เรื่องจากปก
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
|
บ้านของฉัน....
ดอกไม้ ประตู แจกัน ดินทราย ต้นไม้ใหญ่
แก้วน้ำ จานชาม บันได โคมไฟที่สวยงาม
ขอบรั้วและริมทางเดิน ต้นหญ้าอยู่ในสนาม
บ้านนี้จะมีความงามได้ถ้ามีเธอ...
ถ้อยความประโยคข้างต้น เป็นบทเพลงอันแสนอุ่นที่มีชื่อสั้น ๆ ว่า Home ขับร้องโดยศิลปิน : ธีร์ ไชยเดช กล่าวกันว่า เพลงนี้ทำให้ผู้คนคิดถึงบ้านและอยากกลับบ้านเร็วขึ้น ซึ่งถ้าบ้านทุกหลังอบอุ่นเหมือนความรู้สึกในบทเพลงก็คงจะดีไม่น้อย
แทบจะกล่าวได้ว่า บ้านคือสิ่งที่มีความหมายต่อทุกผู้คน เป็นทั้งที่เกิด ที่พักพิง หรือกระทั่งเลือกจะให้เป็นที่ตาย ไม่ว่าจะเจ็บป่วยอย่างไร ลมหายใจเหนื่อยอ่อนแค่ไหน ถ้าจะตายบางคนขอเลือกที่จะกลับไปตายที่บ้าน เพราะความสุขและความอบอุ่นที่มนุษย์ทุกคนได้รับล้วนเริ่มต้นจาก บ้าน
ในอดีตเราสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า บ้านคือหัวใจ เป็นสายใยรักของครอบครัว แต่ในวันนี้ผู้คนอาจจะพูดคำนี้ได้แผ่วเบาลงเพราะปัญหา บ้านแตก เริ่มเสียงดังกว่า ซึ่งเสียงที่ดังและแหบพร่านี้มีต้นเหตุมาจากการไร้ซึ่งศีลธรรม
บังเกิดบ้านแห่งการฟื้นฟูศีลธรรม บ้านกัลยาณมิตร
ด้วยมองเห็นความสำคัญของศีลธรรมในบ้าน ด้วยเหตุนี้ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) ประธานมูลนิธิธรรมกาย จึงมีดำริให้สถาปนา บ้านกัลยาณมิตร ขึ้นเป็นครั้งแรกในปีพุทธศักราช ๒๕๔๒ เพื่อเผยแผ่ธรรมะให้ขยายไปสู่ทุกครัวเรือน เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันทางศีลธรรมให้แก่สมาชิกทุกคนในครอบครัว ให้สามารถห่างไกลจากอบายมุขและสิ่งไม่ดีต่าง ๆ ที่แฝงมากับกระแสสังคมปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเป็นการขยายเครือข่ายคนดีในสังคมให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง ภายใต้คำขวัญที่ว่า หันไปรอบทิศ ให้มีกัลยาณมิตรรอบตัว ถ้าบ้านทุกหลังอบอุ่นและเข้มแข็งด้วยศีลธรรม ย่อมส่งผลให้สังคมและประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองทั้งทางด้านเศรษฐกิจและจิตใจ สามารถที่จะเปลี่ยนสังคมไทยและโลกใบนี้ให้เป็นโลกแก้วที่มีสันติภาพได้ในที่สุด
เราจะเป็นผู้หนึ่งที่หยิบยื่นโอกาสแห่งความสงบสุขภายใน
ให้แก่เพื่อนมนุษย์และสร้างสันติภาพโลกให้บังเกิดขึ้น
บ้านกัลยาณมิตรคืออะไร?
บ้านกัลยาณมิตร คือ บ้านที่มีการจัดกิจกรรมเพื่อทำความดีตามวิถีของชาวพุทธ โดยเริ่มต้นง่าย ๆ จากการเชิญชวนสมาชิกในครอบครัวรวมถึงเพื่อนบ้านมาร่วมกันสวดมนต์ นั่งสมาธิ และฟังธรรม อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกทุกคนในครอบครัว ได้มาทำความดีร่วมกัน อันเป็นการถักทอสายใยรักในครอบครัวให้อบอุ่นแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังเป็นการเปิดโอกาสให้เจ้าของบ้านกัลยาณมิตรทุกท่านได้ทำหน้าที่กัลยาณมิตร เชิญชวนหมู่ญาติมิตรและผู้คนในชุมชนให้มาประพฤติปฏิบัติธรรมร่วมกัน เพื่อสร้างชุมชนรอบข้างให้สงบสุขและปลอดภัย เนื่องจากคนเรานั้นจะเป็นคนดีเพียงลำพังไม่ได้ เพราะตราบใดที่สังคมยังเต็มไปด้วยคนพาล ไม่ช้าก็เร็วคนดีก็ย่อมมีโอกาสถูกเบียดเบียนจากคนพาลเข้าสักวัน
บ้านเปลี่ยนโลก
คงจะดีไม่น้อย..ถ้าเราสามารถเปลี่ยนบ้านของเราให้เป็นวิมานแห่งการสั่งสมบุญ ไม่ว่างเว้นจากเสียงสวดมนต์ ไม่ว่างเว้นจากการเจริญภาวนา จากความรู้สึกของผู้เปิดบ้านกัลยาณมิตรได้ยืนยันว่า บ้าน สามารถเปลี่ยนโลกได้จริง ๆ ดังเช่น เรื่องราวของ
คุณพรรณี จริเกษม และลูก ๆ ซึ่งมีโอกาสไปนั่งสมาธิ ณ บ้านกัลยาณมิตรแห่งหนึ่งใกล้ ๆ บ้าน จนได้พบหนทางสว่างภายใน และลูกของเธอจากที่เคยดื้อ งอแง เอาแต่ใจตัวเอง กลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน มีจิตใจละเอียด ว่านอนสอนง่าย ไม่ทะเลาะกันเหมือนเคย เธอถึงกับกล่าวว่า จากบ้านกัลยาณมิตรใกล้บ้าน ทำให้ครอบครัวของเราได้สิ่งที่ดี ๆ ใหม่ ๆ แม่เหมือนกับได้ลูกคนใหม่ ลูกก็บอกว่าเหมือนได้แม่คนใหม่ ทุกคนต่างมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น อยู่รวมกันอย่างมีความสุข การค้ากลับดีขึ้น เงินทองไหลมา จริง ๆ ซื้อง่ายขายคล่อง กำไรงาม บางวันได้เงินสดเข้ามาเป็นล้าน ๆ บาท
คุณนพรัตน์ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้กล้าสวมหัวใจของยอดกัลยาณมิตร เปิดบ้านของตนเองให้เป็นบ้านกัลยาณมิตร ท่ามกลางสภาพสังคมที่มืดมนในชุมชนสลัม เด็ก ๆ มาปรับทุกข์ว่าไม่มีความสุข พ่อแม่กินเหล้า และชอบทะเลาะกัน จึงมาขอสวดมนต์นั่งสมาธิด้วย นี่คือแรงบันดาลใจที่ทำให้คุณนพรัตน์ลุกขึ้นมาเปิดบ้านกัลยาณมิตร เพื่อมอบชีวิตใหม่ให้กับเด็ก ๆ ในสลัม นอกจากสวดมนต์ นั่งสมาธิ คุณนพรัตน์ยังสอน การใช้ชีวิต สอนให้ลด ละ เลิกอบายมุข ใจของเด็กก็เริ่มเข้าไปสัมผัสกับความบริสุทธิ์ภายใน กลายเป็นใจที่อ่อนโยน มีพลัง และพร้อมที่จะรับคุณธรรมความดีต่าง ๆ ผู้ปกครองบางคนถึงกับมาขอบคุณที่ช่วยลูกหลานให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น คุณนพรัตน์กล่าวด้วยแววตาที่ปีติในบุญที่ตนได้รับ คิดไม่ผิดที่เปิดบ้านกัลยาณมิตร เพราะผลตอบแทนที่ได้คือความสุขใจที่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของเด็กน้อยที่มา สวดมนต์ นั่งสมาธิ ฟังธรรม ที่บ้านแก้วกลางสลัมแห่งนี้
การสวดมนต์นั่งสมาธิและฟังธรรมอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
ช่วยเปิดโอกาสให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวได้มาทำความดีร่วมกัน
โครงการบ้านกัลยาณมิตร
Change the World
บัดนี้นับเป็นโอกาสครั้งสำคัญของชีวิต ที่อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนทุกท่านจะได้มีส่วนร่วม ในการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ด้วยการเปิดบ้านกัลยาณมิตร โดยใช้บ้านของตนเอง รวมถึงวัด โรงเรียน หรือแม้แต่สถานที่ราชการและบริษัทห้างร้าน ในการจัดกิจกรรมบ้านกัลยาณมิตร เพื่อรวมคนมาสวดมนต์ นั่งสมาธิ เพียงสัปดาห์ละครั้ง และไปปฏิบัติธรรมที่วัดพระธรรมกายอย่างน้อยเดือนละ ๑ ครั้ง โดยเริ่มต้นโครงการตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นต้นไป
หลังจากเสร็จสิ้นโครงการ อุบาสิกาแก้วทุกท่านที่เป็นต้นบุญเปิดบ้านกัลยาณมิตรจะได้รับประกาศนียบัตร เพื่อประกาศคุณความดีให้มนุษย์และเทวาได้ร่วมอนุโมทนาและเพื่อเป็นเครื่องตรึกระลึกนึกถึงบุญใหญ่ จากการทำหน้าที่กัลยาณมิตรสร้างเครือข่ายคนดีให้เกิดขึ้นทั่วไทย อันจะเป็นก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้บังเกิดสันติภาพที่แท้จริง
จึงมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่เหล่าอุบาสิกาแก้วจะต้องช่วยกันเร่งสร้างคนดีให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ด้วยการพร้อมใจกันเปิดบ้านกัลยาณมิตรให้เกิดขึ้นทั่วทุกหมู่บ้าน ตำบล และอำเภอนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
บ้านกัลยาณมิตรพิชิตปัญหาสังคม
บ้านกัลยาณมิตรเป็นสิ่งที่ควรจะรีบสถาปนากันให้บังเกิดขึ้น ให้เร็วทันกับการแก้ไขปัญหาสังคม และการสั่งสมบุญของเรา หลวงพ่อเชื่อว่าบ้านกัลยาณมิตรจะมีส่วนในการแก้ไขปัญหาสังคมได้อย่างดีที่สุดทางหนึ่งทีเดียว เพราะว่าได้แก้ที่ต้นเหตุ ตรงแหล่งกำเนิดของความคิดคือจิตใจ ถ้าแหล่งกำเนิดแห่งความคิดนั้นบริสุทธิ์ ก็จะคิดดี พูดดี ทำดี ผลที่ออกมาก็จะเป็นสิ่งที่ดี ๆ เกิดขึ้นมา
เพราะฉะนั้น การสถาปนาบ้านกัลยาณมิตรเป็นสิ่งที่ควรจะทำกันเป็นกรณียกิจ คือกิจที่ควรทำ เพื่อประโยชน์ของตัวเราและเพื่อประโยชน์ของชาวโลก เพราะฉะนั้น ใครที่ยังไม่ได้สถาปนาให้กลับไปสถาปนาให้ได้ แม้บ้านเล็ก เราอย่าไปอาย ให้ทำบ้านของเราให้สะอาด ไม่รกรุงรัง แล้วก็ไม่ต้องไปซื้อหาอุปกรณ์อะไรกันมามากมาย ขอเพียงให้มีบ้าน มีห้องที่สะอาด แล้วเราก็มารวมกันสวดมนต์ ไหว้พระ เจริญภาวนากัน ไม่มีโต๊ะหมู่เราก็เอาโต๊ะเดี่ยว ไม่มีโต๊ะเดี่ยวก็หาหิ้งมาก็ได้ ไม่มีหิ้งจะวางพระ เราก็เอารูปภาพพระพุทธรูปแขวนเอาไว้ก็ได้ เราจะอยู่กับพระพุทธเจ้า อยู่กับพระรัตนตรัย หลังจากนั้นก็สวดมนต์ ไหว้พระ เจริญภาวนากันไป ทำง่าย ๆ อย่างนี้ ทำแค่นี้ก็บรรลุวัตถุประสงค์ของบ้านกัลยาณมิตรแล้ว