ในภาคบ่าย หลังจากท่านประธานสงฆ์นำสาธุชนทั้งหลายทำสมาธิเพื่อความสงบร่มเย็นแก่จิตใจแล้ว มีการถวายปัจจัยบูชาธรรมเพื่อร่วมบุญใหญ่ ณ สภาธรรมกายสากล 

 

 

 

        นอกจากนี้ ที่อุโบสถวัดพระธรรมกายยังมีการประกอบพิธีอุปสมบทอุทิศชีวิตของสามเณรเปรียญ จำนวน ๑๘ รูป โดยมีพระธรรมกิตติวงศ์ ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งสามเณรผู้อุปสมบท ยกตนขึ้นสู่ความเป็นพระภิกษุในครั้งนี้ ต่างอบรมฝึกฝนตนเองมาเป็นเวลายาวนาน ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะอุทิศชีวิตไว้ในพระพุทธศาสนา ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด เพราะชีวิตสมณะนั้นเป็นชีวิตที่สูงส่ง เป็นเพศภาวะที่ประเสริฐ และมีโอกาสได้ครองกายด้วยผ้ากาสาวพัสตร์ อันเป็นผ้าสีสุดท้ายของผู้มุ่งประพฤติปฏิบัติเพื่อให้หลุดพ้นจากวัฏสงสาร นอกจากนี้ชีวิตสมณะยังเป็นชีวิตที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะเหมาะแก่การทำงานที่ แท้จริงของมนุษย์ คือ ทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมีแล้ว ยังสามารถทำภารกิจนำพาเพื่อนมนุษย์ให้เข้าถึงความสุขที่แท้จริง นั่นคือสุขอันเกิดจากการเข้าถึงพระรัตนตรัย   ในตัวและได้รู้จักเป้าหมายชีวิตที่ แท้จริงได้อีกด้วย 

 

 

 

 

 

 

       "การอุปสมบทในครั้งนี้ โยมพ่อโยมแม่ของ เธอทั้งหลายย่อมชื่นอกชื่นใจเป็นอันมาก ญาติพี่น้องก็ เช่นเดียวกัน นอกจากนั้นก็ยังมีเหล่ากัลยาณมิตรของ   วัดพระธรรมกายที่ร่วมกันเป็นเจ้าภาพสนับสนุนให้กำลังใจ เพื่อเห็นเธอได้เป็นพระในพระพุทธศาสนา จะได้เป็นกำลังสำคัญของพระศาสนาต่อไป 

 

      การบวชของเธอในครั้งนี้เป็นไปตามอุดมการณ์ ก็คือความตั้งใจที่สูงส่ง ต้องการที่จะมอบกายถวายชีวิตไว้ในพระพุทธศาสนา ขอให้ศึกษาให้เต็มที่ หลังจากที่ไม่ได้ศึกษาเล่าเรียนแล้ว ก็ให้ช่วยกันเผยแผ่พระศาสนา ช่วยเป็นกำลังสำคัญของพระศาสนาสืบต่อไป อันนี้ถือว่าเป็นบุญเป็นกุศล ซึ่งจะแผ่ปกไปถึงญาติโยมทั้งหลาย ตลอดจนคณะเจ้าภาพเหล่ากัลยาณมิตรทุกผู้ทุกคน ก็จะพลอยได้อานิสงส์จากการบวชของเธอในครั้งนี้ตลอดไป 

 

     การบวชในพระศาสนาเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก จะทำให้พระศาสนาถาวรมั่นคงยั่งยืน เหมือนกับที่ยั่งยืนมาได้ตราบทุกวันนี้ ก็เพราะพระสงฆ์เราช่วยกัน"