ฟ้าแลบแปลบปลาบ ฟาดเปรี้ยงไม่ขาดระยะ ธรรมชาติระเบิดเสียงหัวเราะสนั่นหวั่นไหว คล้ายจะช่วยปลุกมนุษย์ไร้เดียงสาซึ่งกำลังหลับใหลอย่างเป็นสุข ให้ตื่นขึ้นมาระแวดระวังภัยที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งไม่มีใครบอกได้ว่าเมื่อไหร่...ที่ไหน...และอย่างไร   หลายวันมาแล้ว...ฝนเดือนพฤษภาคมกระหน่ำหนัก...

      ทุกครั้งที่ฟ้าสว่างวาบ เผยให้เห็นแพน้ำเป็นวังวนใหญ่กำลังเคลื่อนไปข้างหน้า มันไหลลิ่วๆ จากเนินเขา หลากเลื่อนขนานไปตามแนวพื้นดิน พัดพาเอาดินโคลน ท่อนซุงและเศษไม้ ลอยปราดผ่านตาไปอย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว กระชากสายน้ำเข้าใส่หมู่ไม้บิดตัวเอนลู่ไหวสะท้านอยู่ในลมมรสุม ส่งสัญญาณเตือนภัยที่ไม่มีใครคาดคิด

     ท้องฟ้าครึ้มหม่นมัว ฝนตกไม่ขาดเม็ดตลอดทั้งคืน ธารน้ำผสมกับโคลนข้นไหลทะลัก หอบเอาน้ำป่าพัดผ่านชายคากระท่อมปลายนา เรือกสวน โรงเรียน เลื่อนไหลเข้ามาใกล้หมู่บ้าน ลีลาประดุจการเคลื่อนตัวของงูใหญ่ สายลมกรูเกรียวไล่ระลอก กลบเสียงผู้คนที่ร้องขอความช่วยเหลือ ขยอกกลืนทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่เบื้องหน้า เพียงชั่วข้ามคืน...พื้นดินและถนนทุกสายหายวับไปจากสายตา

          รุ่งเช้ากลายเป็นข่าวใหญ่ วันอังคารที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ ทุกหน้าหนังสือพิมพ์พาดหัวข่าว

\

   ... อุทกภัยร้ายแรงที่สุดในรอบ ๕๐ ปี "น้ำป่าไหลหลาก-ดินโคลนถล่ม" พื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ทรัพย์สินบ้านเรือนเสียหายมหาศาล มีผู้เสียชีวิตและสูญหายกว่า ๓๐๐ ... 

   ... สำรวจความเสียหายน้ำท่วมโรงเรียนในจังหวัดอุตรดิตถ์ แพร่ สุโขทัย  ชี้ไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ ระบุหลายแห่งมีน้ำท่วมสูงถึง ๔ เมตร ...

     ภาพที่ปรากฏบนจอโทรทัศน์ทุกช่อง สร้างความสะเทือนใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ กระแสน้ำเชี่ยวกราก ดินโคลน ซากปรักหักพังที่ทับถมกัน เสียงร่ำไห้ของพี่น้องในสี่จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง คือความสูญเสียที่ไม่มีใครคาดคิด มูลค่าความเสียหายภายนอก ยังเทียบไม่ได้กับความเสียหายทางจิตใจของผู้ประสบภัย ซึ่งไม่อาจวัดประเมินค่าออกมาเป็นตัวเลข

    ต้องขอชื่นชมการทำงานอย่างเสียสละของข้าราชการ ทหาร เจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกๆ ฝ่าย ทุกๆ คนที่ทำให้การช่วยเหลือสามารถกระทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว กลุ่มคนเหล่านี้คือกำลังสำคัญในการลดทอนความรุนแรงของภัยพิบัติให้เบาบางลง และเช่นเดียวกับทุกครั้ง ธารน้ำใจจากทั่วสารทิศต่างหลั่งไหลเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องร่วมชาติ อย่างไม่ต้องร้องขอ

     ในส่วนของจังหวัดอุตรดิตถ์  จากเหตุการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ประธานมูลนิธิธรรมกาย แสดงถึงความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระภิกษุสามเณรภายในวัด ซึ่งได้รับความเดือดร้อนอย่างมากเช่นกัน ท่านมอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งเครื่องอุปโภคบริโภค และเงินทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย และแพร่ ตั้งแต่วันที่ ๒๓-๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๙

          จุดแรกมอบผ่านมูลนิธิกู้ภัยวัดหมอนไม้ โดยพระปลัดพิบูลย์ วรญาโณ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เป็นผู้แทนรับมอบ

          จุดที่ ๒แฟลตตำรวจ ผู้แทนรับมอบ คือ พ.ต.อ.สิทธิวีร์ วิชัยธนพัฒน์ รองผู้บังคับกำกับการตำรวจภูธรอุตรดิตถ์ ซึ่งมีผู้ได้รับความเดือดร้อนกว่า ๓๐๐ ครอบครัว

          จุดที่ ๓ วัดท่าปลา อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ โดยมีพระเทพปริยัติวิธาน เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ เจ้าอาวาสวัดคลองโพ เป็นผู้แทนรับมอบ

          ส่วนในจังหวัดสุโขทัยนั้น ผู้แทนมูลนิธิธรรมกาย ได้มอบผ่านเลขาธิการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

         นอกจากนี้ยังได้ประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องนักสร้างบารมีทั้งภายในและต่างประเทศ ซึ่งพร้อมใจกันส่งความช่วยเหลือเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย นับเป็นความร่วมแรงร่วมใจกันของเหล่าพุทธบริษัท ๔ ทั้งพระภิกษุสามเณร อุบาสก อุบาสิกา ซึ่งผู้ประสานงานได้นำคาราวานรถ ไปแจกจ่ายถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัย เพิ่มขึ้นอีกหลายแห่ง นับเป็นเรื่องที่น่าอนุโมทนาเป็นอย่างยิ่ง

       จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ เป็นเครื่องเตือนใจให้เราย้อนกลับมามองตนเอง และสิ่งรอบข้าง ว่าโลกใบนี้ ...ยังคงความอุดมสมบูรณ์ในตัวเอง ตราบเท่าที่สิ่งมีชีวิตภายในโลก ยังมองเห็นคุณค่าและหวงแหนรักษาธรรมชาติไว้ นึกถึงความงดงามของโตรกธาร กลางโขดเขินเนินไศล "ป่าไม้" นอกจากให้ความร่มเย็น ยังสะท้อนไปถึงหม้อข้าว หม้อแกงใบใหญ่

        ...นับย้อนหลังไปหลายร้อยปี ภัยธรรมชาติไม่ใช่เรื่องใหม่ เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า... เหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามา ถามตัวเราเองเถิดว่า ...ชีวิตนี้เรามีความดีเต็มที่ เพียงพอจะเป็นหลักประกัน ให้เราไม่หวั่นไหวกับสิ่งที่จะเป็นไปในอนาคต แล้วหรือยัง ถ้ายัง...เรามาเริ่มกันเสียแต่วันนี้ดีไหม ด้วยการตั้งใจทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา น้อมนำพระรัตนตรัยมาตั้งไว้กลางใจ ให้เป็นหลักชัยในชีวิต ตรึงติดเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียว ไม่มีสิ่งใดยิ่งกว่า ดำเนินตามรอยบาทพระบรมศาสดา สมดังพุทธพจน์ ที่ว่า

อปฺปมตฺโต ปมตฺเตสุ สุตฺเตสุ พหุชาคโร
อพลสฺสํว สีฆสฺโส หิตฺวา ยาติ สุเมธโส

 คนมีปัญญาดี ไม่ประมาทในเมื่อผู้อื่นประมาทมักตื่นในเมื่อผู้อื่นหลับ ย่อมละทิ้งคนเขลาเหมือนม้าฝีเท้าดี ละทิ้งม้าไม่มีกำลังไป ฉะนั้น