อานุภาพ “สัมมา อะระหัง”
เรื่อง : พระบริบูรณ์ ธมฺมวิชฺโช
“สัมมา...อะระหัง”
ดีอย่างไร พิสูจน์ได้ด้วยตนเอง
การเจริญภาวนานั้นมีอานิสงส์และมีอานุภาพมาก เพราะเป็นผลที่จะนำไปสู่การชำระจิตใจของเราให้ใสสะอาดโดยตรง เมื่อใจของเราสะอาดก็จะส่งผลให้ทุกอย่างในชีวิตดีตามไปด้วย เพราะทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเริ่มต้นที่ใจของเราทั้งสิ้น ดังนั้นการนิยมสวดมนต์ ไหว้พระนั่งสมาธิสม่ำเสมอ จะก่อให้เกิดผลดีต่อจิต และเมื่อจิตผ่องแผ้วก็ถือเป็นโอสถทิพย์ที่ส่งผลให้ร่างกายสร้างและหลั่งฮอร์โมนที่เป็นปกติ ทำให้ร่างกายสมดุล เมื่อร่างกายสมดุล บุคคลนั้นจะอายุยืน ปราศจากทุกขเวทนา ในเรื่องอานิสงส์หรืออานุภาพของการเจริญภาวนานั้น ในฉบับนี้มีตัวอย่างอันน่าอัศจรรย์จากผู้มีประสบการณ์ตรงจากการภาวนา “สัมมา อะระหัง” มาถ่ายทอดให้สาธุชนทุกท่านทราบ เพื่อเป็นกำลังใจในการประพฤติปฏิบัติเช่นเคย...
เห็นดวงใส..บนมอเตอร์ไซค์ คุณเนตรนภา ชื่นพยอม
เข้าวัดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๓ อยู่ในบุญตลอดเวลา สั่งสมบุญทุกบุญ ไม่ตกบุญเลย นั่งสมาธิทุกวัน ตอนนี้มาอยู่ข้างวัด ทำบุญทุกวัน เช้าก็มาหอฉัน ปีที่แล้วมีคนมาชวนให้ภาวนา ‘สัมมา อะระหัง’ ๕๐๐ ครั้ง ก็ปฏิเสธไปเลยว่า ทำไมจะต้อง ‘สัมมา อะระหัง’ ๕๐๐ ครั้ง เพราะ ‘สัมมา อะระหัง’ อยู่แล้ว นั่งสมาธิอยู่แล้ว ก็ไม่เข้าโครงการ จนกระทั่งเดือนเมษายนมีน้องมาจากต่างประเทศ เขาบอกให้พาเขาไปห้องท่อง ‘สัมมา อะระหัง’หน่อย เขาไปไม่ถูก ก็เลยจำใจต้องพาเขาไป ทำให้ได้ฟังผู้มีประสบการณ์ท่อง ‘สัมมา อะระหัง’ ๕๐๐ ครั้ง แล้วได้ดวงแก้วจากพระอาจารย์ไปด้วย กลับไปก็ลองภาวนา ‘สัมมา อะระหัง ๑ สัมมา อะระหัง ๒ สัมมา อะระหัง ๓...’ รู้สึกได้เลยว่าทำให้ใจเรานิ่ง นั่งสมาธิได้ดีขึ้น
“ทุกวันดิฉันต้องไปรับบุญดูแลต้นไม้ให้หลวงพี่ ขับมอเตอร์ไซค์ไป ก็ต้องระวังอุบัติเหตุ ขึ้นรถปุ๊บท่องเลย ‘สัมมา อะระหัง ๑ สัมมา อะระหัง ๒ สัมมา อะระหัง ๓...’ ครบ ๑๐๐ ก็เริ่มใหม่ ไปถึงที่ก็ได้ ๔๐๐ ครั้ง ขากลับก็ภาวนาอีก ได้ ๔๐๐ ครั้ง ภาวนาทุกวัน มีความสุขทุกวัน
“ภาวนาไปประมาณเดือนหนึ่ง ก่อนนอนก็ภาวนา ทำให้มี ความสุข มีอยู่วันหนึ่ง ตื่นเช้าขึ้นมารู้สึกสดชื่นขึ้นมาก เพราะก่อนนอนภาวนา ‘สัมมา อะระหัง’ ได้ ๔๐๐ ครั้ง แล้วก็หลับไปเลย นึกถึงบุญที่ทำมาทุกบุญ ทบทวนบุญแล้วก็หลับไป ตื่นเช้าวันนั้นรู้สึกสดชื่นมาก ตอนไปรับบุญ ขึ้นรถปุ๊บก็ ‘สัมมา อะระหัง’ ทันทีเลย แต่วันนั้นขนลุก ภาวนาไปก็ขนลุกไป ขากลับอยู่ ๆ ก็เหมือนโดนดูด ตัวหายไปเลยเป็นท่อดูดเราแรงมาก แล้วเห็นดวงใส ๆ เท่ากับลูกส้มโอ มีความสุข ขนลุก ยิ่ง ‘สัมมา อะระหัง’ ยิ่งชัด สว่างมาก และมีความสุข ขับรถไปยิ้มกับตัวเองไป
“ทุกวันนี้เวลารับบุญอะไรก็ภาวนา ‘สัมมา อะระหัง’ ตลอดถ้าภาวนาแล้วใจมีความสุข จะรีบนั่งหลับตาทันที ‘สัมมา อะระหัง’ ต่อ สามารถเอาใจแตะที่ศูนย์กลางกายได้บ่อยมากขึ้น ทุกวันนี้มีความสุขมาก ไม่คิดว่าแค่เราตั้งใจภาวนา ‘สัมมา อะระหัง’ ๑ ถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ทำให้สมาธิเราดีขึ้นอย่างมากมาย ตอนนี้ไปตลาดไทก็ไปชวนแม่ค้าภาวนา ‘สัมมา อะระหัง’ ไปเจอเพื่อนก็ชวนเพื่อนภาวนา เพราะว่าตัวเองเสียดายที่เสียเวลาไปตั้งหลายเดือน ไม่มาภาวนากับเขาพอภาวนาแล้วก็ได้ประสบการณ์ภายในที่ดีกลับคืนมา”
ไฟไหม้..หายเจ็บ คุณบดินทร์ วัชโรบล
“เหตุการณ์เกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๙ ขณะเกิดเหตุมีสิบล้อวิ่งสวนทางมาด้วยความเร็วมาก จังหวะรถเขาเหมือนเสียหลักสไลด์แล้วข้ามมาชนเรา ถังน้ำมันประสานงากับเราเต็ม ๆ เลย ตอนนั้นรู้สึกวูบ ภาพดับไปเลย พอรู้สึกตัวขึ้นมาอีกที ไฟอยู่รอบตัว กำลังไหม้ตัวอยู่ โดยสัญชาตญาณเลยลงจากรถ แล้วก็ฉีกเสื้อผ้าลงไปกลิ้งเพื่อจะดับไฟตัวเอง มีคนพาเราไปส่งโรงพยาบาลที่นครสวรรค์ พอมาถึงเขาจับมัดก่อนเลย เขาบอกว่า ‘คุณบาดเจ็บสาหัสมากนะ ผมประเมินแล้วร่างกายมี ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ คุณไหม้ไปประมาณ ๒๒ เปอร์เซ็นต์’ คือครึ่งตัวบนไหม้หมดเลย หน้าไหม้ คิ้ว ขตา ไม่มีเหลือ คุณหมอพูดอยู่แต่ว่า ‘บดินทร์ต้องอดทนนะ ต้องอยู่ ต้องทำใจสู้’ คุณหมอยกมือเราขึ้นสูง แล้วก็เอาขวดยาเบตาดีนขวดใหญ่ ๆ เทราดจากหัวไหล่ลงไป แล้วใช้สำลีก้อนเป็นปั้นขูดเนื้อเขียว ๆ ออกให้หมด ตอนนั้นมันไหม้แขน หน้า และคอ เขาทำที่แขนก่อน พอทำที่แขนผมไม่ทราบว่าจะบรรยายอย่างไร มันเจ็บมาก พอเจ็บมากเราจะชักมือออกก็ไม่ได้ เพราะมันมีไม้ดามตรงใต้แขนอยู่ พอเขาขูดเขาก็บอกว่าทนหน่อยนะ ตอนนั้นนึกถึงคำหลวงพี่ขึ้นมาว่า ‘สัมมา อะระหัง’ เราทำอะไรไม่ถูก มันเจ็บ เราก็ตะโกน ‘สัมมา อะระหัง ๆ ๆ’ ตะโกนเป็นสิบ ๆ ครั้งเลยเท่าที่จำได้คุณหมอเขาบอกว่า ‘ไอ้นี่มันเล่นของ’ ตอนนั้นผมไม่สนใจ จำได้ว่ามือซ้ายโดนมัด ความที่เจ็บมาก มืออีกข้างที่อยู่ข้างเตียงจิกจนผ้าปูที่นอนขาดเลย พอทำข้างซ้ายเสร็จ ก็มาทำข้างขวา เราก็ ‘สัมมา อะระหัง ๆ ๆ’ อีกเป็นสิบรอบเลย
“พอมาครั้งที่ ๒ พอเห็นหมอแล้วเราพูดตรง ๆ ว่ากลัวหมอเลย คุณหมอท่านก็พยายามชวนคุยไม่ให้เราเครียด หมอยังไม่ทันจะทำ ผมก็ ‘สัมมา อะระหัง’ ก่อนเลย ‘สัมมา อะระหัง ๆ ๆ’ คือพูดดัง ๆ เพื่อปลอบใจตัวเอง แต่ว่าวันที่ ๒ นี้ เรารู้สึกว่าไม่เจ็บ แต่เรายัง ‘สัมมา
อะระหัง’ อยู่ พอมาครั้งที่ ๓ ซึ่งเป็นเรื่องเหลือเชื่อ คุณหมอก็ทำปกติเหมือนเดิม แต่คราวนี้ผมไม่ตะโกนแล้ว คือผมใช้คำว่า ‘สัมมา อะระหัง’ ในใจ คุณหมอยังแซวว่า ‘วันนี้เจ้าอ้วนไม่เล่นของหรือ’ พอทำในใจมันเหมือนใจเป็นสมาธิ พอเป็นสมาธิเรารู้สึกว่าเราทนได้ หลังจากครั้งที่ ๓ คุณหมอขูดเบามาก เพราะคุณหมอท่านกลัวเรื่องการติดเชื้อ
เหมือนคนที่ทำ baby face หน้าเป็นสีชมพู
เนื้อที่แย่ที่สุด คือ บริเวณคอ ซึ่งหนังอ่อนที่สุด ย่นที่สุด
ก็ขึ้นมาได้อย่างปาฏิหาริย์ ทุกวันนี้ก็ยังจดจำว่า
‘สัมมา อะระหัง’ คำนี้คำเดียวทำให้ผมรอดชีวิตมาได้
ผมบอกคุณหมอว่า ‘วันนี้ไม่เป็นไรครับ ผมสบายแล้ว คุณหมอขูดได้เลย เต็มที่เลย’ ซึ่งคุณหมอเองก็ยังแปลกใจ ‘เอ๊ะ! อะไรกัน ทำแค่ครั้งที่ ๓ เอง ไม่เจ็บเลยหรือ’ ‘ไม่ครับ ไม่เจ็บแล้ว’ ผมท่อง ‘สัมมา อะระหัง ๆ ๆ’ รวมกันจริง ๆ อยู่แค่เดือนเศษ จากคนที่ burn อย่างหนัก ๒๒ เปอร์เซ็นต์ ใช้เวลาเดือนเศษ จากคิ้วไม่มี ขนตาไม่มี เหมือนตัวดักแด้ ตอนนั้นขึ้นมาหมด เหมือนคนที่ทำ baby face หน้าเป็นสีชมพู เนื้อที่แย่ที่สุด คือ บริเวณคอ ซึ่งหนังอ่อนที่สุด ย่นที่สุด ก็ขึ้นมาได้อย่างปาฏิหาริย์ ทุกวันนี้ก็ยังจดจำว่า ‘สัมมา อะระหัง’ คำนี้คำเดียวทำให้ผมรอดชีวิตมาได้”
นี้คือตัวอย่างของผู้ประสบพบเจออานุภาพของการภาวนา ‘สัมมา อะระหัง’ ที่เราสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเองเช่นกัน เพราะคำนอบน้อมถึงพระรัตนตรัยนั้นเป็นวาจาที่ศักดิ์สิทธิ์ มีฤทธิ์ มีเดช มีอานุภาพ เป็น พุทธคุณ คือ เป็นพระคุณอันยิ่งใหญ่ไม่มีประมาณ มีอานุภาพเป็นอจินไตยดังที่พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) เคยเมตตาเทศน์สอนไว้ในรายการธรรมะเพื่อประชาชนว่า
“คำภาวนา ‘สัมมา อะระหัง’ เป็นพุทธานุสสติ ‘สัมมา’ แปลว่า ชอบหรือถูกต้อง ‘อะระหัง’ หมายถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ห่างไกลจากกิเลสอาสวะ ‘สัมมา อะระหัง’ จึงหมายถึงการส่งใจไปถึงพระพุทธเจ้าผู้ห่างไกลแล้วจากกิเลส ผู้ตรัสรู้แล้วเองโดยชอบ การส่งใจไปถึงองค์พระแก้วใส และบริกรรมภาวนาว่า ‘สัมมา อะระหัง’ อยู่เสมอ จะทำให้เราเข้าถึงพระธรรมกายภายใน มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งอย่างแท้จริง เมื่อใดที่เราปรารถนาความสุข พึงระลึกถึงพุทธคุณเมื่อนั้น ระลึกถึงเพียงหนึ่งนาที ย่อมเป็นนาทีทองแห่งความสุข นาทีแห่งบุญกุศล ระลึกถึงหนึ่งชั่วโมง ก็มีความสุขตลอดหนึ่งชั่วโมง ถ้าหากระลึกถึงอยู่ตลอดเวลา ก็จะมีความสุขตลอดเวลา เป็นสุขทุกทิวาราตรีกาล เพราะฉะนั้นให้ยึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึก ด้วยการฝึกฝนใจให้หยุดนิ่ง ทำตามหลักที่หลวงปู่วัดปากนํ้าท่านเคยสอนไว้ แล้วเราจะได้เข้าถึงพระรัตนตรัยกันทุก ๆ คน
เหมือนคนที่ทำ baby face หน้าเป็นสีชมพู
เนื้อที่แย่ที่สุด คือ บริเวณคอ ซึ่งหนังอ่อนที่สุด ย่นที่สุด
ก็ขึ้นมาได้อย่างปาฏิหาริย์ ทุกวันนี้ก็ยังจดจำว่า
‘สัมมา อะระหัง’ คำนี้คำเดียวทำให้ผมรอดชีวิตมาได้
ดังนั้น วันนี้จึงขอเรียนเชิญสาธุชนทุกท่านเริ่มภาวนา “สัมมา อะระหัง” นับครั้งที่ ๑ จนกว่าจะถึงครั้งที่สุดแห่งธรรมกันบัดเดี๋ยวนี้เลยเทอญ..