ดังเช่นตัวอย่างเรื่องราวของพระธรรมทายาทในโครงการอุปสมบทหมู่ ๑๐๐,๐๐๐ รูป หลายรุ่นที่ผ่านมา ที่ก้าวข้ามผ่านเส้นทางของนักต่อสู้ ต้องอดทนอดกลั้นกับบททดสอบกำลังใจมากมาย บางท่านเคยดำเนินชีวิตผิดพลาดในอดีต หรือบางท่านก็ต้องผจญกับโรคร้ายที่บั่นทอนร่างกายและจิตใจอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่น่าเชื่อว่า ภายหลังจากเกิดไหม่ในเพศสมณะ ทุกรูปกลับสามารถพลิกวิกฤตในชีวิตได้ด้วยบุญ
บารมีธรรมหลวงปู่วัดปากน้ำ
ทำให้ได้บวชต่อ
"เมื่ออาตมาทราบข่าวว่าวัดพระธรรมกายจัดโครงการอุปสมบทหมู่ภาคฤดูร้อน ๑๐๐,๐๐๐ รูป ทุกหมู่บ้านทั่วไทย ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา อาตมา ตัดสินใจบวชทันที และในวันบวชนั้นเอง ช่วงค่ำเมื่อ พระอาจารย์นำปฏิบัติธรรม ใจก็รู้สึกสงบอย่างบอก ไม่ถูก จนรู้สึกถึงความสบาย สักครู่หนึ่งได้เห็นองค์พระขนาดเท่าฝ่ามือผุดขึ้นมากลางท้อง แล้วก็ขยาย ใหญ่ขึ้น ๆ จนองค์พระมีขนาดใหญ่กว่าตัวอาตมา แล้วก็ยังมีองค์พระซ้อนต่อ ๆ กันไปหลายองค์ ทำให้ ปลื้มใจจนน้ำตาไหลไม่หยุด เพราะรู้สึกว่าได้เดินมาถูกทางแล้วและอยากอยู่ในเพศสมณะอย่างนี้ตลอดไป
|
พระธรรมทายาท
วัชรพงศ์ ภทฺทวํโส
อายุ ๒๘ ปี
ณ ศูนย์อบรมวัดธรรมาราม
จังหวัดพระนครศรีอยุทธยา |
"หลายวันต่อมา ได้ครุ่นคิดเรื่องบวชต่ออยู่เสมอ แต่อีกใจหนึ่งก็คิดค้านว่ายังมีภาระ คือต้องกลับไปหาเงินผ่อนบ้านเดือนละเกือบหนึ่งหมื่นบาท แถมยังมีแม่ที่ต้องดูแลอีกด้วย จึงคิดว่าเมื่อจบโครงการแล้วจะลาสิกขา ปรากฏว่าในคืนนั้นฝันเห็นพระเดชพระคุณหลวงปู่มาบอกว่า "ไม่ต้องห่วงแม่ เดี๋ยวหลวงปู่ดูแลให้" นับจากคืนนั้นเป็นต้นมา ก็ ฝันถึงพระเดชพระคุณหลวงปู่บ่อย ๆ ทุกครั้งที่คิดว่าจะสึก แต่กระนั้นก็ยังอดเป็นห่วงภาระทางบ้านไม่ได้ ยิ่งนานวันก็ยิ่งรู้สึกว้าวุ่นใจ
"จนเมื่อวันสิ้นสุดโครงการมาถึง คือ วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันเปลี่ยนชีวิตก็ว่าได้ เพราะก่อนจะมีพิธีลาสิกขา อาตมาแอบไปนั่งสมาธิ แล้วอธิษฐานจิตกับพระเดชพระคุณหลวงปู่ว่า "หากผมมีบุญที่จะได้บวชต่อ ก็ขอให้มีคนมาช่วยรับภาระ เรื่องบ้านให้ผมอย่างอัศจรรย์ด้วยเถิด" แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เพราะทันทีที่อาตมาลืมตาขึ้นมา ก็เจอกับกัลยาณมิตรผู้ใจบุญคนหนึ่ง คือ โยมพี่นก ใจกุศล ซึ่งเคยรู้จักกันมาอยู่ตรงหน้าพอดี หลังจาก ได้ถามสารทุกข์สุกดิบกันแล้ว และทราบว่าอาตมาบวชต่อไม่ได้ โยมพี่นกก็ออกปากทันทีว่าไม่ต้อง เป็นห่วงเดี๋ยวจะเป็นธุระจัดการให้ และขอให้อาตมา บวชต่อไป ให้ช่วยงานหลวงพ่อไปเรื่อย ๆ อย่างปลอดกังวลได้เลย
"อาตมารู้สึกอัศจรรย์ใจมากจึงได้บวชต่อมาจนถึงทุกวันนี้และอานิสงส์บวชยังส่งผลไปถึงโยมแม่ คืออาการปวดขาอย่างหนักของโยมแม่ถึงขนาด เดินไม่ได้ กลับมีอาการดีขึ้นเรื่อย ๆ จนสามารถเดิน ได้คล่องอย่างน่าอัศจรรย์ อาตมารู้สึกซาบซึ้งและตื้นตันใจ ในความเมตตาของพระเดชพระคุณหลวงปู่ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่จนไม่สามารถเอ่ยเป็นคำพูดใด ๆ ได้ อาตมาขอสัญญาว่า จะอยู่ช่วยงานหลวงพ่อเผยแผ่ และกอบกู้พระพุทธศาสนาอย่างเต็มกำลังความสามารถ"
พลิกวิกฤตชีวิตด้วยบุญ
"อาตมาเริ่มรู้จักวัดพระธรรมกายตั้งแต่สมัยยังเป็นศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรม หลังจากเรียนจบได้ มาทำบุญกับทางวัดอย่างตลอดต่อเนื่อง เคยทำงาน ไปแล้วหลายบริษัท โดยตำแหน่งล่าสุดเป็นรองกรรมการผู้จัดการบริษัทดังแห่งหนึ่ง ควบคู่ไปกับการ เป็นอาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัย ตอนนั้น ชีวิตค่อนข้างประสบความสำเร็จ มีรายได้ต่อเดือนด้วยเลข ๖ หลัก แต่ในปี พ.ศ. ๒๕๔๓ ชีวิตที่กำลังรุ่งพุ่ง แรงก็พลิกผันร่วงดับวูบแบบไม่ทันตั้งตัว เมื่อเจอวิกฤตเศรษฐกิจ ถูกเชิญออกจากงาน มีหนี้สินเพิ่มขึ้น ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ๒ เดือน ต่อครั้ง เพราะถูกฟ้องร้องเรื่องค้ำประกัน แถมยังป่วยหนักด้วยโรคเส้นเลือดในผนังสมองโป่งถึง ๔ เส้น ทางธนาคารก็โทรศัพท์มาทวงหนี้ทุกวัน บ้านและรถยนต์ที่มีอยู่ก็ทยอยถูกยึดไปจนหมด แม้ภรรยาสุดที่รักก็ยังมาขอแยกทางจากไป"
|
พระธรรมทายาท
ภิสัก สกฺกกุโล
อายุ ๕๔ ปี
ศูนย์อบรมวัดพระะรรมกาย
จ.ปทุมธานี
|
"ในตอนนั้น ทำให้อาตมามาวัดพระธรรมกายทุกวัน พอทุกข์ใจ แก้ปัญหาไม่ออก ก็จะนั่งรถเมล์มานั่งสมาธิที่ห้องปัญญา มาเป็นอาสาสมัครช่วยงาน ต้อนรับชาวต่างประเทศ ต่อสู้กับปัญหาด้วยการมาวัด ใช้วิธีสู้ด้วยบุญอย่างเต็มที่ แล้วไม่นานบุญก็ ส่งผล อาตมาได้เป็นอาจารย์สอนวิชาเศรษฐศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัยนานาชาติแห่งหนึ่ง เริ่มมีชีวิตที่สุขสบายอีกครั้ง แต่อยู่ดี ๆ ก็เกิดอาการเบื่อชีวิตขึ้นมาเสียเฉย ๆ เพราะคิดว่า "ชีวิต คนเราไม่แน่นอนเลย ตอนนี้เรากำลังรุ่งเรือง แต่ไม่รู้ว่าจะตกต่ำอีกเมื่อไร" อาตมาไม่อยากยืนอยู่บนวัฏจักรชีวิตที่ไม่แน่นอนอีกแล้ว จึงบอกกับตัวเองว่า บวชดีกว่า ทีแรกคิดว่าจะลางานไปบวชสักระยะ แต่พอนับวันลา นับไปนับมาอย่างไรก็ไม่ครบพรรษา สุดท้ายจึงตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว คือ ลาออก
"พอมาเข้าโครงการแล้ว คิดว่า "เรามาถูกทางแล้ว" ผ่านการอบรมไปได้ ๒ อาทิตย์ นั่งสมาธิ ใจนิ่ง ก็เห็นดวงแก้วในศูนย์กลางกาย ตอนนั้นเห็นดวงแก้วชัดประมาณ ๖๐ เปอร์เซ็นต์ หลังจากนั้นอีกหนึ่งอาทิตย์ ขณะที่มองดวงแก้วไปเรื่อย ๆ ใจก็นิ่งมาก ๆ อยู่ ๆ ภาพดวงแก้วก็กลายเป็นองค์พระ มีสีเงินใส ๆ ยิ่งกว่าสีของปรอท มีความเงางาม สวยงามมาก ตอนนั้นรู้สึกสบายใจ เหมือนตัวเราเป็นองค์พระที่นั่งอยู่ท่ามกลางความสว่างสีขาว ๆ เต็มไปหมด พอลืมตาแล้วรู้สึกปลอดโปร่ง มีอารมณ์ สบายตลอดเวลา จิตใจก็เต็มอิ่มไม่อยากได้อะไรอีกเลย แล้วเวลานั่งสมาธิถ้าใจนิ่งดี องค์พระก็จะมาให้เห็นได้ บางครั้งก็เป็นองค์เล็ก ๆ บางครั้งท่าน ก็ขยายใหญ่ได้ ยิ่งได้นั่งสมาธิมาก ๆ ทุกวัน อาตมา ก็ยิ่งมั่นใจว่า "การบวชนี่แหละ คือ ชีวิตที่แท้จริงของเรา"
จังหวะสว่างของชีวิต คือ การได้มาบวช
"ในอดีตอาตมาหลงใหลในเสียงดนตรีมา ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก จึงผันชีวิตตัวเองเป็นนักร้องตั้งแต่ อายุ ๑๗ ปี ตอนนั้นทั้งดื่ม ทั้งเที่ยว และด้วยความ เป็นหนุ่มฮิบฮอปมาดเซอร์ จึงใช้ชีวิตอย่างอิสระ แบบคนทางโลก ไม่เคยคิดที่จะเข้าวัดหรือสนใจเรื่อง ศาสนาเลยแม้แต่นิดเดียว"
|
พระธรรมทายาทพยุงฤทธิ์ พลยุตฺโต
อายุ ๓๓ ปี ศูนย์อบรมวัดพระธรรมกาย
จ.ปทุมธานี
|
"ช่วงประมาณ ๔ ปีที่ผ่านมา เหมือนจู่ ๆ บุญ ได้ช่องส่งผล เกิดถามตัวเองขึ้นมาเสียเฉย ๆ ว่า "เราเกิดมาแค่ใช้ชีวิตสนุกไปวัน ๆ ทำงาน มีครอบครัว เท่านั้นเองหรือ" อาตมาเริ่มเซ็งและเบื่อ รู้สึกว่าชีวิตกลางคืนไม่สนุกอีกแล้ว จึงไปหาหนังสือสวดมนต์มา หัดสวด ตอนที่สวดคาถาชินบัญชร อาตมาตื้นตันจนน้ำตาไหล เหมือนคุ้นเคยกับการสวดมนต์แบบนี้ มานาน จากนั้นก็ไปกว้านซื้อหนังสือธรรมะมาอ่าน อย่างจริงจัง แล้วยังเปิดอ่านธรรมะทางอินเทอร์เน็ต ทุกวันอีกด้วย ตอนนั้นรู้สึกว่าชีวิตแบบนี้มีความสุขมาก ๆ
"วันหนึ่งขณะที่ดูเคเบิลทีวีอยู่ที่บ้าน บังเอิญเปิดไปเจอช่อง DMC พออาตมาเห็นโฆษณาชวนบวช พระโครงการแสนรูป ก็รู้สึกว่าเป็นการบวชที่อลังการ สุด ๆ และคิดว่า "สักวันหนึ่ง เราจะต้องบวชแบบนี้ให้ได้" หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ข่าวว่าจะมีโครงการบวชเข้าพรรษา อาตมาจึงตัดสินใจเคลียร์งานทั้งหมด อย่างไม่ลังเล เพราะคิดอย่างเดียวว่า ถึงเวลาแล้วที่จะบวช
"พอมาบวชก็ได้นั่งสมาธิทุกวัน วันหนึ่งอาตมา นั่งหลับตาเบา ๆ ทำตัวสบาย ๆ ตามที่หลวงพ่อสอน ปล่อยวางทุกอย่าง โดยตั้งจิตอย่างแน่วแน่ แล้วภาวนา "สัมมาอะระหัง" ไล่ความรู้สึกไปตามฐาน ที่ ๑ ถึงฐานที่ ๗ สักพักใหญ่ ๆ ใจก็เริ่มสงบ รู้สึกว่าข้างในมันสดชื่นมาก แล้วก็เห็นองค์พระอยู่ตรงหน้า ท่านหมุนรอบตัวเองเหมือนนั่งสมาธิอยู่บนสแตนด์โชว์ ก็มองนิ่ง ๆ ไม่คิดอะไร อยู่ ๆ ท่าน ก็เข้ามาหมุนอยู่ในท้อง องค์พระเป็นองค์ใส ๆ เหมือน จะดึงให้ดิ่งลึกเข้าไป...ลึกเข้าไป ทำให้ไม่อยากออก จากสมาธิเลย" "พอได้ยินหลวงพ่อย้ำว่า "ถ้าเห็นองค์พระแล้ว อย่าให้หายนะลูก" อาตมาก็พยายามทำสบาย ๆ ทำใจให้เป็นสมาธิ ตอนนี้ไม่ว่าจะทำอะไร จะรู้สึกว่า มีองค์พระอยู่ด้วยตลอดเวลา บางวันก็เป็นองค์เล็ก ๆ บางวันท่านก็ใหญ่มากจนอาตมาเข้าไปนั่งอยู่ในองค์ พระได้ องค์พระที่เห็นมีมิติ เป็นผลึกใสกว่าแก้ว สว่างจ้าแต่นวลตา สวยงามมากจนไม่รู้จะเทียบกับอะไร แล้วทุกครั้งที่นั่งสมาธิจะมีความสุขมากจนบรรยายไม่ถูก อยากให้พระธรรมทายาททุกรูปขยัน นั่งสมาธิ เคล็ดลับอยู่ที่เราแค่ทำตามที่หลวงพ่อสอน เท่านั้นเอง ถ้าทำได้ เราก็จะเห็นได้ แล้วของแบบนี้ ต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองถึงจะเข้าใจลึกซึ้ง"
บวชสองชั้นเป็นพระแท้
แด่โยมพ่อโยมแม่
พระธรรมทายาทรอน สิทฺธิโชโต อายุ ๒๑ ปี
ศูนย์อบรมวัดป่าอุทยาน
อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู
"ก่อนมาบวชอาตมาเคยมีชีวิตผิดพลาดตาม ประสาวัยรุ่นส่วนใหญ่ที่ปล่อยให้ชีวิตล่องไหลไปกับค่านิยมที่ผิด ๆ เป็นนักเรียนนักเลงที่จมปลักอยู่ในอบายมุขและการตีรันฟันแทงจนต้องพักการเรียนใน ที่สุด ตอนนั้นพอเห็นน้ำตาของแม่แล้วก็รู้สึกผิดมาก รู้ว่าตัวเองกำลังทำบาปอย่างมหันต์ ที่ทำให้แม่ต้องร้องไห้เสียใจ และคิดว่าในชีวิตนี้ต้องบวชทดแทนคุณพ่อแม่ให้ได้
"พอออกจากโรงเรียนแล้ว อาตมาก็ไปทำงาน เป็นลูกจ้างส่งน้ำแข็ง ต้องตื่นตั้งแต่ตี ๕ กว่าจะเลิก ก็ประมาณ ๓ ทุ่ม ช่วงนั้นทั้งทำงานหนักและเหนื่อย แต่ก็อดทน เพราะอยากเก็บเงินเอาไว้บวชพระ ทำชีวิตให้ดีขึ้น เพื่อไถ่โทษที่เคยทำผิดกับพ่อแม่ อาตมา อยากบวชมากจนเอาไปนอนฝันว่ามีเทวดา ๒ ตน ใส่ชุดขาวสวมชฎามาบอกให้ไปบวชทดแทนพระคุณ พ่อแม่ พอเล่าความฝันให้แม่ฟัง แม่ก็บอกว่า พอดี เลย แม่เพิ่งไปเจอคนรู้จักมา เขาบอกว่ามีโครงการบวชพระแสนรูปเข้าพรรษา พอฟังปุ๊บก็อยากบวชปั๊บ แล้วศูนย์อบรมก็อยู่ใกล้ ๆ บ้าน จึงเข้าไปเขียน ใบสมัครบวชทันที
"เมื่อเข้าโครงการ อาตมาพยายามทำตาม ระเบียบวินัยทุกอย่าง และหักดิบเลิกสูบบุหรี่ เพราะ หวังอยากเอาบุญให้พ่อให้แม่อย่างเต็มที่ และตั้งใจนั่งสมาธิเพื่อให้ได้บุญมาก ๆ มีอยู่วันหนึ่งอากาศดีมาก ทำให้รู้สึกสบายใจ พอนั่งสมาธิดูดวงแก้วไป ไม่นาน ใจนิ่งมาก อยู่ ๆ ดวงแก้วก็สว่างจ้า สวยยิ่งกว่าเพชร มองเฉย ๆ ก็เห็นองค์พระแก้วใสเป็นภาพราง ๆ ชัดประมาณ ๖๐ เปอร์เซนต์ นั่งสมาธิอยู่กลางดวงแก้ว พอเห็นองค์พระแล้ว ตอนนั้นจิตใจเยือกเย็นมาก รู้สึกมีความสุขที่สุด แล้วอาตมา ก็นึกเอาโยมพ่อโยมแม่มานั่งสมาธิอยู่ในศูนย์กลางกายด้วย
"ตั้งแต่ได้มาบวช รู้สึกชีวิตมีความสุขทุกวัน แม้ชีวิตพระจะเรียบง่าย ไม่มีแสง สี เสียง แต่กลับทำให้สุขใจอย่างที่สุด ได้เรียนรู้ธรรมะ มีธรรมะเป็น ที่พึ่ง รู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี ทำให้อาตมาสามารถ เปลี่ยนแปลงตัวเองไปเป็นคนละคน อาตมาคิดว่า ศักดิ์ศรีของลูกผู้ชาย จริง ๆ แล้วไม่ได้วัดกันที่ความ รุนแรงกล้าได้กล้าเสีย แต่การที่เรากล้าเปลี่ยนแปลง ตัวเองให้ดีขึ้นต่างหาก คือ ศักดิ์ศรีที่แท้จริง แล้ว การที่ได้มาบวชเป็นพระแท้อย่างน้อย ๑ พรรษา ทำให้โยมพ่อโยมแม่ได้ชื่นใจอยู่ตลอดเวลา นี้คือ หน้าที่ที่แท้จริงที่ลูกผู้ชายทุกคนต้องทำ
|
"ตั้งแต่ได้มาบวชในโครงการ รู้สึกมีความสุขทุกวัน
แม้ชีวิตพระจะเรียบง่าย ไม่มีแสง สี เสียง แต่กลับทำให้สุขใจอย่างที่สุด" |
ในโลกใบนี้..จะมีใครสักกี่คนที่รู้ว่าชีวิตที่สูงส่ง น่าเคารพกราบไหว้บูชาที่สุดนั้นไม่ใช่มหาเศรษฐีหรือ ผู้ที่มียศถาบรรดาศักดิ์ใด ๆ ทั้งสิ้น แต่กลับเป็น นักบวช ผู้ที่ได้ครองผ้ากาสาวพัสตร์ ผู้ที่มีเป้าหมาย เดียว คือ ทำพระนิพพานให้แจ้ง เพื่อสลัดตนให้พ้น จากกองทุกข์ ดังโอวาทของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ที่ว่า "ชีวิตอะไรจะมาประเสริฐเท่ากับชีวิตสมณะเป็นไม่มี ชีวิตสมณะเป็นชีวิตสุดท้ายที่สมบูรณ์แบบที่สุด ไม่ว่า ใครจะมีฐานะหรือฐานันดรสูงส่งแค่ไหน แม้เป็นถึง พระเจ้าจักรพรรดิ ก็ยังไม่ชื่อว่าประสบความสำเร็จ ในชีวิต ยังไม่ชื่อว่า เป็นชีวิตที่สูงส่ง"
เมื่อรู้อย่างนี้แล้วอย่าปล่อยให้ผ่านเลยไป หาโอกาสให้ชีวิตได้เกิดใหม่ในเพศสมณะ เพื่อเดินตาม รอยบาทแห่งองค์พระสัมมาฯ แสวงหาหนทางแห่งการพ้นทุกข์ให้ได้ ..อย่างน้อยก็สักครั้งในชีวิต