วารสารอยู่ในบุญ ธรรมะออนไลน์

พระธรรมเทศนา ปุจฉา-วิสัชนา บทความข่าว ผลการปฏิบัติธรรม ตักบาตรพระ บาลีน่ารู้ กฏแห่งกรรม ฝันในฝัน บวชพระ

บทความอยู่ในบุญ รองรับพระธรรม น้อมนำถวาย

บทความน่าอ่าน
เรื่อง : Tipitaka (DTP)

รองรับพระธรรม น้อมนำถวาย

รองรับพระธรรม น้อมนำถวาย

     พระไตรปิฎกบาลีหรือพระบาลีเป็นคัมภีร์พระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทที่บันทึกคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธ-เจ้า ในยุคแรกคำสอนของพระองค์เรียกโดยรวมว่าพระธรรมวินัย ต่อมาในภายหลังจึงแบ่งเนื้อหาออกเป็น ๓ หมวด คือ พระวินัย-ปิฎก พระสุตตันตปิฎก และพระอภิธรรมปิฎก พุทธศาสนิกชนถือว่าพระไตรปิฎกที่บรรจุคำสอน ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์นี้เปรียบเสมือนตัวแทนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดั่งพุทธพจน์ที่พระองค์ตรัสกับพระอานนท์ก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพานว่า พระธรรมวินัยจะเป็นศาสดาแทนพระองค์ภายหลังที่พระองค์ทรงล่วงลับไปแล้ว
 

รองรับพระธรรม น้อมนำถวาย

รองรับพระธรรม น้อมนำถวาย

       นับแต่โบราณกาล พระธรรมคำสอนของพระบรมครูได้รับการจารจารึกเป็นอักขระลงบนแผ่นใบลาน เก็บรวมเข้าผูกด้วยสายสนองมีไม้ประกับประกบหน้าหลังไม่ให้แตกมัด และรักษาไว้อย่างดีในห่อผ้า พร้อมป้ายฉลากเขียนรายละเอียดของเรื่องที่จารนั้นเสียบบอกไว้หน้าคัมภีร์ ทุกองค์ประกอบสะท้อนให้เห็นความตั้งใจที่จะน้อมถวายคัมภีร์ไว้เพื่อเป็นพุทธบูชา คัมภีร์พระไตรปิฎกใบลานจึงถือเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าพุทธศาสนิกชนให้ความเคารพบูชา ทั้งยังสรรค์สร้างศาสนสถานและศาสนวัตถุที่คู่ควรเพื่อรองรับมัดคัมภีร์ใบลานอาทิเช่น หีบพระธรรมและตู้พระไตรปิฎก ด้วยเชื่อมั่นว่าธรรมทานและวัตถุทานอันเลิศที่ได้น้อมถวายไว้ดีแล้วในบวรพระพุทธศาสนานี้ จะเป็นพลวปัจจัยส่งผลดลบันดาลให้ทายกทายิกา
 

รองรับพระธรรม น้อมนำถวาย

      ผู้มีส่วนในการสร้างได้ผลานิสงส์มหาศาล ดั่งปรากฏในคัมภีร์สังคีติยวงศ์ วรรณกรรมพระพุทธศาสนา ที่รจนาโดยสมเด็จพระวันรัตวัดพระเชตุพนฯ ในรัชกาลที่ ๑ กล่าวถึงอานิสงส์ของการถวายตู้บรรจุพระธรรมไว้สรุปความได้โดยสังเขป คือ หากผู้ถวายตู้บรรจุพระธรรมได้อัตภาพเป็นมนุษย์ ด้วยกุศลผลบุญแห่งการถวายจะทำให้เป็นผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่จะได้ในสิ่งที่ปรารถนา มั่งคั่งด้วยทรัพย์สมบัติและบริวาร มีผิวพรรณงดงาม มีกลิ่นกายหอมฟุ้งมีสติปัญญาหลักแหลม
 

รองรับพระธรรม น้อมนำถวาย

      หากเกิดเป็นกษัตริย์จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิครองทวีปทั้ง ๔ มีแก้ว ๗ ประการเกิดมาเป็นของคู่บุญ เมื่อเสด็จไปทางใดก็จะมีเหล่าเสนามาตย์พร้อมทั้งขบวนรถ ขบวนช้างขบวนม้า และขบวนทหารราบ แวดล้อมติดตามเป็นขบวนใหญ่ถึง ๗ โยชน์ หากไปบังเกิดเป็นเทวดา กุศลผลบุญจะดลบันดาลให้ได้เป็นพระอินทร์ ครองสวรรค์ช้นั ดาวดึงส์ถึง ๗ ครั้ง ครั้นกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง เมื่อได้ฟังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วจะออกบวชและได้บรรลุธรรม และในที่สุดหากผู้ถวายตั้งจิตปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งในอนาคต ผลบุญจากการถวายตู้พระธรรมนี้ จะเป็นพลวปัจจัยเกื้อหนุนให้เข้าถึงพุทธภูมิในภายภาคหน้า

รองรับพระธรรม น้อมนำถวาย

     อานิสงส์ที่กล่าวไว้ในวรรณกรรมยุคปฐมกษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ดังกล่าว ทำให้สันนิษฐานได้ว่า ชาวสยามน่าจะรู้จักการสร้างและตกแต่งหีบหรือตู้พระธรรมเพื่อถวายเป็นศาสนสมบัติมาก่อนหน้านั้นแล้ว แม้ไม่มีหลักฐานชัดเจนแต่ก็สามารถศึกษาประวัติที่มาได้จากหลักฐานข้างเคียง ตัวอย่างเช่น ข้อความที่ปรากฏในหนังสือสารานุกรมไทยฉบับเยาวชน ซึ่งกล่าวไว้ว่า ในจารึกปราสาทพระขรรค์ ที่จารึกภาษาสันสกฤตด้วยอักษรขอม พ.ศ. ๑๗๓๔ พบที่เมืองพระนคร ประเทศกัมพูชา ปรากฏคำว่า “หีบจีน ๕๒๐ ใบ” และปรากฏชื่อเมืองของอาณาจักรโบราณ ซึ่งนักโบราณคดีเชื่อว่าอยู่ในเขตสยามประเทศ นี้เป็นหนึ่งในหลักฐานที่คาดคะเนได้ว่าหมู่ชนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รู้จักใช้หีบมาตั้งแต่ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ซึ่งตรงกับสมัยสุโขทัย
 

 

       หีบในช่วงแรกที่ได้รับอิทธิพลจากจีนใช้บรรจุเสื้อผ้าหรือสิ่งของเครื่องใช้ เมื่อนิยมใช้สืบทอดเรื่อยมา จึงเริ่มมีการดัดแปลงออกแบบให้เหมาะกับประโยชน์การใช้สอยในวิถีชีวิตของคนไทย หากเป็นหีบหรือตู้ของชนชั้นสามัญทั่วไป วัสดุและการตกแต่งอาจไม่วิจิตรหรูหรานัก แต่หากเป็นของชนชั้นสูงย่อมใช้วัสดุคุณภาพดีและตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง โดยเฉพาะหากหีบและตู้นั้นสร้างขึ้นเพื่อรองรับพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าวัสดุและการตกแต่งย่อมละเอียดประณีตยิ่งๆขึ้นไป เกิดการผสมผสานเป็นผลงานพุทธศิลป์ที่มีเอกลักษณ์ เก็บไว้ในหอไตรตามอารามต่างๆ จากหีบทรงสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ที่ได้รับอิทธิพลจากจีน ก็ปรับเป็นหีบพระธรรมทรงสี่เหลี่ยม ด้านล่างทำฐานสอบเข้า ส่วนปากหีบเผยออก มีฝาครอบปิดด้านบน มีหูทำด้วยโลหะด้านข้างทั้ง ๒ ด้าน หรือพัฒนาจากหีบกลายเป็นตู้ด้วยการต่อขาลงมา ๔ มุม ตู้ด้านบนสอบเข้า ด้านหน้าด้านหลังกว้างกว่าด้านข้างมีประตูเปิดปิด ๒ บาน ภายในมีชั้นไม้สำหรับวางห่อคัมภีร์ใบลาน ๓-๔ ชั้น ขนาดของตู้แตกต่างกันไป จำแนกตามลักษณะของ “ขา” หรือ “ฐาน” ได้ ๔ แบบ

รองรับพระธรรม น้อมนำถวาย

หีบทรงสี่เหลี่ยม
 

รองรับพระธรรม น้อมนำถวาย

หีบพระธรรมฝาตัด
 

รองรับพระธรรม น้อมนำถวาย

หีบพระธรรมฝาคุ่ม
 

รองรับพระธรรม น้อมนำถวาย

ตู้พระธรรมฐานสิงห์ ตัวตู้ไม่มีขาแต่ตั้งอยู่บนแท่น ฐานเป็นชั้นซ้อน
 

รองรับพระธรรม น้อมนำถวาย

ตู้พระธรรมขาคู้ มีลักษณะคล้ายตู้พระธรรมเท้าสิงห์ส่วนปลายของขาคู้เข้าด้านใน
 

รองรับพระธรรม น้อมนำถวาย

ตู้พระธรรมขาสิงห์ ขาตู้เป็นรูปเท้าสิงห์ มีนิ้วและเล็บสิงห์บางครั้งเป็นเท้าสิงห์เหยียบลูกแก้ว
 

รองรับพระธรรม น้อมนำถวาย

ตู้พระธรรมขาหมู ส่วนปลายของขาทั้งสี่ ตรงและผายออกตามแนวสอบของทรงตู้
 

รองรับพระธรรม น้อมนำถวาย

ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี อธิบายลักษณะของตู้พระธรรมไว้ในหนังสือ “ตู้ลายรดน้ำ” ว่า
      “ตู้พระธรรมที่แท้จริงนั้น มีทรงเป็นรูปสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ ส่วนบนสอบ มีขาตั้งตรงมุม ๔ ขายาวจากมุมของตู้ลงไปประมาณ ๑๕ หรือ ๒๐ นิ้ว โดยทั่วไปขาของตู้พระธรรมนั้น ส่วนมากตกแต่งเป็นลายรดน้ำ หรือทำเป็นลายจำหลักไม้บ้างแต่เป็นส่วนน้อย แม้ว่าตู้พระธรรมจะมีขนาดแตกต่างกันอยู่มากก็ตาม ขนาดเฉลี่ยโดยทั่วไปพอกำหนดได้ดังนี้ คือ สูง ๕๐ นิ้ว กว้าง ๔๐ นิ้วและลึก ๓๐ นิ้ว ขาตู้ยาว ๑๕ หรือ ๒๐ นิ้ว”

(ตู้ลายรดน้ำ, ๒๕๐๓ : ๑๒)

 

     ตู้พระธรรมที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้เป็น ๓ สมัย คือ สมัยอยุธยา สมัยธนบุรี และสมัยรัตนโกสินทร์ แม้ตู้พระธรรมจะแตกต่างกันด้วยยุคสมัยและรูปแบบการตกแต่งทางศิลปะ แต่สิ่งที่แน่วแน่ตรงกันคือ ความตั้งใจของทายกทายิกาที่ถวายตู้พระธรรมไว้ในบวรพระพุทธศาสนา เพื่อรองรับคำ สอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมคำ อธิษฐานให้ผลบุญดังกล่าวส่งผลให้ตนประสบความสำ เร็จและบรรลุในสิ่งที่ปรารถนาไว้ดีแล้ว อันมีที่สุด คือ มรรค ผล นิพพานดังคำ จารึกที่ปรากฏที่ตู้ขาหมูมีลิ้นชัก ซึ่งเก็บรักษาไว้ ณ หอสมุดแห่งชาติ มีคำ จารึกที่ขอบล่าง ด้านหน้าว่า “ตู้ใบนิ นายแกน แมหนับแมทองยูสร้าง เมื่อพระพุทธะสาศะนาล่วงแล้ว ๒๔๐๘ พระวะษา ปีฉะลูสัพตศก เป็นเงินตราขอให้เป็นปัจจัยแก่พระนิพพานเถิด”

 

 


บุญเตือน ศรีวรพจน์. รามเกียรติ์จากตู้ลายรดน้ำ. กรุงเทพฯ : สำ นักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์
กรมศิลปากร, ๒๕๕๕.
ศิลป์ พีระศรี. เรื่องตู้ลายรดน้ำ. พระนคร : กรมศิลปากร, ๒๕๐๓.
อภิวันทน์ อดุลยพิเชฏฐ์. ลายรดน้ำ. กรุงเทพฯ : เมืองโบราณ, ๒๕๕๕.

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

บทความอยู่ในบุญทั้งหมด ฉบับที่ ๑๖๐ เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล