ความสุขชนิดนี้สามารถหาได้ในตัวเรานี่เอง ตราบใดที่มนุษย์ยังวิ่งวุ่นแสวงหาความสุขจากที่อื่น เขาจะไม่พบความสุขที่แท้จริงเลย มนุษย์ได้สรรค์สร้างสิ่งต่าง ๆ ขึ้นเพื่อล่อตัวเองให้วิ่งตามแต่ก็ตามไม่ทัน
...อ่านต่อ
ความสนิทสนมสัมพันธ์ของข้าพเจ้าและวิมลมานธิดาช่างทอง เป็นไปอย่างสม่ำเสมอและเวียนเข้าหาจุดมุ่งหมายเข้าทุกวัน ๆ เสมือนรอยเท้าโคที่เหยียบย่ำไปบนผืนนาในขณะลากแอกและไถ มันวนเวียนเข้าหาจุดศูนย์กลางของนาแปลงนั้นทุก ๆ รอบที่ย่างไปคนมีความรักจิตใจย่อมจดจ่ออยู่ในเรื่องรัก แม้จะสนทนาเรื่องใด ๆ ก็มาจบลงที่คำว่า “รัก” เสียทุกครั้ง โดยเฉพาะความรักของหนุ่มวัยต้น
...อ่านต่อ
“ข้าแต่ท่านผู้บำเพ็ญตบะ! ข้าพเจ้าเกิดแล้วภายใต้เศวตฉัตรแห่งหัสตินาปุรนครแคว้นปัญจาละนี้ วันเดียวกับที่ข้าพเจ้าลืมตาดูโลกนั่นเอง มีการชุมนุมพลทั้ง ๔ เหล่าทัพ คือ ทัพช้าง ทัพม้า ทัพรถ และทัพพลเดินเท้า เป็นการซ้อมใหญ่ประจำปี เป็นความภาคภูมิอย่างยิ่งของนายทหารที่ได้แสดงตนเฉพาะพระพักตร์พระมหากษัตริย์ในวันเช่นนี้ ด้วยการถือเอาเรื่องนี้เป็นนิมิต พระราชบิดาและพระประยูรญาติชั้นผู้ใหญ่ของข้าพเจ้าจึงขนานนามข้าพเจ้าว่า “จตุรงคพล”
...อ่านต่อ
เป็นเวลานานถึง ๔๐ ปีหลังพุทธปรินิพพาน ที่พระพุทธอนุชาผู้ประเสริฐจาริกสู่คามนิคมชนบทและราชธานีต่าง ๆ เกือบทั่วชมพูทวีป เพื่อโปรดเวไนยนิกรชนแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้ประทีปดวงใหญ่แห่งชมพูทวีปจะดับไปแล้ว แต่ประทีปดวงน้อยคือพระพุทธอนุชายังมีอยู่ และส่องแสงเรืองรองเพื่อภารตวรรษต่อไป
...อ่านต่อ
เมื่อถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระแล้ว พระมหากัสสปได้ให้ประชุมสงฆ์ปรารภเพื่อทำสังคายนาพระธรรมวินัย นัดหมายให้ทรงจำกันได้ว่า ธรรมอันใด วินัยอันใด พระผู้มีพระภาคทรงสั่งและทรงสอนไว้ว่าอย่างไร ทั้งนี้โดยคำนึงถึงคำกล่าวจ้วงจาบพระธรรมวินัยและพระศาสดาของภิกษุชรานามว่าสุภัททะ ท่านกล่าวท่ามกลางมหาสมาคมว่า
...อ่านต่อ
ขอนำท่านมาสู่บริเวณสาลวโนทยานกรุงกุสินาราอีกครั้งหนึ่ง ภายใต้แสงจันทร์สีนวลของใยนั้น พระผู้มีพระภาคบรรทมเหยียดพระกายในท่าสีหไสยา แวดล้อมด้วยพุทธบริษัทมากหลายแผ่เป็นปริมณฑลกว้างออกไป ประดุจดวงจันทร์ที่ถูกแวดล้อมด้วยกลุ่มเมฆก็ปานกัน
...อ่านต่อ
ในขณะที่สุชาวดีกำลังระทมทุกข์เพราะเกรงว่าจะต้องประสบด้วยสิ่งอันไม่เป็นที่รักอยู่นั้น อีกมุมหนึ่งอุปกะกำลังกระวนกระวายด้วยเกรงว่า จะพลัดพรากจะผิดหวังในสิ่งอันเป็นที่รัก ในเรื่องเดียวกันบุคคลบางคนอาจจะเศร้า บางคนอาจจะสุข หรืออาจจะทุกข์ด้วยกัน แต่ทุกข์กันไปคนละอย่างเท่านั้น
...อ่านต่อ
อุปกะ นั่งเศร้าซึมอยู่หน้าอาศรม ความร่มรื่นของราวป่าในยามนี้ ซึ่งเคยเป็นที่พออกพอใจของเขายิ่งนักนั้น ได้กลายเป็นที่ทรมานไปเสียแล้ว เสียงนกเล็ก ๆ วิ่งไล่จับกัน และส่งเสียงร้องด้วยความชื่นบานบนกิ่งไม้ เขาเคยมองดูและฟังเสียงมันด้วยความนิยมชมชื่น แต่บัดนี้มันเป็นของแสลงสำหรับเขา นาน ๆ เขาจะสะดุ้งขึ้นครั้งหนึ่ง เพราะได้ยินเสียงหวาดแว่วเหมือนสำเนียงของสุชาวดี แต่แล้วเขาคงเศร้าซึมต่อไป เพราะมันเป็นเพียงเสียงลมหวีดหวิวพัดผ่านมาเท่านั้น เขาก้มลงสำรวจตัวเอง เอามือลูบคลำแขนและปลีน่อง รู้สึกตัวว่าย่างเข้าสู่วัยชราแล้ว แม้จะไม่มากนักก็ตาม แต่ความรักเพิ่งจะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา
...อ่านต่อ
ย่างเข้ายามที่สองแห่งราตรี ลมเย็นพัดผ่านมาเป็นครั้งคราว รอบ ๆ อุทยานสาลวันเปียกชุ่มไปด้วยอัสสุชลธาราแห่งมหาชนผู้เศร้าสลดสุดประมาณเขาหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความรักและรันทดใจ พระจันทร์วันเพ็ญแห่งเดือนวิสาขะโผล่ขึ้นเหนือทิวไม้ทางทิศตะวันออกแล้ว โตเต็มดวงสาดแสงสีนวลใยลงสู่อุทยานสาลวันพรมไปทั่วบริเวณมณฑล ต้องใบสาละซึ่งไหวน้อย ๆ ดูงามตา แต่...บรรยากาศในยามนี้สลดเกินไปที่ใคร ๆ จะสนใจกับความงามแห่งแสงโสมที่สาดส่องเหมือนจงใจจะบูชาพระสรีระแห่งจอมศาสดานั้น
...อ่านต่อ
สูกรมัทวะให้ผลในทันที อาการประชวรของพระองค์ทรุดหนักลงอย่างน่าวิตกมีพระบังคนเป็นโลหิต แต่ถึงกระนั้นก็ยังเสด็จด้วยพระบาทเปล่า จากปาวาสู่กุสินารานครดังกล่าวแล้ว
...อ่านต่อ
พระพุทธองค์เสด็จมาถึงปาวาลเจดีย์ ประทับภายใต้ต้นไม้ซึ่งมีเงาครึ้มต้นหนึ่งตรัสกับพระอานนท์ว่า
...อ่านต่อ
พระอานนท์พุทธอนุชา ได้ติดตามพระศาสดาอยู่เป็นเวลานาน กระทำกิจทุกอย่างเพื่อพระพุทธองค์ โดยไม่คำนึงถึงความเหนื่อยยากลำบากใด ๆ ท่านมีจิตใจอ่อนโยน บริสุทธิ์สะอาดในพระศาสดา ประดุจมารดาผู้ประเสริฐพึงมีต่อบุตรสุดสวาท มีความเคารพยำเกรงในพระผู้มีพระภาค ประดุจบุตรผู้เลื่อมใสต่อบิดาและอยู่ในโอวาทของชนกผู้ให้กำเนิดตนท่านปฏิบัติหน้าที่ของท่านอย่างซื่อสัตย์เที่ยงตรงเฉกดวงตะวันและจันทรา จะหาผู้ใดปฏิบัติใดเล่าเสมอเหมือนพระอนุชาผู้นี้
...อ่านต่อ
ย้อนหลังไปเพียงเล็กน้อยจากเวลาที่พระศาสดาตรัสกับพระอานนท์เรื่องอสรพิษ  ณ  ปัจฉิมยามแห่งราตรี  ฝนซึ่งตกหนักมาแต่ปฐมยาม ได้เริ่มสร่างซาลงบ้างแล้ว ทวยนาครกำลังเข้าสู่นิทรารมณ์อันสนิท ใครจะนึกบ้างว่าในยามนี้มีมนุษย์อีกกลุ่มหนึ่ง กำลังทำความพยายามเข้าไปสู่พระนครเพื่อทรัพย์สมบัติซึ่งตนมิได้ลงแรงหามาเลย ถูกแล้ว! เขามีอาชีพเป็นโจร ประตูเมืองปิดสนิท มียามรักษาการณ์แข็งแรง เขาประชุมปรึกษากันตั้งแต่ปฐมยามว่าจะหาทางเข้าพระนครได้โดยวิธีใด ในที่สุดเมื่อใกล้ปัจฉิมยามเข้ามา เขาจึงตกลงกันว่าจะต้องเข้าไปทางท่อระบายน้ำ คืนนั้นพวกเขามิได้นอนเลย
...อ่านต่อ
ลำดับนั้น พระมหากรุณาซึ่งตั้งอยู่ในพระกมลอันบริสุทธิ์มาเป็นเวลาช้านานตั้งแต่พระองค์ทรงปรารถนาพุทธภูมิ เพื่อขนเวไนยสัตว์ให้ข้ามห้วงมหรรณพ คือความเกิด แก่ เจ็บ และตาย ได้เตือนพระทัยให้หวนรำลึกถึงพระปฏิญญา ซึ่งพระองค์ทรงให้ไว้แก่โลก พระทัยกรุณาได้ทูลพระองค์ว่า
...อ่านต่อ
 เช้าวันหนึ่ง พระอานนท์เข้าไปบิณฑบาตในเมืองสาวัตถี ได้พบพราหมณ์นามว่าสังครวะ ผู้มีความเชื่อถือว่า บุคคลจะบริสุทธิ์ได้ด้วยการอาบน้ำในแม่น้ำคงคาวันละสามครั้ง คือเช้า กลางวัน และเย็น บาปอันใดที่ทำในเวลาราตรี บาปนั้นย่อมล้างได้ลอยได้ด้วยการอาบน้ำในเวลาเช้า และอาบน้ำในเวลากลางวันเพื่อล้างบาปที่ทำตั้งแต่เช้าจนเที่ยง อาบน้ำในเวลาเย็นเพื่อล้างบาปอันอาจจะเกิดขึ้นในเวลาหลังเที่ยง น้ำที่จะอาบนั้นต้องเป็นน้ำในแม่คงคา โดยถือว่าได้ไหลมาจากแดนสวรรค์ ผ่านเศียรพระศิวะผู้เป็นเจ้ามาแล้วไม่เพียงแต่ล้างบาปอย่างเดียวเท่านั้น แต่สามารถบำบัดโรคภัยไข้เจ็บอีกด้วย และเมื่ออาบน้ำในแม่น้ำคงคาทุกวัน ตายแล้วย่อมไปสู่สวรรค์ ได้สถิตอยู่กับพระผู้เป็นเจ้า
...อ่านต่อ
ขอย้อนกล่าวถึงจริยาบถแห่งพระอานนท์ พระอนุชาร่วมพระทัย สมัยเมื่อพระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์อยู่
...อ่านต่อ
แลแล้ววันอันตื่นเต้นที่สุดก็มาถึง มันเป็นประดุจวันตัดสินความคงอยู่หรือความดับสูญแห่งพระพุทธศาสนา ถ้าเรื่องของนางจิญจมาณวิกาเป็นเรื่องจริงก็เป็นความดับสูญแห่งพระพุทธศาสนา ถ้าเรื่องของนางจิญจมาณวิกาเป็นเรื่องเท็จ ก็เป็นนิมิตว่าพระพุทธศาสนาจะรุ่งโรจน์ต่อไป ทั้งนี้เสมือนคนโง่นำมูลค้างคาวไปสาดต้นข้าว ด้วยเจตนาที่จะให้ต้นข้าวตาย แต่บังเอิญมูลค้างคาวเป็นปุ๋ยอย่างดีของต้นข้าว ยิ่งทำให้ต้นข้าวเจริญงอกงามเขียวสดยิ่งขึ้น
...อ่านต่อ
ภราดา! มีอีกเรื่องหนึ่งซึ่งแสดงถึงพุทธานุภาพอันน่าพิศวงแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้านั่นคือเรื่องนางสุปปวาสา โกลิยธิดา นางมีครรภ์อยู่ถึง ๗ ปี และเมื่อจะคลอดบุตรก็ปวดครรภ์อยู่ตั้ง ๗ วัน ได้รับทุกขเวทนาแสนสาหัส นางครวญครางด้วยความเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา แต่เนื่องจากนางมีศรัทธาเลื่อมใสมั่นคงในพระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อรู้สึกว่าชีวิตของตัวอยู่ในระหว่างอันตราย เหมือนศิลาซึ่งแขวนอยู่ด้วยเส้นด้ายเส้นน้อย ๆ จึงขอร้องสามีให้ไปเฝ้าพระตถาคตเจ้า และกราบพระมงคลบาท แล้วให้ทูลว่า
...อ่านต่อ
และแล้วนางวิสาขาก็กล่าวว่า “สุสิมา!  ลุกขึ้นเถิด  อย่าคร่ำครวญนักเลยข้อที่เธอลืมเครื่องประดับไว้นั้น เรามิได้ถือเป็นความผิดประการใด เราเองยังลืมได้ ทำไมเธอจะลืมบ้างไม่ได้ เครื่องประดับนี้มีค่าก็จริง แต่ก็หามีค่าเท่าชีวิตของเธอไม่ เครื่องประดับมหาลดาประสาธน์นี้ ถ้าหายหรือเสียไปเพราะเหตุใดเหตุหนึ่ง เราก็ทำใหม่ได้ แต่ชีวิตของเธอถ้าเสียไปจะทำใหม่ได้ที่ไหนดูก่อนนางผู้ซื่อสัตย์ การที่เธอจะยอมถ่ายถอนเครื่องประดับนี้ด้วยชีวิตของเธอนั้นซึ้งใจเรายิ่งนัก เธอจงเบาใจเถิด พระธรรมของพระศาสดาได้ชุบย้อมจิตใจของเรา ให้มองเห็นชีวิตมนุษย์และแม้สัตว์ทั่วไปเป็นสิ่งมีคุณค่าสูง ไม่อาจจะนำสิ่งของภายนอกมาเทียบได้ อนึ่งเธอเป็นที่รักไว้ใจของเรา เธอเป็นผู้ทำงานดี ซื่อตรงทั้งต่อหน้าและลับหลัง มีความจงรักนายของตนไม่เสื่อมคลายและปรวนแปร ด้วยเหตุนี้เธอจึงได้อยู่รับใช้ใกล้ชิดเรา ความดีของเธอนั้นมีอยู่มาก ความพลั้งเผลอบกพร่องเพียงเท่านี้จะลบล้างความดีของเธอได้ไฉน”
...อ่านต่อ
เมื่อนางวิสาขากล่าวจบลง ท่านมิคารเศรษฐีก็ก้มหน้านิ่ง ไม่รู้จะตอบนางประการใดพราหมณ์ชำระความระหว่างสะใภ้และพ่อผัวจึงกล่าวว่า “ข้าแต่ท่านเศรษฐี! เรื่องทั้งหมดนี้นางหามีความผิดไม่ นางเป็นผู้บริสุทธิ์” เศรษฐีจึงกล่าวขอโทษนางวิสาขาที่ท่านเข้าใจผิดไปนางวิสาขาจึงกล่าวว่า
...อ่านต่อ
“ดูก่อนภราดา! สำหรับท่านแรกคือ นางวิสาขามหาอุบาสิกานั้น มีเรื่องค่อนข้างจะมากอยู่ เป็นสตรีที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในพุทธจักร เป็นผู้มีบุญและรูปงาม สมบูรณ์ด้วยลักษณะเบญจกัลยาณี ๕ ประการคือ ผมงาม หมายถึงผมซึ่งยาวสลวยลงมาแล้วมีปลายช้อนขึ้นเองโดยธรรมชาติ ฟันงาม หมายถึงฟันขาวสะอาดเป็นระเบียบเรียงรายประดุจไข่มุกที่นายช่างจัดเข้าระเบียบแล้ว ริมฝีปากงาม หมายถึงริมฝีปากบาง โค้งเป็นรูปกระจับสีชมพูเรื่อคล้ายผลตำลึงสุก เป็นเองโดยธรรมชาติ มิใช่เพราะตกแต่งแต้มทา ผิวงาม หมายถึง ผิวขาวละเอียดอ่อนเหมือนสีดอกกรรณิการ์ ลักษณะนี้มี ๒ อย่าง คือ ถ้าผิวดำก็ดำอย่างดอกอุบลเขียว อมเลือดอมฝาด เปล่งปลั่งคล้ายสีน้ำผึ้งซึ่งนำมาจากรังผึ้งใหม่ ๆ วัยงามหมายถึงเป็นคนงามตามวัย งามทุกวัย เมื่ออยู่ในวัยเด็กก็งามอย่างเด็ก เมื่ออยู่ในวัยสาวก็งามอย่างหญิงสาว เมื่ออยู่ในวัยชราก็งามอย่างคนชรา
...อ่านต่อ

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร


ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล