-: บันทึกเรื่องราวของชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นจากการมาวัดพระธรรมกาย :- |
: ร. ลิ่วเฉลิมวงศ์ |
...คุณรู้สึกอย่างไร หากสงครามกำลังจะหมดไปจากโลกใบนี้
การเข่นฆ่า เอาเปรียบ จะไม่มีต่อกันในระหว่างมนุษย์
มุมมืดในเมืองศิวิไลซ์ จะไม่มีโจร
ความแตกต่างระหว่างศาสนา มิอาจกั้นความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนาต่างหันหน้าเข้าหากัน
ทรัพยากรบนโลกมนุษย์ จะถูกแบ่งปันกันอย่างอาทร...
หากเม็ดฝน ๑๐๐ ล้านเม็ดตกลงมาจาก ฟากฟ้า กลายมาเป็นหยดน้ำเพียงหยดเดียว คงเป็นความมหัศจรรย์ที่น่าสนใจ พอๆ กับเรื่องราว ที่กำลังเกิดขึ้นบนตัวอักษรถัดๆ ไปจากนี้ เพราะ เรื่องที่จะนำเสนอต่อไปนี้ ไม่ได้เป็นเพียงวิถีชีวิต ที่เป็น Everyday life หรือวิถีชีวิตของคนปกติ ที่มีจุดหักเหชีวิตแบบธรรมดาๆ เช่น จนแล้วกลับรวย แต่เรากำลังพูดถึงจุดเปลี่ยนชีวิตครั้งสำคัญ และ ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่อาจเป็นมูลเหตุเริ่มต้น ของการก่อให้เกิดสันติสุขอย่างแท้จริง กลับคืนสู่มวลมนุษยชาติทั่วโลก...
พระริชาร์ด เอสโปซิโต้ (Richard Esposito) อดีตบาทหลวงแห่งนิกายโปรเตสแตนต์ ได้ตัดสินใจ มาบวชเป็นพระภิกษุในโครงการอบรมธรรมทายาท นานาชาติระยะสั้น ที่วัดพระธรรมกายท่านเป็นผู้มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่ง เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะที่ท่านเคยเป็นคณบดีของมหาวิทยาลัย ที่คลุกคลีอยู่กับคัมภีร์ไบเบิ้ลมากว่า ๓๐ ปี และจำคำสอนในไบเบิ้ลทั้งหมดได้ราวกับพระคัมภีร์ เคลื่อนที่ และมีภารกิจที่ต้องทำเป็นประจำคือ พูดต่อหน้าคน ๕,๐๐๐ คน ให้เชื่อและศรัทธาในพระเจ้า ท่านจัดรายการวิทยุ และยังเป็นบาทหลวงที่ถูกรับเชิญไปพูด ในโบสถ์ต่างๆ ในหลายประเทศ โดยเฉพาะปักหลักเผยแผ่สร้างความศรัทธาในพระเจ้าในประเทศเปอโตริโก (Puerto Rico) เป็นเวลายาวนานกว่าประเทศอื่นๆ
การทำงานของท่านเป็นการให้การช่วยเหลือแบบใต้ดิน ด้วยการช่วยรักษาความทรมานด้านจิตใจ และมอบคำปลอบโยนของพระเจ้าแก่ประชาราษฎร์ในประเทศคอมมิวนิสต์ที่ร้อนระอุด้วยความทุกข์ด้วยกันหลายประเทศ
"อาตมาเป็นคนสนใจด้านจิตวิญญาณมา ตั้งแต่เด็กๆ และจะพยายามค้นคว้าศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับจิตวิญญาณ สะสมประสบการณ์จากสิ่งเหล่านี้มา จนกระทั่งมาพบกับสถานการณ์เหนือธรรมชาติบางอย่าง จากนั้นจึงได้ตัดสินใจเป็นบาทหลวงเผยแพร่ศาสนา โดยกระทำอย่างจริงจังไปควบคู่กับการทำงานประจำ คือ เป็นผู้ช่วยแพทย์ไปด้วย..."
ท่านจบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านปรัชญาและการศึกษา จาก World University จบปริญญาโทด้านจิตวิทยาจาก Inter American University และเรียนต่อทางด้านการแพทย์เพิ่มเติม เกี่ยวกับการช่วยผู้ป่วยฉุกเฉินเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจในโรงพยาบาล
ดูจากการศึกษา หน้าที่การงาน ความเป็นที่ยอมรับของมหาชน เนื่องจากการดำรงตำแหน่งบาทหลวงผู้มีชื่อเสียงแล้ว มีเหตุการณ์อะไร บางอย่างหรือเปล่าที่เป็นแรงบันดาลใจ ทำให้ท่านกล้าหักเหชีวิต และทำสิ่งมหัศจรรย์ คือ การบวช เป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา !!
เพราะยากนักหากจะมีใครสักคน คิดทำสิ่งตรงข้ามกับความเชื่อที่ตัวเองยึดถือมาอย่างช้านาน และข้อความถัดไปจากนี้ พระริชาร์ดไม่ได้บอกว่าศาสนาไหนไม่ดี แต่สิ่งที่ท่านกำลังจะบอก คือท่าน เข้ามาสู่ศาสนาพุทธจากจุดร่วมที่เหมือนกันระหว่างศาสนาพุทธและศาสนาดั้งเดิมที่ท่านนับถือ และสมานความแตกต่างระหว่างศาสนาให้หมดไป จนสุดท้ายพบความสุขที่สุดของชีวิตอย่างที่ ไม่เคยพบมาก่อน และพร้อมจะบอกกล่าวต่อผู้คน และมหาชน
"....ได้เข้ามาสัมผัสกับพุทธศาสนาจากการแนะนำของคู่หมั้น ที่แนะนำให้รู้จักกับเพื่อนคนไทย โดยชวนมาวัดพระธรรมกาย และเขาก็ได้เล่าหลักธรรมคำสอนในพุทธศาสนาให้ฟัง รู้สึกประทับใจและทึ่งมาก เกี่ยวกับหลักการฝึกสมาธิในศาสนาพุทธ ว่าให้ค้นหาที่พึ่งที่แท้จริงภายใน สิ่งนี้มีอยู่ในตัวคนทุกคน ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา ซึ่งคำสอนนี้มาตรงกับคำสอนที่มีอยู่ในไบเบิ้ลที่กล่าวว่า
.."อาณาจักรของพระเจ้าอยู่ในตัวคุณ" แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตัวเองไม่เข้าใจถึงวิธีแสวงหาพระเจ้าในตัวเลย จากนั้นก็เริ่มสนใจได้ ลองฝึกสมาธิโดยวางใจไว้ในตัวที่ศูนย์กลางกาย ทำความรู้สึกเฉยๆ ซึ่งก็ไม่ขัดอะไรเลยกับหลัก คำสอนของพระเจ้า อีกทั้งมีโอกาสได้รับการแนะนำการฝึกสมาธิเป็นภาษาอังกฤษจากพระอาจารย์ที่ วัดพระธรรมกาย ในที่สุดก็พบความสว่างที่เกิดขึ้นภายในตัว มีความสุขมาก และหลังจากนั้น จึงได้เดินทางกลับอเมริกา นำการฝึกสมาธิไปฝึกต่อที่บ้านทุกวัน ช่วงนั้นก็ได้หันมาศึกษาหลักคำสอนในพุทธศาสนาเพิ่มเติม โดยดูรายการธรรมะผ่าน จานดาวเทียม"
หลังจากศึกษาธรรมะผ่านรายการจานดาวธรรม อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือนด้วยกัน ทำให้ท่านรู้สึกกระจ่างชัดถึงความเป็นสากลของศาสนา แล้วเปรียบเทียบกับไบเบิ้ลที่พระเจ้าพูดถึงการ Rebirth การเกิดใหม่ พบว่าสิ่งนี้มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันกับศาสนาพุทธได้อย่างเหลือเชื่อ และได้ค้นพบคำตอบที่ค้างคาใจมานานอย่างชัดเจนจากพุทธศาสนา โดยการฟัง Case study จากนั้นทำให้ความสนใจเกี่ยวกับศาสนาพุทธในใจท่าน ทวีขึ้นเรื่อยๆ
"ประทับใจมากที่หลักคำสอนในศาสนาพุทธสามารถอธิบายถึงการเกิดใหม่ การตาย ชีวิตหลัง ความตายได้เป็นเหตุเป็นผล แล้วยังสามารถพิสูจน์ได้ ด้วยการฝึกสมาธิ ซึ่งตัวเองยังไม่เคยพบวิธีการพิสูจน์สิ่งเหล่านี้ได้จากศาสนาไหน และยังเป็นวิธีที่ไม่ขัดต่อความเชื่อของศาสนาใดๆ ด้วยเหตุผลนี้ จึงทำให้รู้สึกเข้าใจในสิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านบอกว่า สิ่งนี้ก็เป็นความดีสากลที่ทุกคนสามารถปฏิบัติได้ และการปฏิบัติเช่นนี้ก็สามารถ เข้าถึงอาณาจักรของพระเจ้าในตัวคุณได้"
การให้โอกาสตัวเองศึกษาบางสิ่ง เพื่อนำไปเติมเต็มบางสิ่งที่ขาดหายไป ทำให้ท่านค้นพบ คำตอบในหลายๆ สิ่งที่ทุกชีวิตล้วนแต่แสวงหา จากเสน่ห์ของศาสนาพุทธ ที่เป็นความจริง ที่รอคอย ให้ทุกคนมาพิสูจน์นี่เอง จึงทำให้ท่านตัดสินใจบวช
"ในเมื่อรู้สึกดีต่อคำสอนในศาสนาพุทธ ก็ไม่อยากสัมผัสความรู้สึกดีนี้เพียงแค่ผิวๆ แต่อยากจะกระโจนลงไปศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้เพื่อต้องการได้รับประโยชน์ให้เต็มที่ เหมือนการกระโจนตัวลงไปในแม่น้ำ ไม่ใช่เพียงแค่แตะๆ เท่านั้น เพราะการแตะๆ แบบนั้น ก็จะทำให้ไม่ค่อยได้อะไร..."
และนี่แหละ คือ จุดหักเหที่ทำให้ท่านคิดบวช!! จากความตั้งใจในการบวช และการมุ่งมั่นต่อการแสวงหาพระเจ้าในตัว ทำให้ขณะบวชได้ไม่นาน พระริชาร์ดมีผลการปฏิบัติธรรมอันวิเศษ ท่านปีติจนน้ำตาไหล และบอกว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยพบความสุขเช่นนี้เลยในชีวิต
"จากการที่เคยพูดสอนศาสนาต่อหน้ามหาชนกว่า ๕,๐๐๐ คน ก็รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ภูมิใจมาก แต่ยังเทียบไม่ได้เลยกับความสุขที่ได้จากการฝึกสมาธิเพียง ๔-๕ วินาที ที่พบแสงสว่างอันโชตนาการภายในตัว มันรู้สึกนิ่งสงบ มีความสุขอย่างเหลือล้น เหมือนเป็นสิ่งที่แสวงหามาตลอดทั้งชีวิต แล้วได้มาพบแล้วในวันนี้"
จากบาทหลวงได้ยกฐานะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัย นับเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ แต่หากมีคนอเมริกันมาถามท่านว่า ท่านเป็นบาทหลวงมีความเชื่อในเรื่องของพระเจ้าแล้วทำไมถึงมาบวช หากคุณเป็นท่าน คุณจะตอบมหาชนเหล่านั้นอย่างไร...?
"..ไม่มีความกังวลใดๆ เลยในการที่จะตอบ กับเพื่อนชาวอเมริกันทั้งหลาย เพราะคนที่หิวกระหาย อยากรู้ความเป็นจริงของชีวิตมีอยู่เป็นจำนวนมาก พวกเขาทุกคนกระหายที่จะรู้ว่า ตัวเองคือใคร ตายแล้วไปอยู่ที่ไหน เรามาจากไหน ซึ่งในพุทธศาสนานั้นมีคำตอบ ผมจะบอกพวกเขา ว่า อาณาจักรของพระเจ้าอยู่ในตัวคุณอย่างที่พระเยซูบอก และคุณสามารถแสวงหามันได้ด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนศาสนา เขาสามารถทำสมาธิได้โดยไม่ขัดต่อหลักความเชื่อ ในเมื่อหลายชีวิตแม้เข้าโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ แต่ยังดื่มเหล้าอยู่ มีชีวิตครอบครัวที่ยังไม่มีอะไรดีขึ้น ก็น่าจะลองมาศึกษาหลักปฏิบัติ นำการฝึกสมาธิไปใช้ เผื่อจะทำให้ชีวิตดีขึ้น"
นอกจากความสุขสงบ ที่ได้รับจากการฝึกสมาธิแล้ว ท่านยังได้รับประโยชน์ที่มากไปกว่านั้น...
"แสงสว่าง ณ กลางตัว คือเบื้องต้นของประสบการณ์จากสมาธิที่เห็น แต่จุดสำคัญมากไปกว่านั้น คือ ได้มองเห็นนิสัยที่ไม่ดีในตัว ซึ่งเมื่อก่อนตัวเองไม่เคยมองเห็นตัวเองแบบนี้เลย และด้วยความพร้อมของชีวิตเกือบทุกด้าน ความมีหน้ามีตาและชื่อเสียงทางสังคม ทำให้ไม่เคยมามอง ตัวเองตรงจุดนี้เลย ซ้ำยังไม่คิดแคร์อะไรด้วย แต่ปัจจุบันนี้อาตมามีเป้าหมายอันสูงสุดว่า จะต้องเข้าถึง พระธรรมกายภายในตัวให้ได้ เพราะจะทำให้เรา ไปศึกษาต่อได้ถึงความลับของชีวิตตัวเอง ว่าเรา มาจากไหน การไปเกิดมาเกิด การระลึกชาติ...
และหากเรามีเป้าหมายอย่างชัดเจนในใจตลอดเวลาว่า เราจะต้องเข้าถึงพระธรรมกายให้ได้ สิ่งนี้จะทำให้เราสามารถมองตัวเอง มองเห็นสิ่งที่ไม่ดีในตัวเองและพร้อมที่จะแก้ไขให้หมดไป เพื่อให้เรามีความโลภ ความโกรธ ความหลง ที่น้อยลง และบริสุทธิ์พอที่จะเข้าถึงพระธรรมกาย"
จากการที่เคยเป็นบาทหลวงสอนศาสนามามาก มีประสบการณ์และมุมมองความคิดที่ กว้างไกลเราคงอยากรู้ต่อว่า ในใจท่านคิดกับ วัดพระธรรมกายอย่างไร
"..จะไม่มีใครอยากมาที่วัดนี้ หากที่นี่ไม่ดีจริง แต่ทุกวันนี้อาตมาเห็นคนมากมายที่มุ่งเข้าสู่ วัดพระธรรมกายนับแสน ที่นี่เหมาะที่จะเป็นวัด แห่งศตวรรษที่ ๒๑ ที่มีสถานที่ และเทคโนโลยี ที่เหมาะสมสำหรับการเผยแพร่พุทธศาสนาไปใน วงกว้าง เมื่ออาตมามาเห็นวัดและสิ่งก่อสร้างที่นี่ ทำให้อาตมาสัมผัสได้เลยว่า ทุกสิ่งของที่นี่เกิดขึ้นจากความดีงาม และคุณธรรมของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ หลวงพ่อเป็นบุคคลที่วิเศษสุดเท่าที่เคยเห็นมา ท่านต้องการจะสร้างสันติสุข ให้บังเกิดขึ้นแก่มวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง ซึ่งสิ่งนี้ท่านก็บอกอย่างชัดเจนว่า สันติภาพโลกจะเกิดขึ้นได้ ไม่ได้มาจากการสู้รบกัน แต่จะเกิดจากการทำให้ทุกคนบนโลกได้เข้าถึงความสงบสุขภายใน..."
หากการบวชพระนั้น เป็นจุดเริ่มต้นให้การค้นหาชีวิตของท่านเดินทางมาถึงจุดหมายแล้วละก็ นับจากนี้คุณคิดว่าท่านวางแผนในอนาคตไว้อย่างไร
"..นับจากนี้อาตมาคงไม่อ้างลัทธิเทวนิยม หรือกล่าวอ้างศาสดาใดๆ อีก แต่จะใช้ชีวิตจริงที่ ตัวเองประสบความสุขจากการค้นพบด้วยตัวเองที่พิสูจน์มาแล้ว เป็นตัวอย่างเพื่อบอกชาวโลกให้รู้ว่า ความสุขภายในนั้นมีอยู่ และทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนาก็ต่างแสวงหาได้เพราะเป็นสิ่งสากล โดยการนำใจให้กลับสู่ความสงบภายใน ด้วยการทำสมาธิ การวางใจไว้เฉยๆ โดยไม่ได้คิดอะไรที่กลางตัว แล้วคุณจะพบความสุขที่คุณต่างแสวงหามานาน และการจะมาศึกษาเรื่องราวเหล่านี้ให้เข้าใจง่าย และลึกซึ้ง ถึงหลักปฏิบัติที่ถูกต้อง ด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด ก็คือ ติดจานดาวธรรม เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความดีสากลให้เผยแพร่ออกไป..."
พลังศรัทธา ความเชื่อของทุกศาสนา แม้มีจุดแตกต่างกันในรายละเอียด แต่หากมีความดีสากลสักอย่าง ที่ไม่ขัดต่อความเชื่อในศาสนาใดๆ เลย และเป็นวิธีที่สามารถทำให้ทุกคนพบความสุขอย่างที่ปรารถนามาทั้งชีวิต จะเป็นหนทางอีกทางหนึ่งที่ดีกว่าไหม ที่จะทำให้เหล่ามนุษย์กว่า ๖,๐๐๐ ล้านคนทั่วโลก รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน และนับจากนี้ไป จะไม่มีสงครามระหว่างศาสนา ไม่มีการเข่นฆ่า หลุดพ้น จากความสับสนวุ่นวาย สู่ความสุขสงบที่เรียบง่าย และหมดจด แต่เต็มไปด้วยความสามัคคีรวมเป็นหนึ่ง
คุณว่าดีกว่าไหม หากคน ๖,๐๐๐ พันล้านคน จะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ด้วยความดีสากลที่ทุกคนสามารถทำได้ !!