สร้างโลกแก้ว
เรื่อง : กองบรรณาธิการ

ภารกิจสร้างสันติภาพ
ในแอฟริกาตะวันออก

    ห่างหายจากวารสารอยู่ในบุญไประยะหนึ่ง วันนี้ทีมงานพีซเรฟโวลูชันกลับมานำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจจากอีกซีกโลกหนึ่งแก่ท่านผู้อ่านอีกครั้ง ด้วยเรื่องราวของผู้คนต่างชาติต่างภาษา ต่างศาสนา ต่างวัฒนธรรม แต่ไม่ต่างความรักในสันติภาพ 

    คราวนี้ทีมงานพีซเรฟโวลูชันเดินทางไปจัดปฏิบัติธรรมไกลถึงทวีปแอฟริกา โดยมุ่งไปยังประเทศแถบแอฟริกาตะวันออกเป็นอันดับแรก และจัดโครงการปฏิบัติธรรมขึ้นในประเทศเคนยา เมื่อวันที่ ๑๓ - ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๖

    ในครั้งนี้ แม้ว่าเราเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการล่วงหน้าแค่ ๑ เดือน แต่ก็มีชาวแอฟริกันในแถบนี้สมัครเข้ามาถึง ๑๘๔ คน จาก ๑๑ ประเทศ ซึ่งทีมงานคัดเฉพาะผู้ที่ทำบันทึกความดีออนไลน์ทุกวัน อย่างน้อย ๑๔ วัน มาร่วมปฏิบัติธรรมเพียง ๑๗ คน เป็นชาย ๙ คน หญิง ๘ คน จาก ๖ ประเทศ ได้แก่ ประเทศแทนซาเนีย เคนยา ยูกันดา เอธิโอเปีย ซูดาน และมาลาวี โดยมี พีซเอเจนต์อายา เช็บบิ เป็นหลักในการประสานงานครั้งนี้ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี 

    อายา เช็บบิ เป็นผู้หญิงตัวเล็กแต่ใจใหญ่ และเป็นมืออาชีพในการประสานงาน เธอช่วยติดต่อเครือข่ายลูกเสือ ซึ่งเป็นเครือข่ายใหญ่มากในแอฟริกา ให้มาช่วยจัดกิจกรรมสันทนาการ เพราะเธอต้องการให้พวกเขามารู้จักโครงการของเรามากขึ้น และหวังว่าจะได้ร่วมมือกันในอนาคต นอกจากนี้เธอยังช่วยให้การคุยกับคนแอฟริกันกลายเป็นเรื่องง่าย อายาจึงเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในครั้งนี้

    นอกจากอายาแล้ว ยังมีอีกหลายคนที่อาสามาช่วยงาน เช่น พีซเอเจนต์อิสซา จากเคนยา ที่ช่วยหาสถานที่ปฏิบัติธรรม และอาสาสมัครชาวเคนยาอีก ๒ คน คนหนึ่งเป็นลูกเสือ อีกคนเป็นครูสอนโยคะซึ่งอาสามาสอนฟรีโดยแลกกับการมาร่วมกิจกรรมกับเรา 

     สำหรับผลการปฏิบัติธรรมนั้น ปรากฏว่าทุกคนต่างมีประสบการณ์ที่ดีทั่วหน้ากัน ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดี เพราะสันติภาพที่แท้จริงที่เราทุกคนปรารถนานั้น จะเกิดขึ้นได้เมื่อมนุษย์เรามีสันติสุขภายในเท่านั้น

วิลสัน จากประเทศยูกันดา บอกว่า “ผมเห็น
เพชรสว่างที่กลางกาย” นอกจากนี้ทีมงานยัง
สังเกตเห็นว่า เขาสุขุมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และ
ยังต้องการที่จะจัดกิจกรรมแบบนี้ขึ้นในประเทศ
ของเขาด้วย 

ครูเกอร์ จากประเทศมาลาวี บอกว่า “ผมรู้สึก
ว่าเป็นเหมือนนักท่องอวกาศ ที่กำลังมุ่งหน้า
สู่แหล่งแห่งแสงสว่าง ซึ่งระหว่างทางเต็มไปด้วย
ดวงดาวมากมาย”

    ส่วนผู้เข้าร่วมโครงการคนอื่นเล่าว่า ตัวหมุน ตัวขยาย ไม่รู้สึกถึงร่างกาย บางคนบอกว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก (ทั้งที่นั่งนานถึง ๔๐ นาที เป็นอย่างน้อยในแต่ละรอบ) บางคนบอกว่าสบาย มีความสุขโดยไม่ต้องการอะไรอีก ไม่มีความคิด นิ่ง ๆ หรือเห็นแสงสว่าง (เขาใช้คำว่ามีบางสิ่งส่องสว่างออกมาจากกลางกายฉัน) บางคนเห็นดวงตะวัน ดวงจันทร์ ดวงแก้ว ที่ศูนย์กลางกาย รวมไปถึงความรู้สึกตกศูนย์

    ผลพลอยได้นอกจากนี้ก็คือ พวกเขายังเห็นความเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเองด้วย เช่น อดทนอดกลั้นมากขึ้น ไม่มักโกรธ และเครียดน้อยลง เป็นต้น

    การปฏิบัติธรรมร่วมกันในครั้งนี้ นอกจากก่อให้เกิดความสุขและประสบการณ์ดี ๆ มากมายดังกล่าวแล้ว ยังก่อให้เกิดมิตรภาพที่แน่นแฟ้นระหว่างผู้คนต่างเชื้อชาติ และช่วยเปิดโลกทัศน์ของทุกคนให้กว้างขึ้น ที่สำคัญยังช่วยจุดประกายความสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาซึ่งนับเป็นโอกาสทองที่เราจะได้เผยแผ่สิ่งดี ๆ ในศาสนาของเราให้ชาวต่างชาติ ได้แบบเนียน ๆ โดยไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียด เพราะพวกเขาเกิดคำถามขึ้นมาเอง เช่น พระพุทธเจ้าคือใคร อะไรคือจุดเริ่มต้นของสมาธิ ในพระพุทธศาสนาอธิบายเรื่องชีวิตหลังความตายและการกลับชาติมาเกิดไว้อย่างไรพระดูแลครอบครัวอย่างไร ทำไมพระต้องห่มจีวรสีส้ม ทำไมต้องโกนผม โกนคิ้ว พระมีครอบครัวได้หรือไม่ ทำไมผู้หญิงแตะต้องตัวพระไม่ได้ กิจวัตรกิจกรรมของพระเป็นอย่างไร พระจะฉันอย่างไรถ้าไม่มีใครประเคน ทำไมคุณถึงอยากบวช เป็นต้น 

    เรื่องราวดี ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ สร้างความประทับใจและภาคภูมิใจแก่ทีมงานมาก จนลืมคำว่า “อุปสรรค” ไปเลย เพราะในวันนี้เมล็ดพันธุ์แห่งสันติภาพเริ่มงอกงามในใจของเพื่อนมนุษย์ผู้มีบุญเหล่านี้แล้ว และจากที่ได้สัมผัสกับพวกเขา เรามั่นใจว่าภารกิจในการสร้างสันติภาพในดินแดนแถบนี้ จะมีบุคลากรที่เปี่ยมด้วยคุณภาพและมีใจเกินร้อยมาร่วมสานงานต่ออย่างแน่นอน..

เดนิส จากประเทศเคนยา เล่าว่า 
“บับเบิลอยู่กับผมตลอดเวลา มันเบา
สบายมาก คืนนี้ผมเข้าไปอยู่ในบับเบิล
ซึ่งสว่างมาก สงบจริง ๆ”