็นปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งชีวิต ที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าเกิดมาเป็นชาวพุทธจะมีโอกาสอันวิเศษ เช่นนี้ เพราะเหตุการณ์วันนั้นเป็นสิ่งที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่แห่งพระพุทธศาสนา ตลอดจนพระบารมีอันเลิศแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และความยิ่งใหญ่แห่งพลังศรัทธาของชาวพุทธทั้งภายในและต่างประเทศ ซึ่งเหตุการณ์วันนั้นคือ "วันมาฆบูชา ๒๕๕๔" ณ วัดพระธรรมกาย เป็นวันแห่งมหาปีติที่จะประทับอยู่ในจิตใจแห่งผู้ที่ได้สัมผัสอย่างยากจะลืมเลือน
มาฆบูชามหารำลึกจากอดีตถึงปัจจุบัน
ย้อนอดีตสู่สมัยพุทธกาล เมื่อวันขึ้น ๑๕ ค่ำ หรือวันเพ็ญเดือน ๓ ในสมัยพุทธกาล ขณะที่พระพุทธองค์ประทับอยู่ ณ วัดเวฬุวันมหาวิหาร ได้ปรากฏเหตุการณ์แห่งความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นพร้อมกันถึง ๔ ประการ คือ มีพระพุทธสาวกเดินทางไปประชุมกันโดยมิได้นัดหมายถึง ๑,๒๕๐ รูป โดยมีพระบรมศาสดาเป็นประธาน พระสาวกเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นพระอรหันต์ และพระอรหันตสาวก ดังกล่าวต่างก็บวชแบบเอหิภิกขุอุปสัมปทา คือพระพุทธองค์ประทานการบวชให้ด้วยพระองค์เอง และในวันนั้น เป็นวันเพ็ญพระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ ดังนั้นในวันนั้นพระพุทธองค์จึงทรงแสดงพระธรรมเทศนาที่ชื่อว่า "โอวาทปาฏิโมกข์" ซึ่งเป็นพระธรรมเทศนาที่แสดงถึงอุดมการณ์ หลักการ และวิธีการของชาวพุทธ ที่ได้เป็นแบบแผนอันสำคัญแห่งการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และได้ยึดถือปฏิบัติมาตราบ จนปัจจุบัน ดังนั้น เมื่อถึงวาระวันเพ็ญเดือน ๓ ของ ทุกปี ชาวพุทธทั่วโลกจึงพร้อมใจกันจัดให้มีพิธีกรรม เพื่อประพฤติปฏิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชา และรำลึกถึงความสำคัญแห่งวันมาฆบูชาที่ได้เกิดขึ้นมา เมื่อกว่า ๒,๕๐๐ ปีที่ผ่านมา
ภาพแห่งความทรงจำที่มิอาจลืมเลือน
วันศุกร์ที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔ อันเป็นวันมาฆบูชาที่ชาวพุทธถือว่าเป็นวันสำคัญของ การเผยแผ่พระพุทธศาสนาวัดพระธรรมกายจัด พิธีกรรมอย่างยิ่งใหญ่ รวมพลังศรัทธาพุทธศาสนิกชน ทั้งจากทั่วประเทศและต่างประเทศปฏิบัติธรรมถวาย เป็นพุทธบูชา ทั้งนี้นอกจากจะได้ร่วมพิธีเวียนเทียน จุดประทีปโคมไฟหลายแสนดวงแล้ว ยังมีการ มอบรางวัลโล่พระราชทานและโล่เกียรติยศการสอบตอบปัญหาธรรมะทางก้าวหน้า ครั้งที่ ๒๙ และโล่วัชรเกียรติยศการสอบตอบปัญหาศีลธรรมเพื่อสันติภาพโลก (World-PEC) ครั้งที่ ๕ ซึ่งในงานครั้งนี้ ปรากฏกระแสคลื่นพุทธศาสนิกชนจาก ทั่วประเทศหลั่งไหลไปร่วมงานกันอย่างล้นหลาม มีขบวนรถทั้งรถบัสขนาดใหญ่จำนวนหลายพันคัน และรถยนต์ส่วนตัวจากต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ เป็นแถวยาวเหยียดจอดเต็มพื้นที่กว่าพันไร่ และ ก่อนหน้าวันงานก็มีพุทธศาสนิกชนและพระภิกษุสงฆ์ หลั่งไหลจากทั่วทุกสารทิศไปที่วัดล่วงหน้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางวัดได้ขอความช่วยเหลือจากอาสาสมัคร รวมทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ หลายกรมกอง เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องการจราจร ซึ่งบรรยากาศก็เป็นไปอย่างคึกคักเบิกบาน เพราะทุกคน ใจจดจ่ออยากจะเห็นโคมมาฆประทีปนับล้านดวงถูกจุดสว่างไสวเต็มลานธรรม
พลังศรัทธาจากมหาชนทั่วโลก
การจัดงานครั้งนี้ เป็นที่สนใจของชาวต่างประเทศตลอดจนพุทธศาสนิกชนทั่วโลกเป็นอันมาก ทางวัดพระธรรมกายจึงได้ถ่ายทอดเสียงและภาพเหตุการณ์พิธีกรรมไปยังต่างประเทศ ผ่านทาง DMC Channel นอกจากนี้ยังมีผู้สื่อข่าวจากสถานีโทรทัศน์ ไปถ่ายทำรายการสารคดี และมีชาวต่างประเทศหลายประเทศเดินทางไปร่วมงานและสังเกตการณ์เช่น Ven. Bhaddanta Kumara Aggamaha และ คณะสงฆ์จากประเทศเมียนมาร์ Dr. Nina Meyerhof จากประเทศสหรัฐอเมริกา Rev.Namalwewe Ratanasara Nayaka Thero จากประเทศศรีลังกา Ven. Lama Gangchen Rinpoche จากประเทศ อิตาลี Ven. Panyaloka (Aiphakham Shyam) จาก India Mahabodhi และคณะจากประเทศอินเดีย คณะพุทธบริษัทจากประเทศอินโดนีเซีย Ven. Satyajit Barua จาก Internatioanl Buddhist College และคณะจากประเทศบังคลาเทศ คณะพระมหาเถระจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน คณะพุทธบริษัทจากประเทศไต้หวัน อินเดีย เนปาล และคณะของ ฯพณฯ คีร์ซาน ประธานาธิบดีแห่งประเทศคาลมิเกีย นอกจากนี้ยังมีชาวต่างประเทศที่รวมตัวกันเป็นคณะ เดินทางไปร่วมงานเป็นจำนวนมาก เช่น จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รวมแล้วมีชาวต่างประเทศไปร่วมงานหลายพันคน
อรุณรุ่งแห่งสันติสุข
นำการเปลี่ยนแปลงโลกสู่สันติธรรม
เมื่อเริ่มอรุณรุ่ง ณ ลานธรรม ศูนย์กลางธรรมกายแห่งโลก วัดพระธรรมกาย ได้ปรากฏมีกระแสแห่งศรัทธาของมหาชนจากทั่วทุกสารทิศของประเทศไทย หรือแม้จากต่างประเทศ เดินทางไปร่วม
บำเพ็ญบุญกุศลกันอย่างเนืองแน่นประมาณ ๑ แสน คน ขณะที่ท้องฟ้าเริ่มสว่างใส ภายในดวงใจของทุกคน ณ บริเวณนั้น ล้วนอิ่มเอิบ แช่มชื่น ประกายแห่งแววตาบ่งบอกถึงความผุดผ่องภายใน เพราะพิธีกรรมเริ่มต้นของเช้าวันนี้ คือพิธีตักบาตรแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวนมาก ภาพอันงดงามของพระภิกษุ ทั้งหลายที่แปรแถวลงมาเพื่อรับบิณฑบาต ด้วยความ สงบสำรวม ในท่ามกลางบรรยากาศอันสดชื่นยามเช้า สีเหลืองแห่งผ้ากาสาวพัสตร์ดารดาษบนพื้นซาแลนสีเขียวค่อย ๆ แปรเข้าสู่แถวแห่งพุทธศาสนิกชนในชุดขาวสะอาด มือของผู้มีบุญทั้งหลายต่างหยิบ ของใส่บาตรด้วยความบรรจงประณีตอันสื่อถึงจิตใจที่เปี่ยมด้วยศรัทธา มือแห่งการให้นี้เป็นมือที่พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญบัณฑิต ย่อมยกย่องผู้รู้จักการให้การให้จึงเป็นอริยทรัพย์ที่จะติดตามตัวไปได้ทั้งในภพนี้ ภพหน้า กระทั่งสู่ที่สุดแห่งธรรม แม้พระพุทธองค์เมื่อจะเริ่มสร้างบารมี ก็ทรงยึดเอา "ทานบารมี" เป็นบารมีประการแรกที่จะต้องบำเพ็ญให้ถึงพร้อมบริบูรณ์
พิธีมอบรางวัล
"โล่พระราชทานและโล่เกียรติยศ การสอบตอบปัญหาธรรมะทางก้าวหน้า ครั้งที่ ๒๙"
โดยมีพระภาวนาวิริยคุณ เป็นประธาน
รวมดวงจิตสู่ความสงบร่มเย็นภายใน
หลังจากพิธีตักบาตรเสร็จสิ้น สาธุชนทั้งหลายต่างหลั่งไหลเข้าสู่ศูนย์กลางแห่งการประกอบพิธี ณ สภาธรรมกายสากล โดยมีพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย นำสาธุชนทั้งหลายเจริญสมาธิภาวนาในบรรยากาศที่เงียบสงบ แม้จะมีสาธุชนอยู่เป็นจำนวนมากก็ตาม เพื่อให้ทุกคนได้เตรียมกาย วาจา ใจ ของตนให้ผ่องใสด้วยการเจริญสมาธิภาวนา จะได้รองรับบุญกุศลที่เกิดขึ้นได้อย่างเต็มที่ เสมือนการล้างภาชนะให้สะอาดรองรับน้ำฝนที่สามารถดื่มกินได้ในทันที จากนั้นมีผู้แทนสาธุชนนำกล่าวคำถวายดวงประทีป และกล่าวคำถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน ส่วนตอน บ่าย หลังจากพร้อมเพรียงกัน ณ สภาธรรมกายสากล เรียบร้อยแล้ว มีการประกอบพิธีมอบรางวัล "โล่พระราชทานและโล่เกียรติยศการสอบตอบปัญหาธรรมะทางก้าวหน้า ครั้งที่ ๒๙" จำนวน ๑๓ โล่ โดยมีพระภาวนาวิริยคุณ (หลวงพ่อทัตตชีโว) เป็นประธาน
พิธีมอบโล่วัชรเกียรติยศแก่ผู้ได้รับตำแหน่งชนะเลิศ
การสอบตอบปัญหาศีลธรรมเพื่อสันติภาพโลก (World-PEC) ครั้งที่ ๕
ลานธรรมสว่างด้วยแสงไฟ
กลางใจสว่างด้วยแสงแห่งธรรม
เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ณ ลานธรรม อันกว้างใหญ่ สาธุชนได้หลั่งไหลย้ายไปร่วมประกอบ พิธีจุดมาฆประทีปถวายเป็นพุทธบูชา ณ ลานธรรม มหาธรรมกายเจดีย์ พิธีกรรมในภาคค่ำเริ่มต้นด้วยการมอบรางวัลโล่วัชรเกียรติยศ แก่ผู้ได้รับตำแหน่งชนะเลิศ การสอบตอบปัญหาศีลธรรมเพื่อสันติภาพโลก (World-PEC) ครั้งที่ ๕ และต่อจากนั้น ขณะที่พระจันทร์วันเพ็ญกำลังลอยเด่นทอแสงอยู่บนท้องฟ้า สาธุชนนับล้านก็นั่งหลับตาสงบนิ่ง ก่อนที่จะกล่าวคำบูชามาฆฤกษ์และเวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกาย เจดีย์ คลื่นของมหาชนค่อย ๆ ทอดยาวเป็นแนววงกลมรอบมหาธรรมกายเจดีย์ ทุกคนต่างเดินเวียน ขวาเพื่อแสดงการบูชาต่อพระรัตนตรัย พร้อมเปล่งเสียงสรรเสริญพระพุทธคุณด้วยความปีติศรัทธา
พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) จุดโคมมาฆประทีปบูชาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จากนั้นทั่วทั้งบริเวณลานธรรมก็สว่างไสวไปด้วย แสงแห่งมาฆประทีปหลายแสนดวง ประดุจทะเลแห่งแสงธรรม ยังความตื่นตาตื่นใจแก่มหาชนเป็นอย่างยิ่ง แม้แต่ชาวต่างประเทศที่อยู่ในงานต่างก็เผลอตัวลุกขึ้นยืนตะลึง นึกไม่ถึงว่าจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้ กล้องบันทึกภาพนิ่งและกล้องถ่ายวิดีโอในมือของ แต่ละคน บันทึกภาพอันงดงามที่เกิดขึ้นอย่างไม่กลัว หมดเปลือง หากกลัวแต่ว่าภาพอันงดงามดังกล่าวจะเลือนหายไปเสียก่อน พระมหาเถระจากหลายประเทศต่างอุทานออกมาด้วยความปีติว่า เกิดมาจน อายุขนาดนี้ยังไม่เคยเห็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์และยิ่งใหญ่ ขนาดนี้เลย เมื่อแลซ้ายขวาหน้าหลังล้วนสว่างไสวด้วยแสงประทีปที่ตั้งเป็นระเบียบสวยงาม บางท่านจ้องมองโคมมาฆประทีปที่อยู่ตรงหน้า เหมือนกับจะบอกตัวเองให้มั่นใจว่า เราก็เป็นหนึ่งในผู้ที่จุดมาฆประทีปเหล่านี้ด้วย ขณะที่น้ำตาเริ่มไหลพรากนองหน้าด้วยความตื้นตัน
ภาพแห่งพระพุทธศาสนา
ภาพแห่งสันติสุขอันไพบูลย์
แม้วันเวลาจะล่วงเลยไปอีกนานสักเท่าใด แต่ทุกคนก็จะจดจารึกเหตุการณ์ในวันนั้นไว้ในความ ทรงจำอย่างยากจะลืมเลือน และจะเป็นความปีติอิ่มเอิบใจที่ก่อให้เกิดความสุขใจทุกครั้งที่ได้นึกถึง ใครเลยจะรู้ว่า ภาพที่บังเกิดขึ้นในวันนั้นจะเป็นภาพ แห่งประวัติศาสตร์ชีวิตอันงดงามที่ก่อให้เกิดมหากุศล อันยิ่งใหญ่ ที่จะติดตามตัวเราไปทุกภพทุกชาติตราบ ถึงที่สุดแห่งธรรม และภาพเหตุการณ์ในครั้งนั้น คณะ ผู้จัดงานนับตั้งแต่ประธานจัดงานจนถึงเจ้าหน้าที่ที่ ได้ทุ่มเทพลังน้อย ๆ ของตนอุทิศเพื่อความสำเร็จของงาน มิได้หวังที่จะทำเพื่อวัดพระธรรมกายเท่านั้น แต่ทุกคนมีจิตใจผูกพันที่จะทำเพื่อพระพุทธศาสนา ทุกคนมุ่งที่จะสร้างภาพอันดีงามแห่งพระพุทธศาสนา ให้ปรากฏแก่สายตาของชาวโลก มุ่งแสดงให้ชาวโลก ได้ลุกขึ้นสลัดความมัวเมา หันมามองตัวเอง และมุ่งมั่นที่จะสร้างสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดด้วยการปฏิบัติและศึกษาเพื่อเข้าถึงธรรมแห่งพระพุทธองค์ พลังแห่ง ศรัทธาที่ก่อให้เกิดภาพอันยิ่งใหญ่ มิใช่จะหยุดยั้งเพียงเท่านี้ แต่จะเป็นการจุดประกายขึ้นไปบนท้องฟ้า เพื่อสร้างภาพให้ยิ่งใหญ่มากกว่านี้ เพราะเราหวังที่จะให้พระพุทธธรรมอันประเสริฐนำชาวโลกทั้งหลาย ให้บรรลุเป้าหมายอันสูงสุดของชีวิต คือ เข้าสู่พระนิพพาน
ทั่วทั้งบริเวณลานธรรม มหาธรรมกายเจดีย์ สว่างไสวไปด้วย แสงแห่งมาฆประทีปหลายแสนดวง
ประดุจทะเลแห่งแสงธรรม ยังความตื่นตาตื่นใจ แก่มหาชนเป็นอย่ายิ่ง
ไม่น่าเชื่อว่า เราก็เป็นหนึ่งในบุคคลประวัติศาสตร์ที่ได้จุดโคมมาฆประทีปเหล่านี้ |