พระเจ้าปัพพตะ

วันที่ 06 กพ. พ.ศ.2567

6-2-67-1-b.png

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในกัปปัจจุบัน พระองค์ที่ ๒


                  นับเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ที่ ๒๓ ที่ตรัสพุทธพยากรณ์


                  ทรงพระนามว่า พระโภนาคมนะสัมมาสัมพุทธเจ้า


                  พระสรีระสูง ๓๐ ศอก


                  อายุขัยมนุษย์ในยุคนั้น ๓ หมื่นปี (คือเมื่อศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากกุสันธะเสื่อมสลายไป อายุมนุษย์ลดลงเหลือ ๑๐ ปี แล้วเพิ่มขึ้นจนเป็นอสงไขยปี แล้วลดลงเหลือ ๓ หมินปี)


                  พระองค์เป็นบุตรของพราหมณ์ยัญญทัตตะ และนางพราหมณีชื่ออุตตราพราหมณ์ผู้เป็นบิดาเป็นพราหมณ์มหาศาลของนครโสภวดี


                  ครองฆราวาสวิสัยอยู่ ๓ พันปี เห็นนิมิต ๔ ประการ เมื่อนางพราหมณีรุจิคัตตาผู้ภรรยาคลอดบุตรชื่อสัตถวาหะกุมารแล้ว ออกอภิเนษกรมณ์ด้วยยานคือช้าง มีผู้ออกบวชตาม ๓ หมื่นคน


                  ทําความเพียรอยู่ ๖ เดือน


                   ผู้ถวายข้าวมธุปายาส คือ ธิดาของพราหมณ์อัคคิโสณะ


                  นิสีทนสันถัต กว้าง ๒๐ ศอก คนเฝ้าไร่ข้าวเหนียวชื่อชฏาตินทุกะถวายหญ้า ๘ กำ


                   นั่งบนสันถัตโคนต้นอุทุมพร (มะเดื่อ)


                   พระอัครสาวกคือ พระภิยโยสะ และพระอุตตระ


                    พระพุทธอุปัฏฐากคือ พระโสตถิชะ


                    ทรงแสดงธรรม ๓ ครั้ง


                    ครั้งแรก เป็นปฐมเทศนา ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แก่ภิกษุ ๓ หมื่น ที่บวชตาม ที่อิสิปตนมิคทายวัน ใกล้สุทัสสนนคร


                    ครั้งที่สอง ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ เพื่อบรรเทาทิฏฐิฝ่ายปรปักษ์ ที่โคนต้นมหาสาละ ใกล้ประตูสุนทรนคร


                    ครั้งที่สาม ทรงแสดงอภิธรรม ๗ คัมภีร์ แก่เทวดาในเทวโลก


                     มีสาวกสันนิบาต เพียงครั้งเดียว ท่ามกลางพระอรหันต์ ๓ หมื่นโกฏิ เป็นครั้งที่พระองค์ได้คู่พระอัครสาวก


                     เสด็จดับขันธปรินิพพานเมื่อพระชนม์ ๓ หมื่นพรรษา ที่พระวิหารปัพพตาราม พระบรมสารีริกธาตุแผ่กระจายไปตามที่ต่างๆ เพื่อสรรพสัตว์ได้สักการบูชา


                      ในพุทธกาลนี้ พระโพธิสัตว์ของเราเกิดเป็นพระเจ้าปัพพตะ ครองกรุงมิถิลนคร เสด็จไปเฝ้าพระพุทธองค์ ในขณะที่พระบรมศาสดาเสด็จมายังเมืองของพระองค์ สดับพระสัทธรรมแล้ว ทรงมีพระราชศรัทธามาก ทูลวิงวอนให้พระบรมศาสดาประทับจำพรรษา ที่นครของพระองค์ แล้วทรงถวายมหาทานแด่พระตถาคตเจ้าและเหล่าภิกษุสงฆ์ ด้วยของมีค่าต่างๆ อีกมาก เช่น ผ้าไหมจากเมืองปัตตุณณะ ผ้าแพร ผ้ากัมพล ผ้าเปลือกไม้ ผ้าฝ้าย ฉลองพระบาทประดับด้วยทอง รวมทั้งบริขารต่างๆ มากมาย พระบรมศาสดาตรัสพยากรณ์ว่า พระเจ้าปัพพตะจะได้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในกัปเดียวกันนี้ พระราชาโพธิสัตว์ทรงมีปีติยินดียิ่งนัก ทรงตั้งพระทัยบำเพ็ญพุทธบารมีให้ยิ่งๆ ขึ้น

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.055949683984121 Mins